5 เหตุผลที่ควรเลือกลงทุน ธุรกิจที่อยู่อาศัย

ข้อมูลจากสมาคม ธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดการณ์ว่าในปี 2561 ธุรกิจนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 11,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10% หากเทียบกับปี 2560

แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นงบการลงทุนที่ใหญ่ ผู้ลงทุนต้องมีประสบการณ์ มีคอนแนคชั่นที่ดี การจะทำธุรกิจนี้ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่สร้างบ้านแล้วขาย แต่ต้องมีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่สำรวจพื้นที่ มีแปลนบ้านให้เลือก และรูปแบบการก่อสร้างที่ต้องตามใจลูกค้าได้อย่างถึงที่สุด

มองในแง่การลงทุนแล้วเม็ดเงินมหาศาลนี้จะคุ้มค่าแค่ไหนหากเราตัดสินใจกระโดดลงไปในธุรกิจนี้ ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจตอนนี้ดูเหมือนจะเงียบเหงา แต่ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ายังมีเหตุผลที่น่าสนใจ 5 ประการที่บอกกว่าธุรกิจรับสร้างบ้านยังเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่มีอนาคตสดใสอย่างยิ่ง

1.ตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก

ธุรกิจที่อยู่อาศัย

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมการซื้อบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรมากกว่าที่จะปลูกเองบนพื้นที่เปล่า เนื่องด้วยความสะดวกสบายหลายอย่างที่ประกอบกันทั้งการดูแลความปลอดภัย มีระบบยาม

และการซื้อบ้านจากโครงการก็มีนิติบุคคลของโครงการช่วยเหลือในการทำเอกสารต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการซื้อขาย และผู้ซื้อไม่ยุ่งยากกับการจ้างช่างรับเหมาเอง

เพียงแต่เลือกบ้านในโครงการที่ตัวเองชอบ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า นายทุนจำนวนมากนิยมหาพื้นที่ในแหล่งที่คาดว่าจะเจริญแล้วทำโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งก็ปรากฏว่าส่วนใหญ่มักได้ผลตอบรับที่ดี มียอดจองตั้งแต่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง และในอนาคตตลาดสร้างบ้านนี้ก็ยังเติบโตได้อีกมาก ตามจำนวนประชากรที่ไม่ได้มีแนวโน้มลดลงแต่อย่างใด

2.มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยลดต้นทุนได้

bb4

เป็นโชคดีที่ยุคนี้เรามีนวัตกรรมใหม่ๆมากมายที่เข้ามาช่วยธุรกิจก่อสร้างให้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น อย่างที่เห็นชัดเจนคือ บ้านแบบประกอบสำเร็จที่มีการผลิตส่วนต่างๆของบ้านตามมาตรฐาน

แล้วมาประกอบกัน ลดเวลาในการก่อสร้างได้มาก อีกทั้งบ้านยุคใหม่ยังมีการใช้วัสดุทดแทนธรรมชาติ และวัสดุประหยัดพลังงาน เช่นโซลาเซลล์ รวมถึงมีการติดตั้งอุปกรณ์ตามความต้องการของลูกค้าที่ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจทำให้คนมองว่าการมีบ้านดีๆ สักหลังไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

3.การขยายตัวของเมืองสู่ต่างจังหวัด

bb3

ปัจจุบันมีการขยายตัวของเมืองสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น นั้นหมายความว่าโครงการหมู่บ้านจัดสรรเองก็เติบโตตามการขยายตัวนี้ด้วยเช่นกัน แม้สัดส่วน ณ ตอนนี้ตลาดบ้านในต่างจังหวัดจะยังไม่เติบโตชัดเจน

อันเนื่องมาจากราคาพืชผลการเกษตรยังไม่ดีแต่ในอนาคตที่เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ราคาพืชผลดีขึ้น คนมีกำลังซื้อมากขึ้น ก็จะทำให้คนมองหาความมั่นคงในชีวิตด้วยการซื้อบ้านมากขึ้นด้วย

4.สินค้าที่เป็นปัจจัย4 ยังไงก็ขายได้

bb2

ทุกคนอยากมีบ้าน ไม่ว่าจะหลังเล็กหลังใหญ่ แต่หากมีเป็นของตัวเองก็คือความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง ปัจจุบันบ้านราคา 2.5-10 ล้านบาท ถือว่าเป็นพระเอกของธุรกิจ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของตลาดรวม และคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 30% หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7,700 ล้านบาท

ซึ่งธุรกิจรับสร้างบ้านก็งัดเอาจุดเด่นในการก่อสร้างที่เป็นสไตล์ตามลูกค้าส่วนใหญ่นิยม ยังไม่รวมถึงกลยุทธ์การขายที่หลายบริษัทมักใช้วิธีตั้งราคาให้สูงไว้และปรับลดลง 15-30% จากราคาปกติ ทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าลดเยอะ หลักล้านบาท เพิ่มความน่าสนใจอยากให้คนซื้อบ้านมากขึ้น

5.ทิศทางของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นในปีหน้า

bb6

อย่างที่ทราบกันดีว่าในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งก็คาดหมายว่าทิศทางของเศรษฐกิจจะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นด้วยเช่นกัน และธุรกิจรับสร้างบ้านก็แปรผันไปตามรายได้ของประชากราหากเศรษฐกิจดีขึ้น

รายได้ของคนมีมากขึ้น ก็ย่อมที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นมรดกให้กับตัวเองและลูกหลานมากขึ้น จากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะโตได้กว่า 4.7% หากเป็นไปตามนั้นธุรกิจรับสร้างบ้านก็จะได้รับอานิสงส์นั้นไปไม่น้อยเลยทีเดียว

และแน่นอนเช่นกันว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการที่มากขึ้นก็ทำให้คนซื้อได้ประโยชน์จากการแข่งขันทั้งเรื่องราคาและรูปแบบการในการก่อสร้าง อย่างไรก็ดีใครที่คิดจะเข้ามาจับธุรกิจนี้ก็ควรศึกษาแนวทางให้ชัดเจน

เนื่องจากเป็นการลงทุนมหาศาล หากไม่มีประสบการณ์ที่ดีพอ งบก่อสร้างที่ตั้งไว้อาจบานปลาย จากรายได้ที่คาดว่าจะมีอาจเหลือน้อยลงหรือบางทีอาจไม่เหลือเลย ดังนั้นการบริหารจัดการเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในธุรกิจนี้มาก


SMEs Tips

  1. ตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก
  2. มีนวัตกรรมใหม่ๆที่ช่วยลดต้นทุนได้
  3. การขยายตัวของเมืองสู่ต่างจังหวัด
  4. สินค้าที่เป็นปัจจัย4 ยังไงก็ขายได้
  5. ทิศทางของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นในปีหน้า

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ภาพจาก pixabay.com

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด