4 เทคนิคทำงานด้วยสมอง ออกแรงน้อยแต่รวยเร็วขึ้น!

คนธรรมดาใช้ เวลาแลกกับเงิน แต่คนฉลาดใช้สมองและเงินทำงาน นี่คือประโยคที่อ่านแล้วมีแง่มุมให้คิดตาม บางคนทุ่มเททำงานอย่างหนักหวังอัพเงินเดือนให้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

หลายคนก็ทำได้แต่สิ่งที่แลกมาคือเวลาแห่งความสุขที่ต้องสละออกไป ในขณะที่บางกลุ่มเลือกวิธีการสร้างรายได้แบบใช้สมองและเงินทำงาน หากถามว่าเป็นเราจะเลือกทำงานแบบไหน คำตอบร้อยทั้งร้อยก็ต้องบอกว่าใช้สมองและเงินทำงานดีกว่า

แต่ในความเป็นจริงใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วประสบความสำเร็จได้ด้วยวิธีนี้สิ่งสำคัญที่ www.ThaiSMEsCenter.com ต้องการแสดงให้เห็นคือนอกจากรู้ว่าทำงานแบบไหนแล้วดีแต่ก็ต้องมีเทคนิคและนำไปใช้ให้เป็นด้วย

1.ต่อยอดจากเงินน้อยไปหามาก

4 เทคนิคทำงานด้วยสมอง

ภาพจาก goo.gl/1C3tg3 , goo.gl/HYCZx9

ความสำเร็จของการใช้เงินทำงานใช่ว่าจะสำเร็จได้ในเวลาสั้นๆ ตรงกันข้ามเร่งรีบมากไปแทนที่จะได้เก็บเงินล้านอาจกลายเป็นมีหนี้มาแทนก็ได้ สิ่งสำคัญหากคิดจะเดินบนเส้นทางนี้ขั้นแรกคือต้องใจเย็น

วางแผนให้รอบคอบ และควรเริ่มจากการใช้เงินที่น้อยที่สุดในการต่อยอด ส่วนจะเลือกวิธีการต่อยอดแบบไหนเชื่อว่าคงไม่ใช่เรื่องยากกับการหาข้อมูลการลงทุนนี้

และนอกจากการเอาเงินมาทำงานแทนการใช้แรงเราก็ต้องรู้จักแบ่งแยกการเงินตัวเองไว้เป็นสัดส่วนด้วยซึ่งเป็นวิธีที่มหาเศรษฐีส่วนใหญ่ใช้กันเช่น กฎ 50-30-20 ของ Kyle Taylor เศรษฐีวัย 30 ผู้ก่อตั้ง บริษัท The Penny Hoarder

แนะนำว่า ให้แบ่ง 50% ของเงินเดือน เก็บเข้าธนาคาร บัญชีฉุกเฉิน หรือบัญชีออมทรัพย์ระยะยาว อีก 30% เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และอีก 20 % อาจเป็นเงินทุนที่สำหรับใช้ต่อยอดการเงินของเรา

2.อยากรวยต้องกล้าเสี่ยง

h3

ภาพจาก goo.gl/UBYjed

เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนเราเลือกลงแรงแลกเงินนั้นเพราะไม่อย่างเสี่ยง โดยเชื่อว่างานประจำนั้นดีอยู่แล้ว หากคิดจะเดินเส้นทางใช้สมองทำงานทำเงินต้องใช้เทคนิค อยากรวยต้องกล้าเสี่ยง

เช่นเดียวกับ Tim Ferris ที่เคยทำงานเป็นพนักงานประจำใน Silicon Valley แต่เขาก็ลาออกมาทำธุรกิจขายอาหารเสริมยี่ห้อ BodyQuick ซึ่ง Tim สร้างระบบธุรกิจแบบ E-Commerce ที่ตั้งแต่สั่งผลิต ติดฉลาก รับออร์เดอร์ และจัดส่งสินค้านั้นเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด

แน่นอนว่าการเสี่ยงของ Tim Ferris นั้นประสบความสำเร็จและด้วยระบบธุรกิจที่เขาวางไว้ทำให้ทุกอย่าทำงานได้ด้วยตัวของมันเองโดยที่เขามีเวลาจะไปท่องเที่ยว ดูหนัง พบปะเพื่อนฝูงโดยที่มีรายได้วิ่งเข้าหาเข้าตลอดเวลา ทั้งนี้ใครที่คิดจะทำเช่นเดียวกับ Tim Ferris เราต้องมีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจอยู่บ้างไม่งั้นอาจได้ผลตรงกันข้ามก็เป็นได้

3.จงเป็นตัวของตัวเอง

h4

ภาพจาก freepik.com

เราอาจศึกษาหาข้อมูลของคนที่ประสบความสำเร็จแบบใช้สมองทำงาน ใช้เงินทำงาน จะเห็นว่าเขามีเวลามีรายได้วิ่งเข้าหาแต่ใช่ว่าเราเห็นวิธีใครดีแล้วก็คิดว่าเราจะเป็นแบบเดียวกับเขาได้เสมอไป

ทุกคนมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน จงสำรวจตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน มีความรู้ความถนัดแบบใด และจงเลือกเป็นตัวของตัวเองใช้สมองเลือกวิธีการที่เหมาะกับตัวเอง นั้นคือก้าวแรกที่จะประสบความสำเร็จได้

เช่นเดียวกับ Brandon Sutherland ชายหนุ่มที่สามารถเกษียณตัวเองได้ตั้งแต่อายุเพียง 32 จากอาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Brandonเรียนจบจากมหาวิทยาลัยโดยที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นกว่าเพื่อนๆ ในรุ่น

มีแค่เพียงความมุ่งมั่นที่จะแบ่งเงินจากรายได้กว่า 70% ของเขาไปลงทุน ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จ หากเราจะมี Brandon เป็นต้นแบบก็ดูก่อนว่าเราพร้อมจะลงทุนได้มากเหมือน Brandon หรือไม่ถ้าคำตอบคือไม่ให้เลือกขนาดการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองจะได้ไม่เดือดร้อน

4.วางแผนการเงินตัวเองให้ชัดเจนที่สุด

h5

ภาพจาก freepik.com

ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้วยการใช้แรงแลกเงิน หรือการใช้สมองทำงานเอาเงินต่อเงินก็ตามที เป้าหมายที่ดีควรมีระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว

หากเราเป็นคนหนึ่งที่ชอบใช้เงินทำงานนอกจากต้องสร้างสมดุลระหว่างการทำงานด้วยแรง กับการเอาเงินไปลงทุน เรื่องของเป้าหมายก็ต้องวางไว้เป็นแรงบันดาลใจว่าภายใน 3 เดือน 6 เดือน

เราควรจะมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ และเงินที่มีนั้นจะต่อยอดต่อไปในระยะยาวได้อย่างไร ในอีก 3-5 ปีเราควรมีเงินเท่าไหร่ ทุกอย่างเป็นลำดับขั้นที่สืบเนื่องต่อกัน การมีแผนการเงินที่ชัดเจนทำให้เรารู้ว่าเป้าหมายของเราอยู่ใกล้หรืออีกไกลแค่ไหน จะได้ปรับวิธีทำงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้

ความสำเร็จไม่ได้มีขายสำเร็จรูปไม่ว่าเราคิดจะใช้วิธีไหนในการเข้าหาความสำเร็จมันก็มีความเหนื่อยเป็นทุนเดิมเหมือนกันใช้แรงแลกเงินก็ต้องเหนื่อยกับเวลาที่เสียไปแต่ได้ข้อดีคือลดความเสี่ยงลงมา

แต่ถ้าใช้สมองทำงานใช้เงินต่อเงิน อาจจะไม่เหนื่อยกายแต่สมองก็ต้องคิดมากขึ้น รวมถึงต้องกล้าได้กล้าเสียกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ทุกอย่างมีข้อดีและมีข้อเสียในตัวเอง อยู่ที่เราว่าจะปรับสมดุลการใช้อย่างไรให้เหมาะสมที่สุด


 

SMEs Tips

  1. ต่อยอดจากเงินน้อยไปหามาก
  2. อยากรวยต้องกล้าเสี่ยง
  3. จงเป็นตัวของตัวเอง
  4. วางแผนการเงินตัวเองให้ชัดเจนที่สุด

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด