5 เทคนิคสุดทึ่ง เข้าใจลูกค้า ขายของได้มากกว่าเดิม!

การทำธุรกิจสมัยนี้ปัญหาที่เกิดส่วนใหญ่คือนอกจากกำลังซื้อที่หดหายไม่ เข้าใจลูกค้า ยังเจอการแชร์ส่วนแบ่งการตลาดที่พ่อค้าแม่ค้าหรือเจ้าของธุรกิจมีมากขึ้นทุกวัน แต่คนซื้อกลับมีปริมาณที่สวนทาง

เมื่อเป็นเช่นนี้ในภาคธุรกิจเองก็ต้องงัดเอาเทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสมมาใช้เพื่อแก้ปัญหา มีหลากหลายวิธีการที่สร้างสรรค์กันออกมา www.ThaiSMEsCenter.com จึงรวบรวมออกมาเป็น 5 เทคนิคใหญ่ๆที่น่าจะเรียนรู้กันเอาไว้เพื่อปรับใช้ให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

1.ต้องสร้างความแตกต่างของสินค้าและมีการนำเสนออย่างชัดเจน

เข้าใจลูกค้า
ภาพจาก http://goo.gl/IPrv25

เราสามารถแบ่งเรื่องนี้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือการขายในตลาดปกติกับการค้าขายในตลาดออนไลน์ แต่ทั้งหมดนี้สามารถใช้แนวคิดร่วมกันได้ คำว่าความแตกต่างคือสินค้าต้องมีเอกลักษณ์มีการพัฒนาสินค้าต่อเนื่องเพื่อให้โดดเด่นและดีที่สุด

คล้ายคลึงกันกับการขายในแบบออนไลน์ที่เราต้องหาจุดยืนของตัวเองว่าต้องการขายสินค้าอะไรเพื่อสร้างการนำเสนอให้ไปในทิศทางนั้น เรียกว่าเป็นการยืนยันตัวตนที่ชัดเจนผ่านการนำเสนอที่มีเอกลักษณ์เพื่อสร้างการจดจำว่าถ้าหากต้องการสินค้าประเภทนี้ต้องมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

2. อย่าคิดแต่เรื่องขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

qq63
ภาพจาก http://goo.gl/YEvKAv

นี่คือทฤษฏีที่จะทำให้การขายมีประสิทธิภาพมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการขายในลักษณะไหนก็ตามหลักการง่ายๆคือพูดอย่างไรก็ได้ที่ทำให้คนซื้อรู้สึกเหมือนกับไม่ถูกไล่ต้อนให้จนมุม

ดังนั้นการขายไม่จำเป็นต้องพูดถึงสินค้าหรือข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ควรใส่ความจริงใจรู้จักการพูดคุยที่ทำให้ลูกค้าผ่อนคลาย ที่สำคัญต้องฟังความเห็นของลูกค้ามากกว่าที่จะพูดให้ลูกค้าฟัง ทั้งหมดนี้คือเพื่อให้การสนทนาเป็นเหมือนการพูดคุยระหว่างเพื่อน เมื่อเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดการซื้อขายได้ง่ายกว่าเดิม

3.ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค

qq64
ภาพจาก http://goo.gl/9ZwWX6

เรื่องการทำธุรกิจหรือว่าค้าขายถ้าสามารถเข้าใจผู้บริโภคได้มากเท่าไหร่ โอกาสในการซื้อขายก็ย่อมเปิดกว้างมากเท่านั้น เหมือนกลศึกในตำราพิชัยสงครามกล่าวว่า “รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เรื่องการค้าก็เช่นกัน

ถ้าเรายิ่งเข้าใจก็ยิ่งสร้างเครื่องมือที่จะดึงดูดความสนใจนั้นได้ดี การลดแลกแจกแถมเป็นโปรโมชั่นปกติในแวดวงการค้าขายแต่สิ่งที่ชัดเจนมากกว่าคือต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่มีอำนาจในการซื้อของสินค้านั้นๆ คือใคร ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถสร้างโปรโมชั่นได้ถูกต้องก็จะนำมาซึ่งการซื้อขายได้ในที่สุด

4.ต้องสร้างสีสันดึงดูดความสนใจและมีการจัดวางสินค้าให้เลือกซื้อได้ง่ายที่สุด

qq65
ภาพจาก http://goo.gl/9ZwWX6

ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม จุดหนึ่งที่เหมือนกันคือสีสันของหน้าร้าน (ถ้าเป็นการขายออนไลน์ก็คือ หน้าเว็บไซต์) ต้องมีความโดดเด่นและน่าสนใจมากพอที่จะทำให้คนที่ผ่านไปมาแวะเข้าชมหรือว่าหยุดดู

ทฤษฏีหนึ่งที่พูดถึงเรื่องนี้คือ “หากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านได้นานเท่าไหร่ โอกาสจะซื้อก็มีมากเท่านั้น” นั้นคือเราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกและผ่อนคลาย มีเทคนิคหลายอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งนี้ไม่ว่าจะการจัดวางสินค้า การเพิ่มแสงสีเสียงที่น่าสนใจ หรือถ้าเป็นทางหน้าเว็บไซน์ก็อาจมีกิจกรรมสนุกๆให้ได้เล่นกัน ก็ทำให้เกิดความประทับใจขึ้นมาได้

5.สร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจเพื่อหวังผลในอนาคต

qq66
ภาพจาก http://goo.gl/RnhGhv

นี่คือเทคนิคขั้นสูงที่นอกจากจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดในภาวะที่มีการแข่งขันสูงยังเป็นการเพิ่มศักยภาพไปในตัวได้ด้วย การหาพันธมิตรทางธุรกิจนั้นเพื่อให้เอื้อประโยชน์กันได้ในอนาคตเพราะธุรกิจที่ได้ทำการผูกมิตรไว้แล้ว ก็สามารถที่จะคอยให้ความช่วยเหลือกันได้ในบางโอกาสและเป็นช่องทางในการรับข่าวสารจากหลายแหล่งที่เราอาจไม่เคยได้รู้มาก่อน เหมือนกับธุรกิจใหญ่ๆที่มักจะมีพาร์ทเนอร์เป็นของตัวเองไม่มากก็น้อย

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด