5 เทคนิคการตลาด ลงทุนไม่มาก แต่เพิ่มยอดขายได้เยอะ!

การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ลำพังสินค้าดีอย่างเดียวคงเดินหน้าไม่ถึงฝั่งสิ่งที่สำคัญกว่าคือ การตลาด ที่เราเคยนำเสนอเทคนิคต่าง ๆในแง่การตลาดกันมานักต่อนัก

แต่จุดเชื่อมต่อที่จะนำไปสู่การตลาดทั้งหลายประการแรกเราต้องทำให้คนรู้จักสินค้าที่เรามีกันก่อนสิ่งที่ www.ThaiSMEseCenter.com ต้องการจะสื่อคือเราสามารถทำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างแบบที่ไม่ต้องทุ่มการตลาดมากนักหากรู้จักการใช้พลังมวลชนให้เกิดประโยชน์จะช่วยกระจายข่าวแนะนำสินค้าได้ดีชนิดที่เราคาดไม่ถึงทั้งนี้เราก็มี 5 วิธีที่จะนำพาไปสู่จุดนั้นดูแล้วทำตามไม่ยากแต่อยู่ที่ใครจะทำแล้วได้ผลมากที่สุดกว่ากันเท่านั้นเอง

1.จำเป็นต้องมองหาตัวช่วยในการสร้างแรงกระเพื่อม

การตลาด

ภาพจาก goo.gl/AmVi7l

กุญแจสำคัญในการทำให้เหล่า Influencers กลายมาเป็นกระบอกเสียงได้นั้นก็ต้องทำให้เขาเหล่านี้เชื่อมั่นและกล้าพูดได้เต็มปากถึงสินค้าและบริการที่เรามีอยู่อาจจะยอมลงทุนก่อนในการให้ได้ใช้สินค้าหรือบริการทั้งหลายจากนั้นเมื่อความประทับใจเกิดก็เป็นช่องทางขยายต่อให้สาวกแฟนคลับทั้งหลายได้รับทราบ นับเป็นการเข้าถึงที่ได้ผลชนิดที่ดีเกินคาดและแบรนด์ดังระดับโลกจำนวนไม่น้อยก็นิยมในการทำตลาดแนวนี้มากด้วย

ตัวอย่างที่ยกมาให้เห็นภาพคือ Dettol บริษัทผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อที่เราคุ้นเคย ครั้งหนึ่งเคยมีปัญหาการขยายตลาดในประเทศจีนแม้จะลองโฆษณาที่ทุ่มทุนไปหลายอย่างแต่ด้วยข้อจำกัดหลายประการโฆษณาเหล่านั้นไม่เกิดผลที่น่าพอใจนัก

วิธีที่คิดใหม่คือการใช้ Influencers ที่ได้พูดถึง ซึ่งกลุ่มตลาดของ Dettol นั้นมุ่งเน้นไปที่แม่บ้านทั้งหลายโดยเริ่มจากการแจกจ่ายสินค้าตัวอย่างกว่า 48,000 ชิ้น ไปยัง Influencers ที่เป็นแม่บ้านกว่า 4,000 คน

ซึ่งแต่ละคนจะได้รับสินค้าตัวอย่างหนึ่งชิ้นสำหรับตัวเธอเองและอีก 10 ชิ้นสำหรับแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ผลปรากฏว่าสินค้าของ Dettol มีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นถึง 46% ในเวลาแค่ 5 เดือน, แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น 5 เท่า, มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 21% เป็น 42% และ ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 86% ในเวลาแค่ 2 เดือน ซึ่งทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

2.เชื่อมต่อกับความรู้สึกของผู้คน

i52

ภาพจาก goo.gl/CtFJsl

สินค้าใดก็ตามที่ตอบสนองต่อความรู้สึกของคนได้ย่อมได้รับผลดีตามมาแบบเกินคาดแต่ปัญหาใหญ่คือการเชื่อมต่อนั้นจำเป็นต้องมีวิธีการที่ดีมากพอ ยกตัวอย่างของมูลนิธิ Make-A-Wish นั้น ขึ้นชื่อเรื่องการอุทิศตัวในการทำให้ฝันของเด็กที่มีปัญหาป่วยไข้เป็นจริงขึ้นมาได้ โดยการทำให้มูลนิธิเป็นที่รู้จักคือเป้าหมายหลัก

กลยุทธ์ที่ใช้คือการจัดกิจกรรมให้เด็กได้ทำตามความฝันตัวเอง โดยครั้งหนึ่ง Make-A-Wish ได้จัดกิจกรรมให้กับ Miles Scott เด็กตัวเล็กอายุ 5 ขวบที่อาการทุเลาจากโรคมะเร็งและต้องการเป็นฮีโร่

งานนี้จึงจัดใหญ่มีกระทั่งประธานาธิบดีสหรัฐมาร่วมงานพร้อมหนังสือพิมพ์ประจำเมืองที่ลงพาดหัวข่าวขนาดใหญ่ว่า“ ยอดมนุษย์ Batkid กอบกู้เมืองได้สำเร็จ” ผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ทำให้เกิดการบอกต่อจนทำให้เว็บ Make-A-Wish มีการกดเข้าชมถึง 1.89 ล้านซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ยอดการบริจาคของมูลนิธิเพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการสามารถเข้าถึงความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ได้

3.ต้องมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของชุมชนอย่างต่อเนื่อง

i51

ภาพจาก goo.gl/KY2tp2

เหตุผลง่ายๆที่ Red Bull ยังถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลาและยังเป็นที่หนึ่งในวงการนี้เป็นเพราะ Red Bull ไม่เคยหยุดจัดเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี การจัดการแข่งขันกีฬา หรืออะไรต่อมิอะไรมากมาย ซึ่งทำให้ Red Bull เชื่อมโยงกับชุมชนอยู่ตลอดเวลาโดยมี A Red Bull Wings Team ขบวนรถของ Red Bull ขับรอบเมือง

พร้อมแจกจ่ายตัวอย่างเครื่องดื่ม เพื่อสร้างการบอกต่อ Red Bull bedroom jam เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดเวทีการแข่งขันประชันความสามารถโดยเจาะจงกลุ่มนักเรียน A Red Bull reporter program ซึ่งมีการมอบทุนให้นักข่าวหรือนักเรียนด้านภาพยนตร์มาสร้างเรื่องราวและให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก

หรือแคมเปญของ Vail Resorts ที่สร้างแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมโยงเหล่านักสกีหิมะด้วยระบบ RFID ที่คอยบันทึกเวลาและระยะทางการเล่นสกี และเพิ่มดีกรีความสนุกด้วยการที่เหล่าผู้เล่นสามารถแชร์ความสำเร็จให้เพื่อนๆบนโซเชียลมีเดียได้เห็นปรากฏว่าแขกที่มาพักกว่า100,000 คนของโรงแรมได้เปิดบัญชีบนแอพพลิเคชั่นนี้และสร้าง Social impressions ได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ

4.สร้างระบบบริการที่ดีเลิศจนผู้บริโภคต้องบอกต่อ

ธุรกิจ SME มากกว่าครึ่งต่างพูดว่า เราจะสร้างยอดขายให้มากขึ้นในปีนี้ โดยการโฟกัสไปที่การเพิ่มประสบการณ์และการจดจำให้กับกลุ่มลูกค้าเก่า ซึ่งนั่นเป็นกลยุทธที่ถูกต้องแล้ว เพราะจากการสำรวจพบว่า ในบางธุรกิจนั้น มีความเป็นไปได้ในการขายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเก่าสูงถึง 60-70% ในขณะที่การขายให้กับกลุ่มลุกค้าใหม่นั้นมีเพียง 5 – 20% เท่านั้น

ซึ่งถ้าอิงจากตัวเลขดังกล่าวนี้ สิ่งที่แบรนด์ของคุณควรจะโฟกัสคือการสร้าง customer service ที่ดีเพื่อดูแลลูกค้าเก่า ซึ่งจะต้องเป็นมากกว่า ของแถม และโปรโมชั่น แต่เป็นวิธีการที่คุณดูแลลูกค้าเหล่านั้นให้ดีที่สุด

5.ต้องทำให้ผู้คนเขียนรีวิวเกี่ยวกับสินค้าเราได้ง่าย

i50

ภาพจาก goo.gl/nfSzMb

สิ่งเล็กที่ดูเหมือนไม่สำคัญแต่กลับเป็นตัวขัดขวางการเกิดการบอกต่อคือการที่ผู้บริโภคไม่สามารถเขียนรีวิว แนะนำ หรือสื่อสารกับคนอื่นๆเกี่ยวกับแบรนด์นั้น

ตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้คือแบรนด์สินค้าอย่าง 3M ESPE ที่ทำการปรับปรุงให้ระบบรีวิวสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ผลปรากฏว่าสินค้าได้รับการรีวิวมากขึ้นถึง 200 % ในเวลาแค่ 3 วัน แน่นอนว่าการที่ลูกค้าเขียนรีวิวให้สินค้าเราได้แสดงว่าเขาต้องรู้จักสินค้าเราก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบบริการและคุณภาพสินค้าว่าจะทำให้เขาพูดถึงสินค้าเราได้ดีถึงขนาดไหน

กลยุทธ์การสร้างตลาดด้วยการพูดต่อๆกันไปอันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องลงทุนลงแรงมากแต่วิธีการเป็นสิ่งสำคัญผู้ประกอบการที่มีหัวการตลาดด้านนี้มากพอจะช่วยลดทอนงบประมาณการโฆษณาลงได้มากแต่ทั้งนี้การใช้กลยุทธ์เหล่านี้ก็ต้องดูให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการนั้นๆเพื่อให้ส่งเสริมกันและกันเพื่อประสิทธิภาพการตลาดที่มีประโยชน์มากที่สุด


SMEs Tips (เทคนิคสร้างแรงกระเพื่อมให้สินค้า)

  • รู้จักการหากระบอกเสียงมาเป็นตัวแทนสินค้า
  • ทำการตลาดที่ตรงกับความรู้สึกคนส่วนมาก
  • รู้จักการคืนกำไรให้สังคม
  • บริการลูกค้าให้มากกว่ามูลค่าสินค้าที่ขายไป

พร้อมกันนี้เรามีบทความน่าสนใจอีกมากมายทั้งเทคนิคการขายหรือวิธีการทำตลาดเป็นข้อมูลให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นการทำธุรกิจได้ศึกษา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ goo.gl/sRORl9

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด