5 วิธีขายสินค้าแบบ อินดี้ กำไรไม่มีOut!

ขายของอะไรดี ? ขายของแบบไหนถึงจะมีกำไร? 2 คำถามสั้นๆแต่เป็นปัญหาโลกแตก บอกได้เลยว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพราะวิธีการขายบางอย่างก็เหมาะกับพ่อค้าบางคน เทคนิคการขายบางอย่างก็เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าบางกลุ่มเช่นกัน

วิธีที่บอกคนนี้แล้วทำได้ดี บางคนบอกเอาไปลองทำแล้วไม่เห็นจะดีตรงไหน อันนี้ก็เป็นไปได้ สรุปคือ ขายของอะไรดี ขายอะไรถึงมีกำไร ในฐานะพ่อค้าแม่ค้าต้องหมั่นฝึกฝน สังเกต เรียนรู้ และค่อยๆประยุกต์เอาเทคนิคที่เรียนรู้มาปรับใช้ในเข้ากับสินค้าและสไตล์การขายตัวเอง

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com ก็ยังขอทำหน้าที่ในการนำเสนอเทคนิคการขายกันต่อไปเพื่อให้ข้อมูลมีความหลากหลายพ่อค้าแม่ค้าได้เอาไปลองใช้หลายๆวิธี อย่างวันนี้เราก็มีวิธีการขายแบบ อินดี้ ที่ใครเข้าใจและทำดีๆ กำไรไม่มีตกหล่นไปไหนแน่

อินดี้

คำว่า อินดี้ (Indy) ย่อมาจากคำเต็มในภาษาอังกฤษว่า Independence หมายถึง “อิสรภาพ” ที่เราเรียกว่า “คนนี้โคตรอินดี้เลย! ก็หมายถึงคนที่ดำเนินชีวิตด้วยการตัดสินใจและใช้เหตุผลที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดของตัวเอง จนบางทีก็ดูเหมือนคนคิดนอกกรอบ หรือบางทีก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูงปรี๊ดทีเดียว

ถ้าให้ยกตัวอย่างคนแนว “อินดี้” ที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ง่ายๆในเมืองไทยก็ต้อง เจ้าของแบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ที่ใครได้ดูหนัง “อายุน้อยร้อยล้าน” ก็จะเห็นความอินดี้ ชัดเจน คือไม่อยากทำสินค้าที่ใครเขาก็ทำกัน ไม่อยากทำงานเป็นลูกน้องใคร

สุดท้ายก็คิดและลุยธุรกิจสร้างทุกอย่างขึ้นมาในสไตล์ตัวเอง ล้มบ้างผิดพลาดบ้าง แต่ก็ยังยึดมั่นในแนวคิดตัวเอง จนในที่สุดทุกวันเถ้าแก่น้อยกลายเป็นธุรกิจระดับประเทศเป็นต้นแบบให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา แต่พื้นฐานของธุรกิจมาจากความรู้สึกแบบ “อินดี้” ทั้งนั้น

ช้าก่อนนะครับ! อย่าเพิ่งเข้าใจว่า อินดี้คือการลุยแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ขึ้นชื่อว่าธุรกิจไม่ว่าจะอินดี้หรือไม่อินดี้ ต้องมีการวางแผนที่ดีก่อนทุกครั้ง มีแผน1 แผน 2 ไว้สำรองเสมอ เฉกเช่นเดียวกับการเป็นพ่อค้าแม่ค้าเราก็สามารถประยุกต์ใช้ความเป็น “อินดี้” มาช่วยในการขาย ซึ่ง 5วิธีการขายแบบอินดี้ต่อไปนี้ คงช่วยให้การขายมีสีสันและกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ไม่น้อย

1.เลือกสินค้าเฉพาะกลุ่มมาขายดูบ้าง

uu3

พ่อค้าแม่ค้าสไตล์อินดี้อาจจะเริ่มจากการหาสินค้าแบบ Niche Marketตัวอย่างของสินค้าประเภทนี้ก็อย่างเช่น สินค้าสำหรับคนท้อง เพราะสินค้านี้จะใช้แค่เพียงคนท้องเท่านั้น คนธรรมดาทั่วไป ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกไปตามมาสินค้าแบบนี้มาใช้กัน

หรือจะเป็นสินค้าสำหรับแต่งตัวเลียนแบบตัวการ์ตูน (Cosplay) ที่จะเข้าถึงเพราะลูกค้าที่มาความสนใจในการแต่งตัวเลียนแบบตามตัวการ์ตูนเท่านั้น ทำให้การตลาดออกมาเจาะจงและเข้าถึงลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ไม่ยาก และเพราะมีร้านแบบนี้ไม่เยอะ ทำให้ลูกค้าจนจำได้เป็นอย่างดี

2.อะไรที่ย้อนยุคยังคลาสสิคเสมอ

uu2

ตามกระแสอาจจะดูว่าเป็นคนทันสมัยแต่ไม่ “สะดุดตา” หากอยากเตะตาลูกค้าคงต้องย้อนยุคกันหน่อย คนอินดี้เขาจะแหวกแนวเรื่องนี้มาก อะไรที่คนทำกันเขาจะไม่ทำ อะไรที่แตกต่างเขาจะทำ และนี่คือข้อดี ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าอะไรลองเปลี่ยนธีมร้านมาย้อนยุคกันดูบ้าง จัดร้านแต่งร้าน เสียงเพลงให้มีความคลาสสิคถอยหลังจากยุคนี้ไปสัก 5-10 ปี

ซึ่งกลุ่มคนในช่วงอายุนี้มีอีกมากและความคลาสสิคของการย้อนยุคยังดึงลูกค้ายุคใหม่ให้เข้ามาสนใจได้อีกด้วย หรือถ้าจะให้ดีไปหาสินค้าเก่าๆ เอามาขายดูเช่นอะไรบ้าง ทรานซิสเตอร์ , โนเกียรุ่นเก่า , ตลับเทปเพลง ฯลฯ ลองแทรกสินค้าเหล่านี้รวมกับสินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะขายออนไลน์หรือออฟไลน์ก็น่าจะทำให้มีคนสนใจมากขึ้นไม่น้อย

3.เล่นกับความอายของลูกค้า

u3

สินค้าพวกของใช้ส่วนตัวของคุณผู้หญิง สินค้าสำหรับท่านชาย โดยมากกลุ่มลูกค้ามักอาศัยการแอบๆ ซื้อด้วยความอายเพราะสังคมไทยปลูกฝังว่าบางเรื่องนั้นไม่ดีงาม เปิดเผยไม่ได้ สินค้าเหล่านี้จึงเหมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง

ซึ่งการขายแบบอินดี้เราต้องเล่นกับความอายนี้ให้ได้ผล เช่นการจัดร้านให้ดูมิดชิด โดยมีสินค้าที่คนไม่กล้าซื้อเป็นไฮไลท์ในร้าน การขายสินค้าแนวนี้อาจจะดูว่ากลุ่มคนที่เป็นลูกค้ามีน้อยแต่เชื่อเถอะว่าลูกค้าหลายคนต้องการและหากเราทำให้ร้านเราเป็นทางเลือกที่ดีได้ลูกค้าเหล่านี้จะกลายเป็นลูกค้าประจำทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์เลยทีเดียว

4.กล้าที่จะขายแบบไม่อายใคร

u4

จุดบอดของพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่คืออยากขายของแต่ไม่กล้าบอกเพื่อนหรือคนอื่น อาจจะเขิน กลัว อาย หรือมัวคิดว่าการขายของจะทำให้เพื่อนดูถูก ถ้าใช้วิธีแบบอินดี้ก็ต้องสลัดความคิดเหล่านี้และเปิดเผยตัวเองให้โลกรู้ อย่าไปกลัวว่าใครจะคิดอย่างไร หากการขายสินค้าเราเป็นเรื่องถูกกฎหมายและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

เมื่อคิดขายของออนไลน์ก็ให้ส่งคำขอเป็นเพื่อนไปตามเฟส ตามเพจต่างๆ ใครรับเป็นเพื่อนก็รับใครอยากบล็อกก็บล็อกปล่อยเขาไป ถ้ามัวแต่เอียงอายกลัวเพื่อนจะรู้ บอกได้คำเดียวว่า ขายอย่างไรก็ไม่รุ่ง หรือถ้ามีร้านค้าตัวเองก็ป่าวประกาศให้เพื่อนรู้ แจกแผ่นผับ โบชัวร์ นามบัตรให้ทั้งคนรู้จักไม่รู้จัก ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดตัว ซึ่งเราต้องลบความอายให้หมดไปก่อน

5.เป็นอินดี้แบบมีสมอง

u1

อินดี้แบบสุดท้ายไม่ใช่วิธีการขายแต่เป็นส่วนสำคัญที่บอกได้ว่าธุรกิจการค้าของเราจะรอดไม่รอด เพราะอินดี้ส่วนใหญ่มักมีแนวคิดตัวเองใช้ชีวิตเต็มที่ เจออะไรก็ทำเต็มที่ ในแบบฉบับตัวเอง จนบางครั้ง มองข้ามเรื่องการบริหารรายได้

ดังนั้นขายของแบบอินดี้ต่อให้ขายดีแค่ไหนเราก็ต้องรู้จักการออม หรือบริหารการเงิน ส่วนไหนต้องเก็บ ส่วนไหนเอาไว้ใช้จ่าย ต้องแยกให้ชัดเจน อย่าอินดี้แม้กระทั่งเรื่องการใช้เงินประเภทได้เท่าไหร่ใช้เท่านั้น หมดแล้วก็หาใหม่ ถ้าแบบนี้อินดี้สักกี่ปีก็คงจะรวยยาก

การเป็นพ่อค้าแม่ค้านอกจากวิธีการขาย สินค้ามีคุณภาพ บริการที่ดี รู้จักการทำตลาดที่ดี สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักปรับปรุงและพัฒนาตัวเองให้ต่อเนื่อง

การขายของแบบอินดี้ก็เป็นเพียงแนวทางหนึ่งในสไตล์การขายที่อาจเอามาประยุกต์ใช้แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องรู้จัก “จังหวะ” ใช้เทคนิคการขายที่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ ไม่ใช่ยึดติดกับวิธีใดวิธีหนึ่งตลอดไป เหมือนการเป็นต้นไผ่ที่ลู่ลมยังไงก็ไม่หักโค่นหรือเจ๊งไม่เป็นท่าแบบง่ายๆแน่นอน


SMEs Tips

  1. เลือกสินค้าเฉพาะกลุ่มมาขายดูบ้าง
  2. อะไรที่ย้อนยุคยังคลาสสิคเสมอ
  3. เล่นกับความอายของลูกค้า
  4. กล้าที่จะขายแบบไม่อายใคร
  5. เป็นอินดี้แบบมีสมอง

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด