5 ข้อเช็คตัวเองว่าควรลาออกไปทำธุรกิจหรือไม่

Economic World Forum ได้อ้างอิงถึงงานวิจัยที่รวบรวมค่าสถิติว่าประเทศไหนมีสัดส่วนของคนเป็น เจ้าของธุรกิจ และเป็นนายตัวเองมากที่สุด ปรากฏว่าประเทศไทยติดอันดับที่ 2 ของโลกเรื่องนี้ เนื่องจากมีคนที่เป็นนายตัวเองสูงถึง 16.7% เหนือกว่าอเมริกาที่มีสัดส่วนของเจ้าของกิจการ 4.3% และสหราชอาณาจักรที่มีสัดส่วน 4.7%

ทั้งนี้อาจเป็นผลรวมที่เกิดจากตัวแปรด้านจำนวนประชากรรวมถึงอาชีพที่เป็นนายตัวเองในบ้านเราก็เหมารวมตั้งแต่เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ ร้านค้าระดับ SME ไปจนถึงคนขับแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซด์รับจ้าง

อย่างไรก็ตามการที่คนเรามีความคิดอยากเป็นนายตัวเองนั้น www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าบริษัทในเมืองไทยส่วนใหญ่มีขนาดเล็กโอกาสในการเติบโตไม่มาก รวมถึงหลายบริษัทไม่มีนโยบายในการอบรมเพิ่มศักยภาพบุคลากร

เหล่าลูกน้องเมื่อมองดูว่าไม่มีโอกาสก้าวหน้าเหมือนทำงานไปวันๆ อนาคตก็ไม่มี สิ่งที่ดีที่สุดคือการลาออกไปหากิจการเล็กๆของตัวเองทำดีกว่า แต่ทั้งนี้ก่อนคิดจะลาออกก็ควรหันมาเช็คตัวเองสัก 5 ข้อตอบคำถามเหล่านี้ได้ ก็เชิญลาออกได้ตามสบายเลยครับ

1.ถ้าลาออกจะมีใครต้องมาเดือดร้อนกับเราไหม?

เจ้าของธุรกิจ

ถ้าคิดลาออกเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขอให้หยุดคิดและตอบคำถามข้อนี้ก่อนอันดับแรก ต้องไม่ลืมว่าถ้าเราไม่ใช่ตัวคนเดียว มีพ่อแม่ ลูกเมียต้องคอยดูแล การลาออกอาจจะมีผลกระทบต่อใครหลายคน โดยเฉพาะหากเราเป็นคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เงินเดือนจากงานประจำอาจจะไม่มากแต่ก็พอใช้จ่ายให้รอดๆไปแต่ละเดือน ทีนี้หากลาออกก็ต้องมั่นใจได้ว่าจะมีทางออกสำหรับเรื่องเหล่านี้

2.อยากมีกิจการเพราะต้องการหาเงินใช้หนี้ ขอให้คิดเรื่องนี้ใหม่!

i4

บางคนอยากทำธุรกิจตัวเองเพราะได้ยินได้ฟังหรือได้เห็นข้อมูลของคนอื่นที่ทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีในเวลาไม่นาน ลูกจ้างบางคนที่มีภาระหนี้สินติดตัว ลำพังเงินเดือนมองระยะยาวแล้วดอกทบต้นต้นทบดอก

สุดท้ายคิดว่าลาออกมาทำธุรกิจบ้างดีกว่า แต่ช้าก่อนธุรกิจคือสิ่งที่เราต้องทุ่มเทและต้องมีระยะเวลาในการก่อร่างสร้างตัวหากคิดจะทำเช่นนั้นให้เริ่มทำควบคู่กับงานประจำก่อนหากดีกว่าค่อยลาออกมาก็ยังไม่สาย แถมไม่มีผลกระทบเรื่องการจ่ายหนี้ด้วย

3.เป็นคนขยันมากพอหรือเปล่า?

i3

อย่าคิดว่าทำธุรกิจของตัวเองแล้วจะสบาย หากคิดจะสบายแนะนำว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นสบายที่สุด ทำไมละ? ก็ลองคิดดูว่ามนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ทำงานตั้งแต่ 08.00 – 17.00 บางบริษัททำงาน จันทร์-ศุกร์ บางบริษัทก็ทำงานจันทร์-เสาร์

แต่ไม่ว่าเวลาไหนอย่างไรหลังเลิกงานหรือวันหยุดส่วนใหญ่เราก็จะได้พักและไม่ต้องคิดอะไร แต่ถ้าลองเป็นนายตัวเองหากจะให้ธุรกิจก้าวหน้าส่วนใหญ่ต้องทำงาน 24 ชม. ไม่มีเวลามาหยุดเที่ยง หรือวันพักผ่อน ยิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจด้วยแล้วขอบอกเลยว่าใครไม่ขยัน ใครที่ขี้เกียจ จะคิดทันทีว่างานนี้ไม่น่าลาออกมาเลย

4.มีแผนสำรองไว้เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือเปล่า?

i2

แผนสำรองที่ว่านี้จะใช้ในกรณีที่ลาออกมาทำธุรกิจอะไรสักอย่างแล้วปรากฏว่าไม่เป็นไปตามใจคิด ไม่ได้กำไรอย่างที่คาดหวัง สิ่งที่ต้องถามตัวเองก่อนจะลาออกคือ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราจะแก้ปัญหาอย่างไร อย่าคิดว่าลาออกไปทำก่อนมีปัญหาค่อยแก้ ถึงเวลาจริงๆ มันจะมืดแปดด้าน อารมณ์จะเครียดคิดอะไรก็ไม่ออก ทางที่ดีเตรียมถามตัวเองไว้แต่เนิ่นๆแล้วหาคำตอบไว้รอจะดีกว่า

5.รับแรงกดดันได้ดีแค่ไหน

i5

ใครจะคิดลาออกอย่ามองข้ามเรื่องนี้เด็ดขาด การเป็นนายตัวเองเราต้องรับปัญหาทุกด้าน จากที่เคยเป็นลูกน้องแล้วมีลูกพี่แก้ปัญหาต่อจากนี้เราต้องกลายเป็นคนแก้ปัญหาให้ลูกน้องบ้าง ไหนจะเรื่องธุรกิจ ไหนจะเรื่องลูกค้า ไหนจะคู่แข่ง ถามตัวเองก่อนเลยว่า เราไหวไหม เรารับแรงกดดันและพร้อมจะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน หากใจพร้อมมีแผนสำรองที่ดี ไม่เป็นหนี้มากมาย ทำแล้วไม่มีใครเดือดร้อน ก็ลาออกมาได้เลย

บางครั้งการที่เห็นใครทำแล้วดี ใครทำแล้วสำเร็จแล้วคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ฉันเองก็ทำได้แต่พอเอาเข้าจริงๆสิ่งที่ฝันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด ก่อนคิดจะลาออกก็วางแผนการใช้ชีวิตตัวเองให้รอบคอบ ถ้าเราไม่ได้มีทุนมากมายอย่าคิดอะไรง่ายๆ เพราะถ้าทำแล้วพลาดคนที่เจ็บไม่ใช่แค่ตัวเรา ครอบครัวเราก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด