5 สถานการณ์ พ่อค้าแม่ค้า ทำลูกค้าเมิน

ทาง ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่า นอกจากสินค้าและทำเลที่ขายจะเป็นตัวดึงดูดใจให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าแล้ว ตัวผู้ขายเองก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งในหลายๆ ครั้ง การที่กระทำอันเกิดจากความเผลอ หรือ ความไม่ได้ตั้งใจที่เราจะนำมาเสนอดังต่อไปนี้ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อหรือเมินหนีได้เช่นกัน

1.โอ้อวด เชียร์สินค้ามากจนเกินไป

การที่พ่อค้าแม่ขาย ต้องการที่จะขายสินค้ามากจนเกินไป โดยเชียร์หรือพูดโอ้อวดสินค้ามากจนเกินพอดีนั้นใช่ว่าจะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ แต่ตรงกันข้ามก็อาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญและไม่อยากที่จะซื้อสินค้าได้

ในการเชียร์สินค้าพ่อค้าแม่ค้าควรพูดเชียร์สินค้าให้มีความเหมาะสม ไม่โอ้อวดคุณสมบัติหรือสรรพคุณของสินค้าที่เกินจริง ควรทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่ต้องการจะนำเสนอสินค้าดีๆ ให้ มิใช่เพียงแต่หวังจะขายสินค้าให้ได้อย่างเดียว

นอกจากนี้ก็ควรที่จะปล่อยให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกดูสินค้าตามความต้องการของตัวเองบ้างเช่นเดียวกัน

ทำลูกค้าเมิน

2. หน้าตาบูดบึ้ง

หลายๆ ครั้งที่ลูกค้ามีความสนใจในสินค้าร้านใดร้านหนึ่งและต้องการเข้าไปเลือกชมและสอบถามราคา แต่พอเดินเข้าไปแล้วพบกับ พ่อค้าแม่ค้า ที่ทำหน้าตาบูดบึ้งไม่อยากรับแขก บางครั้งยังพูดจาห้วนๆ ด้วยน้ำเสียงแข็งๆ เหมือนกับไม่อยากจะขายเท่าไหร่นัก ก็ทำให้คนที่อยากซื้อเปลี่ยนใจไม่อยากจะซื้อ และเดินออกจากร้านได้เหมือนกัน

การสร้างความประทับใจให้เกิดกับลูกค้าที่สามารถทำได้ง่ายๆ นั้นก็คือ การที่พ่อค้าแม่ขายมีรอยยิ้มที่พิมพ์ใจประดับอยู่บนใบหน้า คอยยิ้มแย้มและให้ความเป็นกันเองกับลูกค้าที่เข้ามาเลือกชมสินค้า หรือลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่เสมอ

ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้ากล้าที่จะเข้ามาเลือกชมสินค้าแล้ว ความเป็นกันเองและการเต็มใจให้บริการก็จะทำให้ลูกค้าอยากอุดหนุนสินค้ากลับไปหลายๆ ชิ้นด้วย

3.เลือกบริการลูกค้า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพ่อค้าแม่ขาย บางคนมักจะเลือกให้การบริการเฉพาะลูกค้าที่ดูเหมือนมีกำลังในการซื้อเท่านั้น ลูกค้าคนใดที่พิจารณาจากภายนอกแล้วดูเหมือนจะไม่ซื้อสินค้า หรือไม่มีกำลังซื้อที่มากพอก็จะไม่เข้าไปบริการหรือสอบถามใดๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าผิดพลาดและไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพ่อค้าแม่ขายที่ดีควรจะให้การต้อนรับและบริการลูกค้าทุกคนที่เข้ามาเลือกชมสินค้าอย่างเท่าเทียม

การพิจารณาลูกค้าโดยมองแค่องค์ประกอบภายนอกนั้น ไม่สามารถที่จะนำมาเป็นตัวตัดสินในเรื่องของการมีกำลังซื้อที่มากน้อยได้เลย ในหลายๆ ครั้งที่พ่อค้าแม่ขายบางร้านเสียลูกค้าและเสียรายได้ไปเพราะมองข้ามกลุ่มลูกค้าที่ตนเองคิดว่าไม่มีกำลังซื้อ

โดยหารู้ไม่ว่าลูกค้ากลุ่มนั้นๆ เตรียมพร้อมที่จะอุดหนุนอยู่แล้ว การกระทำนี้นอกจากจะเสียลูกค้าและรายได้ที่ควรจะได้รับแล้ว ก็จะส่งผลให้เกิดการกระจายข่าวแบบปากต่อปาก จนลูกค้าคนอื่นๆ ไม่อยากจะเข้ามาอุดหนุนด้วยเช่นกัน

1m12

4. พ่อค้าแม่ค้า ตามติด ประชิดตัวลูกค้าตลอดเวลา

พ่อค้าแม่ขาย บางคนมักจะไม่ค่อยไว้ใจลูกค้า ต้องคอยจับตาและเดินตามประชิดอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า เพราะกลัวว่าลูกค้าจะขโมยหรือทำให้สินค้าเสียหาย ซึ่งในบางครั้ง การที่พ่อค้าแม่ขายคอยตามประชิดในลักษณะนี้ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความอึดอัด ไม่กล้าที่จะหยิบจับสินค้าอะไรขึ้นมาดูเพราะรู้ว่าทุกการกระทำอยู่ในสายตาพ่อค้าแม่ขายตลอดเวลา จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อสินค้าในร้านนั้นๆ

พ่อค้าแม่ขายควรให้พื้นที่แก่ลูกค้า ให้พวกเขาสามารถเดินเลือกชมและเลือกพิจารณาสินค้าได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยระแวงว่ากำลังถูกพ่อค้าแม่ค้าจับผิด หรือรู้สึกเหมือนถูกกดดันว่าเมื่อหยิบจับอะไรขึ้นมาดูแล้วจะต้องซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ กลับไปนั่นเอง

5.ไม่ควบคุมอารมณ์

หลายๆ ครั้งที่พ่อค้าแม่ขาย บางคนไม่สามารถที่จะระงับอารมณ์หงุดหงิดหรือเหวี่ยงวีนได้เมื่อต้องคอยตอบคำถามลูกค้าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับลูกค้าคนเดิมๆ จนทำให้เผลอแสดงอารมณ์ที่ไม่น่าดูออกไป ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจซื้อแล้ว สถานการณ์นี้อาจจะบานปลายออกไปจนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นก็เป็นได้

ซึ่งการเป็นพ่อค้าแม่ขายที่ดีนั้น แน่นอนว่าอันดับแรกต้องมีใจรักบริการ ฉะนั้นก็ต้องให้การบริการอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังต้องสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ไม่ควรที่จะใจร้อน หรือหงุดหงิดง่าย เพราะจะทำให้ลูกค้าเกรงกลัวและไม่กล้าเข้ามาอุดหนุนอีกเลย

1m13

ทาง ThaiSMEsCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่เราได้นำเอามาเสนอในวันนี้ จะเป็นแนวทางให้พ่อค้าแม่ขายได้ให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่น และเป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคนประสบความสำเร็จกับอาชีพค้าขายนะคะ

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3kHpXC4