6 กับดักสำคัญ ที่ทำให้คุณไม่รวยสักที

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมตัวเอง ไม่รวยอย่างที่หวัง ทั้งๆ ที่ทำงานมานานได้เงินเดือนก็มาก แต่ก็ยังมี เงินเหลือเก็บไม่มาก ใช้เงินเดือนชนเดือน แถมยังมีหนี้บัตรเครดิตที่ค้างชำระสะสมโดนคิดดอกเบี้ยได้แต่จ่ายขั้นต่ำไปก่อน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และมีหลายๆ คนที่เคยประสบมาแล้ว เหลียวมองกลับมาที่สมุดบัญชีธนาคารก็ได้แต่โอดครวญ

แต่บางทีปัญหาเหล่านี้จะลดลงไปได้หรือไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคุณมีความระมัดระวังการใช้จ่าย ใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ใช้จ่ายตามอารมณ์และความอยากได้อยากมีมากเกินไป

จนกลายเป็นความฟุ้งเฟ้อหรือสุรุ่ยสุร่าย ความที่เป็นคนมือเติบจะทำให้เก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินเพื่อความสุขไปในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์ ขาดการมองถึงอนาคตและไม่รู้จักการบริหารรายได้ที่ได้มา

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 กับดักที่สำคัญในการใช้ชีวิต ที่ไม่ทำให้คุณร่ำรวย อยู่สุขสบายเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งหากหลีกเลี่ยงหรือพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทำตัวแบบอย่างที่จะกล่าวถึงเหล่านี้ อาจช่วยให้ชีวิตของคุณมีความสุข อยู่อย่างสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้

1.ใช้ชีวิตเกินค่าครองชีพ

เงินเหลือเก็บไม่มาก

หลายคนใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งจับจ่ายตามใจชอบ ซื้อของที่อยากได้ หรือแม้แต่ยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต เพียงเพื่อต้องการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นมาประดับชีวิตคุณให้ดูดี และ “ดูมี” เหมือนคนอื่น คนอื่นที่ว่าอาจทำได้ เพราะสถานะทางการเงินของเขาอาจมั่นคงหรือพร้อมกว่า

แต่การใช้เงิน “เกินค่าครองชีพที่จำเป็น” เช่น กาแฟแก้วละ 35-40 บาท กับ กาแฟแก้วละ 100-170 บาท ราคากาแฟแก้วละเท่าไหร่ ที่คุณรู้สึกว่าซื้อง่ายจ่ายสบายใจได้ทั้งเดือน นั่นคือราคากาแฟที่เหมาะกับค่าครองชีพที่คุณแบกรับไหว หากรู้สึกว่าหนักใจที่จะจ่ายแต่อยากซื้อ นั่นคือสัญญาณอันตรายทางการเงินที่คุณกำลังใช้เกินตัวอยู่

2.หนักไม่เอา เบาไม่สู้

m21

“ความจน” เป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าที่คุณคิด ถ้าหากคุณลองถามมหาเศรษฐีทุกคนที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ขยันทำมาหากิน พัฒนาตนเอง และกล้าก้าวข้ามความเหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งสร้างตัวจนร่ำรวย พวกเขาเหล่านั้นจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อยากกลับไปจนอีก” แล้ว พวกเขาเหล่านี้ต้องมีความพยายาม มุมานะ อดทน ต่อความยากลำบากมาทั้งนั้น

แต่สำหรับหลายคนที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ เพิ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่สู้งานหนัก ไม่พร้อมกลับบ้านดึก หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่ตรงหน้าที่ควรรับผิดชอบ ก็คงยากที่ก้าวไปสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน เพราะเงินทองต้องแลกด้วยเหงื่อเสมอ

3.ผลัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวันๆ

m23

สโลว์ไลฟ์ คือชีวิตชั้นสูง ที่คนที่มีฐานะทางการเงินพร้อมพรั่งเท่านั้น จึงจะพร้อมสำหรับการนั่งจิบกาแฟเรื่อยๆ ท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ บินไปเที่ยวเมื่ออยากไป ใช้เงินซื้อความสะดวกสบายเท่าที่สบายใจ แต่กลับมาก่อน คุณยังเป็นหนี้ คุณยังไม่มีการเงินที่มั่นคง คุณยังไม่มีความสะดวกมือในการจับจ่าย เพราะคุณยังไม่มีวินัยทางการเงินที่ดีและรัดกุม

ที่สำคัญคุณยังทำงานและเก็บเงินแบบผัดวันประกันพรุ่ง คุณต้องจัดลำดับความสำคัญ 1 2 3 ว่าเป้าหมายที่คุณต้องการในชีวิตคืออะไร จะทำให้คุณวางแผน ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และสร้างวินัยให้กับชีวิตที่ต้องการได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว

4.ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น

m27

ไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้ แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังต้องมีคอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงานคุณภาพให้ประสบความสำเร็จ เมื่อคุณต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีม สิ่งสำคัญไม่ใช่ผลงานที่ประสบความสำเร็จตามเป้า แต่คือประสิทธิภาพในการประสานงานให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดตามที่ตั้งเป้าไว้

หลายคนพลาดโอกาสสำคัญในการก้าวหน้าหรือเลื่อนตำแหน่งงาน เพราะไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานคนอื่นได้ จึงทำให้ผู้บริหารเห็นว่า คุณยังไม่เหมาะสมจะเลื่อนตำแหน่ง หรือ หากคุณทำธุรกิจอยู่ ก็คงจะติดขัดอย่างแน่นอน

หากต้องร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อขยายธุรกิจ แต่คุณกลับทำตัวเป็นพระเอกอยู่คนเดียว และเที่ยวบอกใครๆ ว่าคุณทำงานนี้สำเร็จทั้งๆ ที่เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของทีมงาน

5.กลัวการตั้งเป้าหมายในชีวิต

m24

การพุ่งชนเป้าหมาย อาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับบางคน เช่น คนที่ตั้งเป้าว่าจะ “ปลดหนี้” แต่กลัวการเห็นเงินในบัญชีพร่องลงจากการชำระหนี้ตรงตามเวลา หรือไม่มีวินัยในการปลดหนี้ จึงทำให้เลี่ยงการชำระหนี้ จนเป็นเหตุให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บเงิน 10-20% จากเงินเดือนเป็นประจำ แต่กลับถอดใจ

เพราะเห็นสินค้าที่ชอบกำลังลดราคากระหน่ำ ทำให้ต้องควักเงินซื้อมาจนได้ และเป้าหมายที่อยากเก็บเงินจึงล้มเหลวไม่เป็นท่า ความล้มเหลวที่คนเหล่านี้ประสบคือ “ความกลัวเป้าหมายที่ตนอยากทำ” หรือ ไม่กล้ามีเป้าหมาย เพราะกลัวทำไม่ได้ จึงเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้ชีวิตของคุณพังและไม่สามารถหลุดพ้นความจนได้สักที

6.คิดมาก จนก้าวสู่ความขี้ขลาด

m26

คนคิดมากกับคนรอบคอบนั้นต่างกันมาก คนคิดมากจะไม่ลำดับข้อมูลที่ควรนำมาไตร่ตรอง แต่จะนำทุกปัญหามารวมกันจนทำให้ไม่เห็นทางออก แต่คนที่คิดรอบคอบจะคิดเป็นเรื่องๆ และลำดับความสำคัญว่าเรื่องใดควรมาก่อนมาหลัง ทำให้คิดเป็นกระบวนการและได้คำตอบในแต่ละปัญหาอย่างรวดเร็ว

คนประเภทที่คิดมากเมื่อทำธุรกิจ จะไม่กล้าวางแผนในการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เพราะกลัวความล้มเหลว ทำให้เสียโอกาสสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต หรือ คนที่คิดมากเมื่อทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน จะกลัวการแสดงความคิดเห็น หรือ ไม่กล้าที่จะทำงานยากๆ เพื่อพัฒนาตนเอง

ซึ่งเป็นเพราะการไตร่ตรองโดยใช้ทุกความคิดมารวมกัน จนกลายเป็นความกังวล หรือ ขยายจนเป็นความขี้ขลาด ที่จะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ทั้งๆ ที่โอกาสมาอยู่ตรงหน้า

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากสุขสบาย ร่ำรวยกับเขาสักที คุณควรเลือกใช้ชีวิตที่พอเหมาะ พอดี ไม่เกินฐานะของตัวเอง รวมถึงการใช้เงินอย่างฉลาดโดยระมัดระวังค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ ก็จะทำให้สามารถดูแลการเงินได้ดีกว่าเดิม รู้ว่าเงินควรจะถูกนำใช้ไปอย่างไร ใช้ในด้านไหนให้เกิดประโยชน์ ให้เงินงอกเงยขึ้นมา

รู้ว่าช่องทางไหนเป็นทางที่ต้องระวัง ไม่ให้เป็นการใช้เงินที่ฟุ้งเฟ้อ เพราะความต้องการของมนุษย์เราไม่มีที่สิ้นสุด ได้อย่างหนึ่งแล้วก็มักอยากได้อีกอย่างหนึ่งตามมา การมีสติและคิดให้รอบคอบก่อนใช้เงินออกไป จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำมากที่สุด

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช