5 ธุรกิจทำแล้วดี! ใน เทศกาลกินเจ

ในช่วง เทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 1-9 ตุลาคม 2559 นี้ถือเป็นเวลาเพียง 10 วัน แต่ก็เป็นช่องทางตลาดสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ จะงัดเอากลยุทธ์การขายหรือเลือกหาสินค้าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อการทำกำไรระยะสั้น ซึ่งแทบทุกปีจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายที่สูงมากแม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะไม่ดีนักแต่ก็คาดว่าธุรกิจขาประจำในเทศกาลกินเจก็ยังคงดีต่อเนื่องแน่นอน

โดย“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย”ว่าเทศกาลกินเจในปีนี้จะมีเงินสะพัดในพื้นที่กรุงเทพฯไม่ต่ำ 4,500 ล้านบาท เป็นการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 7.2% เทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมาและก็มี 5 ธุรกิจน่าสนใจที่ www.ThaiSMEsCenter.com มานำเสนอให้กับท่านที่สนใจซึ่งอาจจะเปลี่ยนมาเป็นพ่อค้าชั่วคราวกะเก็งกำไรกันแบบสบายๆหรือถ้าติดอกติดใจจะขายกันแบบยาวๆไปถึงกินเจปีหน้างานนี้ก็ไม่ว่ากันละนะ

1. การขายผักสด

เทศกาลกินเจ

ในตลาดสดเรียกว่ามีแผงขายผักกันตลอดทั้งปีแต่เชื่อหรือไม่ว่าเทศกาลกินเจนี้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายผักจะมากขึ้นเป็นพิเศษทั้งคนที่ขายประจำกับแบบที่ขายเฉพาะกิจ เหตุผลก็เพราะว่าเทศกาลกินเจก็ไม่ต่างจากเทศกาลกินผักดังนั้นราคาผักช่วงนี้จึงแพงเป็นปกตินั่นเอง

เท่าที่สำรวจในตลาดล่าสุดนั้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมาราคาผักมีการปรับตัวสูงขึ้น 5-10 บ./กก. โดยเฉพาะผักบุ้ง กวางตุ้ง เห็ดต่างๆ หรือแม้แต่ถั่วงอกราคาก็ยังแพงอย่างเห็นได้ชัด

แต่ก็ใช่ว่าราคาผักที่แพงมากขึ้นจะทำให้กำไร/กก. ดังนั้นคนที่จะคิดขายผักในเทศกาลกินเจก็มีกลยุทธ์สำคัญคือเก็งผักไว้ก่อนช่วงที่ราคาถูกแต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาก่อนเข้าเจได้ไม่นานเพราะอายุผักนั้นไม่ยาวนัก แต่งานนี้ถ้าปลูกผักได้เองจะได้เปรียบกว่าเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าบางคนที่มีสวนของตัวเองบอกว่ากำไรที่ได้ในช่วง 10 วันนี้สูงขึ้นเป็นเท่าตัวทีเดียว

2. การขายอาหารเจปรุงสำเร็จ

io8

เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของเทศกาลกินเจเลยก็ว่าได้สีสันของร้านธงเหลืองที่ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านอาหารปกติที่ปรับเปลี่ยนเมนูรับกระแสเทศกาลเจ กลายเป็นร้านอาหารเจชนิดปรุงสำเร็จรูปที่คนนิยมซื้อรับประทานกันเป็นจำนวนมากสำหรับคนที่คิดทำธุรกิจนี้แบบมือใหม่ก็ต้องมีความรู้ในการปรุงอาหารเจให้อร่อยและเมนูยอดนิยมส่วนใหญ่ก็เช่น น้ำพริกเจ , ผัดกระเพราเจ , ผัดเผ็ดเจ , ต้มกะหล่ำปลีเจ เป็นต้น

ซึ่งราคาขายของอาหารเจปรุงสำเร็จรูปนั้นถือว่ามีการขยับกันแทบทุกปีโดยในปีนี้แพงกว่าปีก่อนประมาณ 5 บาท ส่วนใหญ่เป็นการตักใส่ถุงอยู่ที่ถุงละ 30-35 บาท เป็นการสร้างรายได้ที่ดีแม่ค้าอาหารเจที่ทำเป็นประจำทุกปีพูดใกล้เคียงกันว่ากำไรที่ได้จากช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท/วันกันเลยทีเดียว

3. ขายวัตถุดิบอาหารเจ

io24

นอกจากผักสดแล้ว บรรดาวัตถุดิบที่ใช้ในอาหารเจต่าง ๆ เช่น โปรตีนเกษตร ถั่ว เนื้อสัตว์เจ หรือแม้แต่เต้าหู้ อาหารเหล่านี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน แถมยังเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดีอีกด้วย ไม่ต้องไปลงทุนทำเอง

แค่เพียงรับมาขายต่อจากร้านขายส่งก็ช่วยสร้างเสริมรายได้ในช่วงเทศกาลกินเจได้ โดยเฉพาะพวกเห็ดชนิดต่างๆที่มีคนนิยมนำไปทำอาหารเจ ช่วงนี้ราคาจะสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 100 – 120 บาท จากปกติที่กิโลกรัมละ 70 – 90 บาทเท่านั้น

4.ขายอาหารทานเล่นแบบเจๆ

j4

ภาพจาก goo.gl/zjr82i

แม่ค้าเฉพาะกิจในอาหารประเภทนี้ช่วงนี้เยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะวิธีการทำอาหารทานเล่นแบบเจๆ นั้นไม่ยากเย็นเท่าใดส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภททอด เช่น เต้าหู้ทอด เผือกทอด ข้าวโพดทอด ปอเปี้ยะไส้เห็ด เป็นต้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านมีความแตกต่างคือรสชาติของน้ำจิ้มที่ชี้วัดความอร่อยได้ดีที่สุด

แต่อย่างไรก็ตามราคาจำหน่ายคือสิ่งที่จูงใจมากที่สุดโดยปกติอาหารเจทอดๆแบบนี้จะขายชิ้นละ 5-7 บาท บางร้านปรับราคาเพิ่มขึ้นถึงชิ้นละ 10 บาท แม้จะดูว่าเป็นการขึ้นราคาที่สูงแต่เมื่อคิดถึงระยะเวลาที่มีแค่ 10 วัน ก็ทำให้หลายคนมองข้ามและกลายเป็นกำไรสำคัญให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่น่าสนใจมากๆ

5. ขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสีขาว

j3

ภาพจาก goo.gl/zjr82i

ใครบอกว่าเทศกาลเจมีแต่เรื่องของธุรกิจอาหาร ความจริงแล้วธุรกิจเสื้อผ้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกับการขายเสื้อผ้าสีขาวที่เราสามารถไปรับจากแหล่งขายส่งในราคาไม่แพงนักแต่ในเทศกาลแบบนี้อาจจะตั้งราคาขายได้สูงกว่าปกติมากทีเดียว

แต่ทั้งนี้ธุรกิจเสื้อผ้าแม้จะเป็นสีขาวแต่ถ้ารู้จักปรับให้เข้ากับแฟชั่นก็จะยิ่งเพิ่มยอดการขายให้สูงมากขึ้นซึ่งราคาจำหน่ายเสื้อผ้าสีขาวสไตล์แฟชั่นจะเริ่มต้นกันตั้งแต่ตัวละ 199 ไปถึงตัวละ 500-600 บาท แม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ดีนักแต่เทคนิคที่จะทำให้คนสนใจและหันมาซื้อก็คือการจัดโชว์ไว้หน้าร้านเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มผู้ซื้อทราบถึงเทศกาลกินเจ ที่อาจกระตุ้นความต้องการได้เป็นอย่างดีด้วย

เรื่องของราคาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับเทศกาลกินเจหลายอย่างที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมก็ถือเป็นกลไกตลาดอย่างหนึ่งซึ่งพอพ้นจากเทศกาลราคาก็จะกลับมาเป็นปกติเป็นไปตามกฏของอุปสงค์และอุปทาน หรือจะเรียกว่าเป็นสีสันการตลาดที่อาจมีคนหัวใสคิดทำสินค้าน่าสนใจที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้มากกว่าธุรกิจขายสินค้าที่เรานำเสนอไปในเบื้องต้นก็เป็นได้

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด