6 กลยุทธ์ทำ ธุรกิจค้าปลีก ให้ประสบความสำเร็จ

ปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีก รวมถึงร้านค้าปลีกดั้งเดิมอย่างโชว์ห่วย ถือเป็นธุรกิจที่ผูกพันและอยู่เคียงคู่คนไทยมายาวนาน เดินเข้าออกซอกซอยไหน หรือขับรถตามริมถนนใหญ่มักต้องมีร้านค้าปลีกสมัยใหม่และโชว์ห่วยตั้งอยู่ให้เห็น อาจกล่าวได้ว่าธุรกิจค้าปลีกเป็นหนึ่งแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโต

แนวโน้มสถานการณ์ค้าปลีกอีก 5 ปีธุรกิจค้าปลีกเติบโตสูงขึ้นในทุกฟอร์แมต ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ โดยจะเห็นว่าตลอด 10 ปี ที่ผ่านมาโมเดลร้านสะดวกซื้อมีแนวโน้มเติบโต 10% ต่อเนื่อง เพราะการขยายตัวของสังคมเมือง รวมถึงการเปิดเออีซีเป็นโอกาสสำคัญในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา และรูปแบบของการขายออนไลน์

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีเทคนิคและกลยุทธ์การทำธุรกิจค้าปลีกให้ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ สร้างการเติบโตให้ยั่งยืน มาฝากผู้ที่กำลังสนใจและมองหาช่องทางในการทำธุรกิจค้าปลีก หรือผู้ประกอบการที่กำลังทำธุรกิจค้าปลีกอยู่ เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีกให้อยู่รอด ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคง

1.เลือกทำเลที่ตั้งร้านค้าใกล้แหล่งชุมชนหรือคนเดินผ่าน

ถือเป็นเรื่องสำคัญก่อนที่คุณจะทำธุรกิจค้าปลีก เลือกทำเลผิดก็เหมือนกับว่าคุณขุดหลุมตัวเอง หลักการง่ายๆ ในการทำธุรกิจค้าปลีกหรือเปิดร้านค้าเพื่อขายของ

ต้องดูว่ามีคนผ่านหน้าบ้านคุณหรือทำเลนั้นๆ กี่คน อยู่ตรงหัวมุมที่มีคนสัญจรเดินผ่านเยอะไหม หรือจุดที่มีคนมองเห็นเยอะหรือเปล่า ถ้าทำเลไม่ใช่แบบนี้ก็อย่าเสี่ยง

2.ต้องคิดต่าง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการค้าปลีกต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าสามารถทำธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จ ถ้าเชื่อมั่นแล้วจะทำให้กล้าที่จะคิดต่างและเปลี่ยนแปลงสิ่งมีอยู่ หรือรูปแบบการทำธุรกิจเดิมๆ ให้ฉีกหนีไปจากคนอื่น

เช่น ร้าน 7-11 กล้าที่จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง มีรูปแบบร้าน การตกแต่ง การแต่งกาย ซึ่งไม่มีใครทำมาก่อน ถ้าเป็นร้านค้าปลีกแบบโชว์ห่วยอาจให้การรับประกันสินค้า หรือให้เชื่อสินค้าแล้วจ่ายเงินภายหลังได้ ตรงนี้จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี

กรณีธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซี โลตัส ซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองชัดเจน เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามาก สามารถสั่งซื้อสินค้าบนออนไลน์ แล้วจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว

3.รู้จักบริหารจัดการสินค้า สินค้าขายดี-ไม่ดี

ทำธุรกิจค้าปลีกคุณต้องเน้นความแตกต่าง ใส่ความเอาใจใส่ลงไป ดูแลเสมือนคนในครอบครัว แม้จะเป็นธุรกิจเดียวกันแต่ถ้าเราสร้างความแตกต่างได้ ลูกค้าก็จะมาหาเรา

ส่วนสินค้าที่ขายไม่ออกอย่าเสียดาย เพราะเวลาและโอกาสเป็นเรื่องสำคัญกว่า ตั้งใจขายสินค้าตัวเดียวที่ตลาดต้องการ และทำให้ดี ดีกว่าขายสินค้าหลายๆ ตัวที่ตลาดไม่ต้องการ และต้องบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้ดี พยายามระบายสินค้าออกให้เร็วที่สุด

การบริการจัดการสินค้าจำเป็นต้องมีข้อมูลสถิติ โดยใช้เครื่องเก็บเงินของร้านเป็นตัวเก็บสถิติ ดูว่าสินค้าตัวไหนขายดี และขายดีช่วงเวลาไหน เพื่อจะได้เตรียมให้เพียงพอและทันต่อความต้องการของลูกค้า

และควรวางบนชั้นในระดับสายตาเพื่อให้ลูกค้าเห็นได้ง่าย สินค้าตัวไหนขายดีต้องรีบสั่งเข้าร้าน ตัวขายไม่ดีต้องรีบนำออก เพื่อเพิ่มยอดขายและลดการสูญเสียโอกาสการขาย

4.ให้บริการเป็นเลิศ สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าสูงสุด

ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถดึงดูดลูกค้าเข้าใช้บริการได้ดี ลูกค้าจะเดินเข้ามาใช้บริการอยู่ที่การให้บริการของร้านค้าปลีกคุณจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้หรือไม่

ลูกค้าต้องการความสะดวกสบาย ให้บริการเป็นเลิศ การจัดวางสินค้าสะดวกในการหาซื้อ จัดวางสินค้าให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน ของกิน ของใช้ แยกออกจากกัน

สั่งสินค้าตรงกับความต้องการลูกค้า สินค้าคุ้มค่า คุ้มราคา วางมาตรฐานเท่ากันทุกร้าน สร้างบรรยากาศภายในและภายนอกร้านให้ดูสะอาด สว่าง ปลอดภัย และสินค้าต้องมีคุณภาพ สะอาดถูกหลักอนามัย มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

5.รู้จักใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขาย บางช่วง บางเวลา

เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกต้องทำ เพื่อกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่วงเวลา หรือเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าให้เข้าใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แจก แถม ทำบัตรสมาชิก สะสมแต้ม ถือเป็นวิธีการกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งสามารถรักษาฐานกลุ่มลูกค้าเอาไว้อย่างเหนียวแน่นได้ด้วย เห็นจากธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ 7-11 ซูเปอร์มาร์เก็ต โลตัส บิ๊กซี หันมาใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเป็นโชว์ห่วยอาจลองใช้วิธีเหล่านี้บ้างก็ได้

6.สร้างแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกให้ติดตลาด เป็นที่รู้จักของลูกค้า

ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านขายของชำหรือแผงข้าวแกงธรรมดา แต่ถ้ารู้จักพูดคุยสนทนา จนทำให้ลูกค้าเกิดความสนิทสนม การกลับมาใช้บริการซ้ำก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น

ซึ่งการสร้างแบรนด์คือ การสร้างความรู้สึกผ่านตัวสินค้าหรือบริการ จนลูกค้าจดจำได้ ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะแวะมาใช้แบรนด์ของคุณอีกเช่นกัน ดังนั้น แบรนด์ธุรกิจของคุณจะเป็นที่จดจำของลูกค้าได้ ต้องทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ มาแล้วรู้สึกดี ประทับใจ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ลูกค้าควรได้รับกลับไป

การทำธุรกิจค้าปลีกให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้เอาใจใส่ดูแลตัวเองมากขึ้น

สนใจสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงามมากขึ้น หรืออย่างสภาพสังคมที่ผู้คนออกไปทำงานนอกบ้านมากขึ้น ไม่มีเวลาทำอาหารรับประทานเองก็ต้องซื้อจากนอกบ้าน ครัวเรือนที่ขนาดเล็กลงคือเป็นครอบครัวเดี่ยว ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าขนาดเล็กลง สิ่งเหล่านี้ธุรกิจค้าปลีกต้องสังเกตและปรับตัวตามให้ทัน