5 สิ่งที่ธุรกิจควรเรียนรู้จากกระแส #DeleAllichallenge

เทคนิคของการตลาดบนโซเชี่ยลคือทำอย่างไรก็ได้ให้คนฮิตและติดตาม สิ่งที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้ร่วมเล่นไปกับเราเรียกว่าเป็น Viral ซึ่งที่ผ่านมามี Viral โด่งดังมากมายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น Ice Bucket Challenge ที่ท้าให้คนเอาน้ำแข็งมาเทใส่กัน

หรือจะเป็น “เหนี่ยวไก่หาย” ไวรัลที่ดังชั่วข้ามคืนจากเด็กน้อยคนหนึ่ง หรือ “เสียใจแต่ไม่แคร์” ของเด็กอ้วนคนหนึ่งที่ร้องเพลงเลียนแบบหวาย กามิกาเซ่ จนโด่งดังชั่วข้ามคืนและมีคนพูดถึงมากมาย

ในด้านธุรกิจนั่นเมื่อมีไวรัลใดๆ เกิดขึ้นก็มักจะถูกเชื่อมโยงไปกับเรื่องธุรกิจได้ เรียกว่าทำตามกระแสโดยมุ่งหวังเพียงสิ่งเดียวคือให้คนรู้และจดจำสินค้าได้มากขึ้นและในตอนนี้ก็มีอีกหนึ่งไวรัลที่ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่ามาแรงไม่น้อยในโลกโซเชี่ยลทั้งดาราไทยและต่างประเทศต่างทำท่า “โอเคกลับหัว” ที่เรียกว่าเป็น #DeleAllichallenge ที่เกิดจากนักบอลชื่อ เดเล่ อัลลี”

เรื่องนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสเปอร์กับนิวคาสเซิลเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2561 ในพรีเมียลีกของอังกฤษ เมื่อ เดเล่ อัลลี่ สามารถทำประตูให้สเปอร์ส หนึ่งในท่าดีใจที่คนทั่วโลกได้เห็นคือ “โอเคกลับหัว” ที่ใครนึกภาพไม่ออกให้ลองนิ้วมือลักษณะคล้ายกับท่า โอเค จากนั้นแบนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย ออกพร้อมกับพลิกข้อมือให้ สามนิ้วแนบไปบนหน้าผาก แล้วนิ้วโป้ง นิ้วชี้ ที่ทำลักษณะวงกลม พลิกตามไปด้วย

จากท่าที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรกลายเป็นมีอะไรและเป็นไวรัลฮิตติดกระแส #DeleAllichallenge ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีเหล่าดารานักร้องคนดังต่างๆ ที่ลุกขึ้นมาทำตามกัน

จนมีคนพยายามทำท่านี้ลงในแฮชแท็ก #DeleAlliChallenge เป็นพันๆ คนภายในหนึ่งคืน แม้แต่ดาราไทย สื่อไทยเองก็เล่นเรื่องนี้เช่นกัน แน่นอนว่าไวรัลก็คือไวรัลดังแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเดี๋ยวก็ลืมเลือนกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้จากกระแสไวรัลมีด้วยกัน 5 ข้อคือ

1.เป็นโอกาสในการเรียกลูกค้าให้รู้จักสินค้า

DeleAllichallenge

ภาพจาก goo.gl/kEb9py, goo.gl/eSbVeF

เรื่องนี้ชัดเจนมากโดยเฉพาะในหมู่นักกีฬาที่เดี๋ยวนี้แต่ละคนก็มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง ที่สำคัญนักเตะแต่ละคนยิ่งดังก็มีแฟนคลับมาก การขยับตัวในไอจีแต่ละครั้งก็เพื่อดึงดูดแฟนคลับให้สนใจ นั้นไม่รวมถึงการที่นักกีฬาแต่ละคนมีรายได้จากการโพสต์สินค้าผ่านไอจีตัวเอง

จากข้อมูลของ Hopperhd.com ได้จัดอันดับนักกีฬาที่เรตค่าโปรโมตสินค้าผ่าน Instagram แพงสุดในโลก ต่อ 1 โพสต์ อันดับ 1คือ คริสเตียโน โรนัลโด ฟันเงินเบาะๆ ด้วยเรตค่าจ้างสูงถึง 750,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 25 ล้านบาทไทย) ต่อ 1 โพสต์ทีเดียว นั้นหมายความว่าที่สินค้ากล้าจ้างขนาดนี้เพราะเชื่อในฐานแฟนคลับที่ติดตามและทำให้คนรู้จักสินค้าได้มากขึ้นด้วย

2.การตามกระแสทำให้ภาพลักษณ์ดูดี

hh4

ภาพจาก goo.gl/HuvBfm

ในส่วนของสินค้าทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแบรนด์นักกีฬา การอิงกระแสของไวรัลเป็นการสะท้อนให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรามีการพัฒนาตัวเองต่อเนื่องเป็นแบรนด์ที่ตามกระแสและไม่ตกยุค ลูกค้ามองเราในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและเชื่อว่าเราจะเป็นสินค้าที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง แม้บางทีเราจะไม่ได้พูดเรื่องนี้ชัดเจนก็ตาม

3.เป็นสีสันทางการตลาด

kk

ภาพจาก goo.gl/LNg6to

การเล่นตามไวรัลสร้างสีสันการตลาดได้แน่ ในยุคนี้คู่แข่งของแต่ละแบรนด์มีเยอะ ธุรกิจต้องงัดจุดเด่นสร้างตัวเองให้น่าสนใจการที่ใช้กระแสโซเชี่ยลก็เท่ากับเป็นการเติมสีสันให้สินค้าดูน่าค้นหาและดึงคนให้สนใจ สังเกตในบางครั้งเราอาจไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับสินค้าเลยเพียงแค่มีโลโก้ก็ช่วยทำให้คนจดจำแบรนด์เราได้มากขึ้นแบบทางอ้อม

4.ใช้ไวรัลให้ถูกต้องคนจะจดจำแบรนด์ได้มาก

pp

ภาพจาก goo.gl/41B1wP

อย่างไรก็ตามกระแสของไวรัลมันก็มีทั้งด้านบวกและลบการเลือกตามไวรัลที่มีเนื้อหาด้านบวกจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ได้ดี ในยุคนี้มีหลายกระแสที่เราเลือกมาเป็นกลยุทธ์การตลาดได้

โดยเลือกจากกระอะไรที่คนร่วมเยอะและนิยม สิ่งที่ไม่ควรดึงมาเป็นกระแสใช้กับสินค้าคือไวรัลที่คนต่อต้าน แม้จะแชร์กันชั่วข้ามคืนแต่ก็ต้องดูด้วยว่าแชร์ด้วยอารมณ์ไหน แบรนด์ที่ดีต้องเลือกใช้ไวรัลให้ถูกต้อง

5.สร้างตัวเองให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

pp2

ภาพจาก goo.gl/N7jnzz

เทคนิคการตลาดมีหลายอย่างให้เราเลือกใช้ การทำโปรโมชั่น การทำกิจกรรมต่างๆ ก็ล้วนแต่เพื่อสร้างตัวเองให้ดูดีอยู่เหนือคู่แข่งและเพิ่มสัดส่วนลูกค้า ซึ่งไวรัลก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เช่นกัน

การที่แบรนด์ดึงเอาไวรัลมาเล่นได้อย่างกลมกลืนจะยกระดับให้ลูกค้าเห็นว่าเราเป็นผู้นำเสนอก็เท่ากับเป็นการบอกทางอ้อมว่าลูกค้าจะรู้จักเราก่อนคู่แข่ง อาจไม่ได้เห็นผลในทันทีแต่เทคนิคเหล่านี้เหมือนน้ำซึมบ่อทรายที่เห็นผลในระยะยาวมากกว่า

แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังไว้เสมอคือไวรัลเป็นแค่กระแสชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นคิดตามกระแสเหล่านี้ต้องเร็ว ไว และใช้ไอเดียในด้านบวกให้เกิดประโยชน์ อย่าลืมว่าโซเชี่ยลเป็นอะไรที่น่ากลัวเมื่อส่งเสริมให้ดังได้ในชั่วข้ามคืนก็ทำให้ดับในชั่วข้ามคืนได้เช่นกัน การใช้โซเชี่ยลเป็นหนึ่งในเทคนิคการตลาดจึงต้องระวังสิ่งเหล่านี้ให้มากด้วย


SMEs Tips

  1. เป็นโอกาสในการเรียกลูกค้าให้รู้จักสินค้า
  2. การตามกระแสทำให้ภาพลักษณ์ดูดี
  3. เป็นสีสันทางการตลาด
  4. ใช้ไวรัลให้ถูกต้องคนจะจดจำแบรนด์ได้มาก
  5. สร้างตัวเองให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด