4 เทคนิคพัฒนาธุรกิจที่ได้จากการดูAvengers: Infinity War

Avengers: Infinity War คือภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจากค่าย Marvel ที่ก่อนนี้ทางค่าย Marvel ได้ปล่อยภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่มาแล้วกว่า 18 เรื่อง Avengers: Infinity War นับเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ในลำดับที่ 19 ซึ่งหนังที่เคยทำรายได้สูงสุดให้กับค่าย Marvel คือ The Avengers ที่ฉายในปี 2012 และทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 1,518,812,988 ดอลลาร์ (1.5 พันล้านดอลลาร์) ติดอันดับหนังทำเงินสูงสุดลำดับ 5 ของโลกในปัจจุบัน

ด้วยกระแสหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ที่เข้าฉายเมื่อไหร่รายได้มักถล่มทลาย Avengers: Infinity War นี้ก็เช่นกันหลังที่เข้าฉายครั้งแรกทั่วโลกกวาดรายได้รวมกว่า 650 ล้านดอลลาร์ โค่นสถิติเบอร์ 1 อย่าง The Fate of the Furious หรือ The Fast 8 ที่ฉายในปี 2017 และทำรายได้ตอนเปิดตัวไว้เพียง 530 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหลายคนอาจมองว่านี่คือธุรกิจที่รายได้ดีเว่อร์

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าในความสำเร็จที่ว่านี้มีหลายสิ่งที่นักลงทุนสามารถจับเป็นแนวคิดเอาไปประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจตัวเองได้

1. จงโฟกัสสินค้าที่เราทำให้ดีที่สุด

Infinity War

การที่ Marvel ยึดธีมของหนังในแนวซุปเปอร์ฮีโร่มาโดยตลอดแม้จะดูว่าเป็นสิ่งที่ซ้ำซากแต่นั่นคือจุดขายที่สำคัญและเป็นการตอกย้ำให้คนนึกถึงได้ตลอดเวลา Kevin Feige ประธานบริษัทมาร์เวลสตูดิโอส์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ตอนแรกทั้งเขาและทีมงานไม่ได้มีความคิดที่จะสร้างจักรวาลหนังขึ้นมา เพราะคิดเพียงแค่ว่าจะสร้างหนัง Iron Man, Hulk และ Thor ที่ดีที่สุดออกมาได้อย่างไร

แต่ถึงตอนนี้กว่า 10 ปีของ Marvel ภาพยนตร์ทุกเรื่องเป็นที่คนกล่าวถึงและสร้างรายได้ชนิดถล่มทลาย รวมถึงแผนงานของ Marvel ในการสร้างหนังซุปเปอร์ฮีโร่ก็ยังมีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2020 สำหรับธุรกิจต่างๆเองก็เช่นกันควรโฟกัสและมีเอกลักษณ์ที่เป็นตัวเองถ้าหาได้ก็คือจุดแข็งที่ลูกค้าพร้อมให้การสนับสนุนได้เช่นกัน

2. ต้องยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด

ต้องยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด

ธุรกิจที่พร้อมจะโตต้องรู้จักปรับตัวไม่แข็งจนเกินไปและไม่อ่อนจนเกินไป Marvel คือตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ ทุกคนใน Marvel Studio เข้าใจดีว่าการผลิตหนัง 1 เรื่องสำคัญต่อภาพรวมของของหนังที่เคยผลิตมาหนังทั้งหมด ดังนั้นหากมีความคิดดีๆ สำหรับหนังสัก 1 เรื่อง ทางบริษัทก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่กลับกัน หากความคิดนั้นดูไม่ดี หรือถึงที่สุดแล้วอาจจะมาทำลายภาพรวมของหนังทั้งหมด

บริษัทก็พร้อมที่จะโบกมือลาและทิ้งความคิดนั้นไป นักลงทุนที่ดีไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตาม อย่าดันทุรังไปกับความคิดที่ตัวเองมั่นใจว่าต้องดี ต้องใช่ ซึ่งในความจริงมันอาจไม่ดีไม่ใช่ หากมีข้อโต้แย้งและเหตุผลอื่นที่น่าสนใจเราก็ต้องรับฟัง ธุรกิจต้องมีความยืดหยุ่นและเด็ดขาดอยู่รวมกันอย่างสมดุล

3.ให้ทีมงานได้มีโอกาสใช้ศักยภาพตัวเอง

ให้ทีมงานได้มีโอกาสใช้ศักยภาพตัวเอง

พนักงานไม่ใช่หุ่นยนต์ พนักงานก็มีความคิดของตัวเอง ในฐานะนายจ้างเราไม่ควรครอบงำความคิดด้วยการสั่งให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งลูกน้องส่วนใหญ่จะอึดอัดกับการงานที่ใช้พระเดชมากกว่าพระคุณ ถ้าใครที่เป็นแฟนหนังของ Marvel จะทราบกันดีว่า Avengers: Infinity War นั้นกำกับภาพยนตร์โดย2 ผู้กำกับพี่น้องรุสโซ ซึ่งภาพยนตร์ 2 เรื่องก่อนหน้านี้อย่าง Thor: ragnarok และ Black Panther ก็มีการใช้ผู้กำกับคนละคนกัน ประเด็นคือ Marvel มอบโจทย์ให้ผู้กำกับแต่ละคนไปว่า ขอให้สร้างสรรค์บทภาพยนตร์

รวมถึงตัวละคร และฉากต่างๆ ออกมาอย่างเต็มที่ เอาชนิดที่ผู้ชมไม่เคยได้พบได้เห็นมาก่อน ทำให้หนังทั้ง 3 เรื่องล่าสุดนี้ มีรายรับชนิดถล่มทลายติดอันดับ 1 ใน 10 รายได้สูงสุดของหนังค่าย Marvel แสดงให้เห็นว่า Marvel ให้ความสำคัญและไว้ใจทีมงานซึ่งธุรกิจเองก็เช่นกันควรให้โอกาสพนักงานได้ปล่อยของหรือความรู้ที่มีออกมาบ้าง ไม่ใช่จำกัดเขาไว้แค่ในกรอบที่เราต้องการ

4.ให้ลูกค้าได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ

ให้ลูกค้าได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ

ธุรกิจที่ดีต้องเกิดจากการยอมรับของลูกค้า การจะสร้างฐานลูกค้าได้ต้องหาวิธีให้เขาประทับใจ Marvel ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับภาพยนตร์ เนื่องจาก ภาพยนตร์ของ Marvel มีการดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนที่มีวางขายซึ่งมีบุคคลหลายระดับที่ทั้งเคยอ่านผ่าน ซื้อเป็นประจำ หรือขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้

แต่เมื่อทุกคนได้ดูภาพยนตร์และจำได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ตัวเองเคยอ่านเคยติดตามก็ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและอินไปกับภาพยนตร์ที่ฝังใจตัวเอง เท่ากับเป็นการสร้างรากฐานให้คนดูประทับใจที่จะแปรเปลี่ยนให้เป็นกำไรได้ไม่ยาก ธุรกิจเองก็เช่นกัน อย่าพะวงอยู่แค่การขายแต่ต้องรู้จักวิธีทำให้ลูกค้าประทับใจในความเป็นแบรนด์ของเราได้ด้วย

แม้อาจจะเป็นมุมเล็กๆที่หาได้จากหนังรายได้ติดอันดับโลกแต่แท้ที่จริงกว่าจะมาเป็นหนังฟอร์มยักษ์และกว่าที่ Marvel จะเดินมาถึงจุดนี้ ก็ต้องผ่านประสบการณ์ที่ทั้งน่าจดจำและไม่น่าจดจำแต่ทุกอย่างคือบทเรียนที่เอามาปรับปรุงและใช้ต่อยอดการทำธุรกิจได้ แนวคิดเหล่านี้ก็เป็นเพียงทฤษฏีธรรมดาแต่หากเราเอามาปรับใช้ก็ย่อมสร้างโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องและดีขึ้นได้


SMEs Tips

  1. จงโฟกัสสินค้าที่เราทำให้ดีที่สุด
  2. ต้องยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด
  3. ให้ทีมงานได้มีโอกาสใช้ศักยภาพตัวเอง
  4. ให้ลูกค้าได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูล goo.gl/mG2A1u

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด