5 วิธีเลือกซื้อ แฟรนไชส์ชนิดเดียวกัน ให้ถูกใจ

เชื่อว่าคนที่กำลังจะซื้อแฟรนไชส์ไปทำธุรกิจ คงมีอาการปวดหัว รู้สึกสับสน มึนๆ งงๆ หรืออารมณ์แบบรักพี่เสียดายน้อง เพราะไม่รู้จะตัดสินใจเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ตัวไหนดี โดยเฉพาะแฟรนไชส์ชนิดเดียวกัน มีสินค้าและบริการเหมือนกันด้วย

ต่อจากนี้ไป คุณไม่ต้องคิดมาก เพราะวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะมาบอกวิธีการเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้ถูกใจ โดยเฉพาะ แฟรนไชส์ชนิดเดียวกัน อาจมีตัวเลือกในใจ 4-5 แบรนด์ หรือ 2-3 แบรนด์ หรือ 2 แบรนด์สุดท้าย และอยากรู้หรือไม่ว่าวิธีการเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้ถูกใจมากที่สุดเพียงหนึ่งแบรนด์ จะพิจารณาจากอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ

1.ค่าใช้จ่าย

อยากแรกให้ดูที่ค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ของแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์ที่คุณสนใจ แล้วนำมาเปรียบเทียบระหว่างแบรนด์ หรือแบรนด์ต่อแบรนด์ ว่าแฟรนไชส์ไหนเสียค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า (Franchise Fee) มากกว่ากัน หรือน้อยกว่ากัน

รวมไปถึงดูค่าใช้จ่ายด้านงบการลงทุนเริ่มต้น (การออกแบบตกแต่งร้าน+ซื้ออุปกรณ์) และค่าธรรมเนียมการตลาด หรือ Royalty Fee (บางแบรนด์ไม่มี บางแบรนด์มี) องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายว่าจะเลือกแฟรนไชส์ไหน

2. TREND (การขยายสาขา)

ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกเรื่อง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง จำนวนการขยายสาขาที่มีมากในแต่ละปี บ่งบอกถึงแบรนแฟรนไชส์นั้นมีชื่อเสียง สินค้าและบริการได้รับความนิยมในตลาด และต้องดูให้ลึกด้วยว่า

แต่ละปีแบรนด์แฟรนไชส์นั้นๆ ขยายสาขาได้มากน้อยแค่ไหน เพิ่มมากหรือเพิ่มน้อย ตรงนี้ก็จะบอกถึงความนิยมในแฟรนไชส์นั้นๆ ของผู้บริโภคด้วย เพราะถ้าสินค้าหรือบริการไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค เชื่อว่าคงไม่ขายแฟรนไชส์ได้มากขนาดนี้

3. การฝึกอบรม

ก่อนเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้ถูกใจ คุณต้องด้วยว่าแต่ละแฟรนไชส์ใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมนานแค่ไหน กี่วัน กี่ชั่วโมง ถ้าคุณอยากเปิดร้านเร็ว ก็อาจเลือกแฟรนไชส์ที่ฝึกอบรมน้อยวัน หรือน้อยชั่วโมง ถ้าอยากได้แฟรนไชส์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ลงทุนสูงๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาฝึกอบรมยาวนานเป็นปี หรือเป็นเดือน ก็เลือกแฟรนไชส์เหล่านี้ได้ แล้วแต่ว่าคุณชอบ

4. ทำเลที่ตั้ง

องค์ประกอบนี้ก็ถือว่าสำคัญมากครับ ก่อนที่จะเลือกซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง คุณต้องเปรียบเทียบในเรื่องของทำเลที่ตั้งของร้านแฟรนไชส์ในแต่ละแบรนด์ด้วย เพราะอาจส่งผลต่อการส่งสินค้าวัตถุดิบ และการให้สนับสนุนของแฟรนไชส์ซอร์ด้วย

ถ้าคุณอยู่ห่างไกลและไม่มีแบรนด์แฟรนไชส์เดียวกันกับคุณอยู่ในพื้นที่หรือเขตนั้น เมื่อซื้อแฟรนไชส์ไปคุณอาจได้รับการสนับสนุนจากแฟรนไชส์ไม่เต็มที่ หรือส่งสินค้าหรือวัตถุดิบล่าช้า ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ครับ

5. การสนับสนุน

เรื่องนี้จะขาดไม่ได้เลยในการพิจารณาเลือกซื้อแฟรนไชส์ เพราะเป็นองค์ประกอบที่จะมีส่วนช่วยให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จหรือไม่ ถ้าแบรนด์แฟรนไชส์ไหนมีระบบที่แข็งแกร่ง มีขั้นตอนการฝึกอบรมที่เป็นมาตรฐานสากล ให้ความช่วยเหลือแฟรนไชส์ซีด้านต่างๆ

ตั้งแต่ก่อนการเปิดร้าน ไปจนกระทั่งหมดอายุสัญญาแฟรนไชส์ บอกได้เลยว่าคนที่ซื้อแฟรนไชส์แบรนด์นี้ มีความสุขแน่นอน เพราะไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แฟรนไชส์ซอร์ให้ความช่วยเหลือสม่ำเสมอ

ทั้งหมด 5 องค์ประกอบในการพิจารณา ก่อนตัดสินใจเลือกแฟรนไชส์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ถือเป็นแนวทางให้นักลงทุน และคนที่กำลังมองหาแฟรนไชส์ไปทำธุรกิจ นำไปศึกษาเพื่อให้รู้ว่าแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์ ที่ตัวเองกำลังสนใจอยู่นั้น มีข้อดี-ข้อเสีย มีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบ กันอย่างไรบ้าง

เพราะไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์เชื่อว่า นักลงทุนทุกคนต้องการอยากเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่ดีที่สุด และมีความเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในการลงทุน และการให้สนับสนุนของแฟรนไชส์ซอร์ ต้องพิจารณาให้ดีครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com
สนใจซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ต่างๆ www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3rxJIR9