5 เทคนิค Product, Story, Behavior, Segment, Analysis ขั้นเทพ!

พ่อค้าแม่ค้า หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมร้านของตัวเองขายของไม่ได้ ขายของไม่ดี แต่ละวันไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลย แม้ว่าราคาสินค้าและบริการของร้านตัวเองไม่ได้แตกต่างจากร้านอื่นเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้อย่างพึ่งท้อ นั่งพิจารณาทบทวนตัวเองว่า ร้านของตัวเอง รวมถึงสินค้าและบริการเป็นอย่างไร นำเสนอตรงความต้องการลูกค้าหรือไม่ ลูกค้าจะติดใจซื้ออยู่ตัวคุณเอง วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 5 เทคนิคในการขายของ ดึงดูดลูกค้าให้ติดใจ ซื้อสินค้าและบริการจากคุณไปยาวๆ

1.สินค้าตอบโจทย์ลูกค้า เข้าถึงง่าย

พ่อค้าแม่ค้า

สินค้าหรือบริการที่สามารถอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ ย่อมถูกใจลูกค้ายุคใหม่ เพราะชอบอะไรที่สำเร็จรูป ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก หาง่าย และอยู่ใกล้ตัว สินค้าของคุณควรมีช่องทางการซื้อที่หลากหลาย

การให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายจะทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง หลักๆ เลยต้องมีหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ทั้งหลายให้ลูกค้าทางไกลได้สอบถาม หรือถ้ามีวอลุ่มมากพอจนขายในร้านสะดวกซื้อได้ยิ่งดี เพราะเป็นการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพ

2.สร้าง Story ให้สินค้าและแบรนด์

q2

เมื่อนึกถึงสินค้าที่ลูกค้ากำลังต้องการ ทำอย่างไรถึงจะทำให้ลูกค้านึกถึงคุณเป็นอันดับแรก เป็นการสร้างความทรงจำทำให้ลูกค้าจะจดจำคุณในแบบนั้น คุณอาจไม่จำเป็นต้องโด่งดังไปทั่วประเทศ ขอแค่เป็นที่รู้จักในละแวกที่คุณอยู่ก็เพียงพอ

คุณอาจจะมีวิธีการบริการ หรือเปิดร้านที่แตกต่าง แปลกๆ เช่น เสิร์ฟอาหารภายใน 30 วินาที หรือออกแบบร้านที่ไม่มีใครทำมาก่อน เหมือนกรณี “ร้านข้าวต้มปลง” สระบุรี ตกแต่งร้านธีมงานศพ ใครเห็นก็ส่งต่อจนร้านโด่งดัง

3.เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค

q3

ลูกค้าจะชอบซื้อของตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มไหน ส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะนิยมใช้ของตามๆ กัน ใครบอกว่ารองเท้ายี่ห้อนั้นใส่แล้วดีต่อสุขภาพ เราก็อยากจะได้มาครอบครอง ใครบอกว่าโรงแรมไหนบริการดีเวลาเที่ยว เราก็อยากจะไปเช็คอิน หรือร้านอาหารร้านไหนอร่อย ราคาถูก มีเมนูแปลกๆ เราก็อยากไปกิน

เพราะลูกค้าชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าธุรกิจไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ สังเกตได้จากพ่อค้าแม่ค้าชอบเชียร์ขายสินค้าว่า “ตัวนี้ออกใหม่ขายดีมากๆ” ซึ่งก็สามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าได้เสมอ

4.เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน

q5

อย่าคิดว่าจะขายสินค้าให้ใครก็ได้ เพราะกระบวนการคิดของคุณจะทำให้สินค้าดูไม่มีเป้าหมาย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้า หรือแบรนด์ไม่ชัดเจน คุณควรนำเสนอให้ชัดเจนไปเลยว่า สินค้าของคุณคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และใครเป็นคนซื้อ

เช่น “เครื่องสำอางกันน้ำ” จุดเด่นคือทำให้คุณผู้หญิงสวยได้แม้ในเวลาเปียกน้ำ ไม่ว่าสาวๆ จะไปเล่นน้ำทะเลหรือสงกรานต์ก็ไม่หวั่นว่าหน้าจะเลอะอีกต่อไป แค่ใช้เครื่องสำอางของคุณ รับรองเปียกแค่ไหนก็ยังคงความสวยได้ อย่างนี้เป็นต้น

5.วิเคราะห์และศึกษาแนวโน้มการตลาด

q6

ก่อนอื่นต้องดูว่าธุรกิจของคุณอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทใด ถือเป็นโจทย์แรกที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้เมื่อเริ่มทำธุรกิจ เพราะถ้าคุณไม่เข้าใจในธุรกิจที่กำลังทำ แล้วจะกำหนดความต้องการของลูกค้าเป้าหมายได้อย่างไร เช่น สินค้าที่จะขายเหมาะสำหรับเปิดร้านขายในทำเลแบบไหนบ้าง และสินค้าเหมาะกับลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่หรือไม่ หรือดูไปถึงกระแสความต้องการลูกค้า

เช่น เปิดร้านขายเสื้อผ้า หรืออาหาร เครื่องดื่ม ต้องดูว่าเป็นสินค้าตามแฟชั่นที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือไม่ ดังนั้น คุณต้องคอยตามเทรนด์ให้ทัน เสื้อผ้าบางแบบฮิตไม่นานก็ไป บางแบบขายดีต่อเนื่องมาหลายปี ถ้าคุณจับทางได้คุณจะรู้ว่าต้อง สต๊อกสินค้าแบบไหนมากน้อยเท่าไหร่ สินค้าแบบไหนที่ต้องรีบขายและอย่ารับมาเยอะเพราะเสี่ยงที่ทุนจะจม

ทั้งหมดเป็น 5 เทคนิคขายของให้ครองใจลูกค้าไปนานๆ หวังว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงเจ้าของกินการร้านค้าต่างๆ นำไปเป็นแนวทางปรับปรุงสินค้า หรือร้านของตัวเองใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการครับ


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://bit.ly/2FMrZOq
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน https://bit.ly/2Jatqq2

SMEs Tips

  1. สินค้าตอบโจทย์ลูกค้า เข้าถึงง่าย
  2. สร้าง Story ให้สินค้าและแบรนด์
  3. เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค
  4. เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน
  5. วิเคราะห์และศึกษาแนวโน้มการตลาด

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3hfzYpY

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช