5 องค์ประกอบ ทำแพ็คเกจจิ้งให้โดนใจลูกค้า

ยุคนี้เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจหลายคนคงปวดหัว เพราะพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ที่สำคัญคือจะออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างไรให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้า ไม่รู้ว่าจะสร้างความโดดเด่น และสร้างความแตกต่างจากสินค้าอื่นๆ ที่วางอยู่บนชั้นเดียวกันได้อย่างไร

บางครั้งสินค้าของคุณอาจมีคุณภาพไม่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่การที่จะแข่งขันในตลาดได้นั้น คุณภาพไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว ปัจจัยเสริมคือคุณต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ เพื่อคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดมาให้ได้

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 5 องค์ประกอบ ในการออกแบบรรจุภัณฑ์ให้โดนใจลูกค้า เมื่อเห็นอยากควักเงินซื้อทันที เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าของคุณได้เป็นอย่างดีครับ

1.กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

องค์ประกอบ

ถือเป็นเรื่องสำคัญของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ได้โดยตรง ผู้ประกอบการจะต้องศึกษาและเรียนรู้ความต้องการของตลาด และความต้องการของผู้บริโภค โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงาน แม่บ้าน เด็ก ฯลฯ เป็นต้น

กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว นอกจากจะมีความสนใจ และความต้องการที่แตกต่างกันแล้ว กลุ่มเป้าหมายเดียวกันในแต่ช่วงอายุต่างกัน และมีสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีความต้องการแตกต่างกันด้วยเช่นกัน อาจทำให้ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ก็ต้องมีความแตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ

หรือบางครั้งผลิตภัณฑ์บางอย่าง ผลิตขึ้นมาเพื่อผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง แต่ผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งกลับเป็นผู้เลือกและตัดสินใจซื้อ เช่น อาหารเสริมสำหรับเด็กหรือ นมผงสำหรับทารก จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ทารกและเด็กมิได้เป็น ผู้เลือกซื้อ แต่ผู้เลือกและตัดสินใจซื้อกลับเป็นผู้ปกครอง

2.กำหนดชื่อตราสินค้า

32325600125445

แบรนด์หรือตราสินค้าใช้เป็นชื่อ หรือเครื่องหมาย สำหรับการเรียกขานผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการจะต้องทำการกำหนดชื่อตราสินค้าให้เรียบร้อย ก่อนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โดยกำหนดให้ชื่อตราสินค้ามีความเป็นเอกลักษณ์ ชัดเจน น่าสนใจ ที่สำคัญผู้บริโภคเห็นตราสินค้าแล้วจะต้องจดจำได้ง่าย

เช่น ตั้งตามชื่อเจ้าของกิจการ ตั้งตามความเชื่ออันเป็นมงคล ตั้งตามแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ หรือตั้งโดยการผสมคำที่มีความหมายให้เกิดเป็นคำใหม่ที่มีเอกลักษณ์ ฯลฯ เป็นต้น

โดยลักษณะที่ดีของตราสินค้าที่ดี ประกอบด้วย สั้น กะทัดรัด จดจำได้ง่าย ออกเสียงได้ง่ายมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แปลเป็นภาษาต่างประเทศได้ง่ายมีความหมายที่เหมาะสม สามารถบอกถึงคุณสมบัติที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับค่านิยมและวัฒนาธรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสามารถนำไปจดทะเบียนการค้าได้

3.วัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์

6985665589898

วัสดุมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ผู้ประกอบการจะใช้วัสดุอะไรมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณสมบัติของวัสดุแต่ละประเภท ที่จะนำมาผลิตบรรจุภัณฑ์เป็นสำคัญ

เนื่องจากวัสดุแต่ละชนิด จะมีคุณสมบัติที่เป็นข้อดีและข้อเสีย ในการคุ้มครองผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพ การยืดอายุผลิตภัณฑ์ และการนำกลับมาใช้ใหม่ ที่แตกต่างกันไป หากท่านเลือกใช้วัสดุไม่ดี นอกจากจะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้เกิดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่พิ่มขึ้นอีกด้วย

4.รูปทรงบรรจุภัณฑ์

8745652365568998

รูปทรงบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค ถึงแม้ผู้บริโภคจะยังมิได้สัมผัสกับตัวผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน แต่รูปทรงของบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม

สามารถสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้ เพราะเมื่อผู้บริโภคเห็นรูปทรงก็จะรับรู้ได้ทันทีว่า เป็นผลิตภัณฑ์อะไรและมีชื่อตราสินค้าอะไร หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์เดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ชื่อตราสินค้า

5.สีสันและกราฟฟิกดีไซน์

958956568989898

การสร้างสีสันและกราฟฟิกดีไซน์บรรจุภัณฑ์ ถือเป็นการรวมเอาสัญลักษณ์ ตัวอักษร ภาพประกอบ ลวดลายและพื้นผิว ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ จะบ่งบอกถึงตราสินค้า ลักษณะผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ภายใน และแสดงถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ได้

ทั้งหมดเป็น 5 องค์ประกอบ การออกแบบและทำบรรจุภัณฑ์สินค้าให้มีความโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง ลูกค้าเห็นแล้วสามารถจดจำชื่อ ตราสินค้า ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้เร็วขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช