5 ข้อต้องรู้ ก่อนคิดเช่าพื้นที่ค้าขายบนถนนข้าวสาร

แม้จะเป็นเพียงถนนสายสั้น ๆความยาวแค่ประมาณ 400 เมตร แต่ ถนนข้าวสาร ก็มีความเป็นเอกลักษณ์และยังเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบางลำพู ซึ่งนับเป็นย่านธุรกิจที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ดีถนนข้าวสารได้ชื่อว่าเป็นถนนเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2435 จนถึงตอนนี้ก็มากกว่า 100 ปี แต่คาดว่าที่เริ่มดังและรู้จักไปทั่วโลกน่าจะประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา จากถนนที่ไม่มีใครสนใจคนในชุมชนและพ่อค้าแม่ค้าก็รวมตัวกันจัดงานอีเว้นท์ขึ้นเองเช่นปีใหม่ สงกรานต์ เป็นจุดเริ่มที่ทำให้ถนนเริ่มมีชื่อเสียงและโด่งดังไปทั่วโลกในที่สุด

จุดเด่นอันน่าสนใจของถนนข้าวสารที่ www.ThaiSMEsCenter.com มองเห็นคือมีนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมจำนวนมากและนี่คือแม่เหล็กอย่างดีในการดึงดูดพ่อค้าแม่ค้าให้อยากมาขายของที่ถนนข้าวสารแห่งนี้

ไม่นับรวมช่วงสงกรานต์ที่ถือว่าการจองพื้นที่ขายของแถมจะเป็นสงครามแต่ส่วนใหญ่คนในพื้นที่ก็ได้เปรียบกว่าทำให้พ่อค้าแม่ค้าภายนอกเข้ามาขายของได้ยากมาก

ถึงกระนั้นก็ยังมีความพยายามของพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ยอมแพ้ในการขอเช่าพื้นที่ถนนข้าวสารแม้รู้ว่าราคาค่าเช่าจะแพงไม่น้อยแต่เมื่อคำนวณรายได้อันจะเกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ทำให้หลายคนพยายามจะหาพื้นที่เช่าให้จงได้

ด้วยเหตุนี้เพื่อสร้างความเข้าใจในการเช่าพื้นที่บนถนนข้าวสารและเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นก่อนการตัดสินใจลองดู สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่าพื้นที่บนถนนข้าวสารว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

1.การแข่งขันในพื้นที่มีสูงมาก

ภาพจาก goo.gl/7VhwfK , goo.gl/tRV82o

จากเดิมที่เป็นชุมชนธรรมดามีชาวบ้านอาศัยอยู่ก่อนแล้วเมื่อพัฒนามาเป็นย่านท่องเที่ยว วิถีชีวิตของคนในชุมชนก็เปลี่ยนจากเดิมสิ้นเชิงทุกวันนี้ถนนข้าวสารเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ฯลฯ

ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจด้านความบันเทิงและนันทนาการ เมื่อเป็นแหล่งเงินแหล่องทองขนาดนี้มีหรือที่ผู้ทำธุรกิจมาก่อนจะยอมให้มีคลื่นลูกใหม่เข้ามาเปิดกิจการได้ง่ายๆ

ปัญหาสำคัญที่คนภายนอกหาพื้นที่เช่าไม่ได้ก็เพราะความไม่ต้องการมีคู่แข่งทางธุรกิจทำให้การจะเลือกผู้ค้ารายใหม่เข้ามาในพื้นที่นั้นจำเป็นที่เราอาจต้องรู้จักและสนิทกับคนในพื้นที่มาบ้าง

ซึ่งถือว่าเป็นเหตุผลใหญ่ที่หลายคนบอกว่าทำไมหาพื้นที่เช่าในย่านนี้ได้ยากเหลือเกิน ถึงขนาดที่บางคนเข้าไปเดินถามร้านค้าเพื่อเช่าพื้นที่

หรือแม้กระทั่งไปถามที่ สน.ชนะสงครามถึงการเช่าพื้นที่ สุดท้ายคำตอบก็คือต้องติดต่อเจ้าของที่เอาเอง ทั้งนี้ก็มีคนที่แนะนำบอกว่าให้ไปสอบถามเรื่องพื้นที่เช่ากับสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้พื้นที่เช่าสมใจต้องการหรือไม่

2.เพิ่งจะผ่านการจัดระเบียบผู้ค้า

ภาพจาก goo.gl/zYTaqT

ซึ่งจากการจัดระบบพ่อค้าแม่ค้าในย่านต่างๆ ถนนข้าวสารก็เป็นอีกหนึ่งทำเลที่โดนจัดระเบียบเช่นกัน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีผู้ค้าทั้งหมดจำนวน 359 ราย 359 แผงค้า

เมื่อทำการจัดระเบียบแล้วมีจำนวน 234 ราย 234 แผงค้า แบ่งประเภทสินค้าออกเป็น เสื้อผ้า 129 ราย อาหาร เครื่องดื่ม 53 รายกระเป๋า รองเท้า 22 ราย นวด สักลาย 12 ราย และเบ็ดเตล็ดอีก59 ราย

งานนี้ก็มีทั้งฝ่ายที่พอใจและไม่พอใจ แน่นอนว่าในมุมพ่อค้าแม่ค้ามองว่าไม่เป็นธรรมและทำให้รายได้ลดลง ดังนั้นในฐานะของคนที่อยากเข้าไปเช่าพื้นที่จึงควรศึกษาปัจจัยข้อนี้ให้ดี คำนึงถึงความเหมาะสมว่าควรลงทุนหรือไม่หากตัดสินใจว่าควรก็พยายามหาพื้นที่เช่าในย่านนี้กันต่อไป

3.ต้องคอยหาพื้นที่ปล่อยเช่าที่ลงประกาศ

ภาพจาก goo.gl/u1gNqR

คำถามสำคัญคือการหาพื้นที่เช่าจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่เดินเข้าไปถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นโดยตรงมักไม่ค่อยสำเร็จนัก วิธีการที่ดีที่สุดคือคอยเช็คข่าวพื้นที่ปล่อยเช่าที่ลงประกาศออนไลน์

แต่ก่อนจะมีการเช่าหรือเซ็นสัญญาก็ควรศึกษาก่อนว่าหากลงทุนไปแล้วจะคุ้มค่าแค่ไหน และจะมีปัญหากับธุรกิจที่มีอยู่เดิมในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งเราต้องใช้ข้อมูลจากคนที่ต้องการปล่อยเช่า เพราะราคาการเช่าหรือเซ้งเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงเราจึงต้องรอบคอบให้ดี

4.พื้นที่ใกล้เคียงลูกค้าก็นิยมไม่แพ้กัน

ภาพจาก goo.gl/k7iEw1

บริเวณใกล้เคียงกับถนนข้าวสารก็เช่น ถนนรามบุตรี ถนนตะนาว แม้จะไม่ใช่ย่านข้าวสารโดยตรงแต่ก็ถือว่าอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งความเป็นไปได้ในการเช่าพื้นที่อาจมีมากกว่า

แต่ก็อยู่ที่การตระเวณหาพื้นที่เช่าของพ่อค้าแม่ค้าเองเพราะอย่างที่ทราบว่านี่คือแหล่งทำเลทองที่ไม่มีใครอยากละทิ้งง่ายๆ และไม่อยากให้มีคู่แข่งมาแย่งส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น แต่หากเสาะแสวงหาดีๆ

อาจจะเจอเจ้าของกิจการใจดีหรือคนที่อยากปล่อยพื้นที่ให้เช่า ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่พ่อค้าแม่ค่าต้องใช้ความพยายามหากต้องการพื้นที่เหล่านี้จริงๆ

5.มองปัจจัยรอบด้านไม่ใช่คิดแต่เรื่องรายได้

ภาพจาก goo.gl/d3JwA8

ลองกลับมาถามตัวเองว่าทำไมเราถึงอยากทำธุรกิจบนถนนข้าวสาร หากคำตอบคือมองว่าสินเค้าเราตรงกลุ่มเป้าหมายเช่น เป็นสินค้าที่ชาวต่างชาตินิยม ทำไมเราไม่ลองมองดูถนนท่องเที่ยวสายอื่นบ้าง

บางครั้งการยึดติดว่าต้องที่นี่ที่นั่นก็อาจทำให้เรามองข้ามทำเลอื่นที่มีคุณภาพไม่แพ้กัน พร้อมกันนี้เราต้องพิจารณาถึงต้นทุนทั้งหมดว่าจะคุ้มค่าไหมหากต้องเสียค่าเช่าแพงๆ ค่าเซ้งตึกในราคาหลักล้าน

ไหนจะต้องมีต้นทุนค่าอุปกรณ์ทำร้านใหม่ และสร้างแบรนด์ให้คนรู้จักใหม่ สู้กับคู่แข่งในพื้นที่ที่มีอยู่มาก เราจะใช้เวลามากแค่ไหนถึงจะมีกำไรขึ้นมา หากพิจารณาอย่างละเอียดว่าคุ้มค่า ก็เดินหน้าต่อไปแต่ถ้ายังไม่แน่ใจกลับมาคิดทบทวนใหม่ เพราะหากลงทุนไปแล้วจะถอยหลังก็ไม่ได้ต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น

กลยุทธ์การทำธุรกิจเรื่องทำเลคือสิ่งสำคัญ แต่ก็ควรพิจารณาเหตุผลรอบด้านให้ละเอียดไม่ใช่มองแต่ว่ารายได้ดี น่าจะขายดี นอกเหนือจากเรื่องเหล่านี้ต้องดูปัจจัยโดยรอบ ความน่าจะเป็นในการอยู่รอด

บางครั้งการได้ทำเลในลำดับรองๆ ลงมาอาจไม่ใช่ทำเลที่ดีที่สุดแต่ทำให้ธุรกิจเราเติบโตได้มีกำไรได้แม้จะช้าบ้างแต่ก็ยังดีกว่าลงทุนในทำเลทองแล้วมีปัญหามากมายตามมา ทำให้ต้องมาแก้สารพัดปัญหา อาจจะส่งผลให้ธุรกิจของเรามีปัญหาตามมาด้วยเช่นกัน

---

SMEs Tips

1. การแข่งขันในพื้นที่มีสูงมาก
2. เพิ่งจะผ่านการจัดระเบียบผู้ค้า
3. ต้องคอยหาพื้นที่ปล่อยเช่าที่ลงประกาศ
4. พื้นที่ใกล้เคียงลูกค้าก็นิยมไม่แพ้กัน
5. มองปัจจัยรอบด้านไม่ใช่คิดแต่เรื่องรายได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S