4 วิธีก้าวสู่ความสำเร็จทางธุรกิจแบบ ซานตาเฟ่ ! เราทำได้ ถ้าตั้งใจจริงๆ

เชื่อว่าใครหลายคนถ้าได้เดินเข้าห้างสรรพสินค้าคงเห็นแบรนด์ ซานตาเฟ่ ที่เป็นสเต็กเฮ้าส์รายใหญ่ และแน่นอนเช่นกันว่าอีกหลายคนคงเคยได้ใช้บริการแบรนด์นี้กันมาบ้างแล้ว และกว่าที่ซานตาเฟ่จะก้าวมาเป็นแบรนด์ชั้นนำในเมืองไทยที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี

ย่อมต้องมีเส้นทางที่ไม่ธรรมดา กว่า 12 ปีของซานตาเฟ่ที่อยู่บนเส้นทางความอร่อยนั้นแต่แท้ที่จริงแล้วธุรกิจนี้เพิ่งจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันซานตาเฟ่มีสาขาทั่วประเทศ 82 แห่งและมีแนวโน้มในการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองเห็นสิ่งสำคัญที่เรียกว่าเป็นหัวใจในการทำธุรกิจของซานตาเฟ่ที่น่าจะเอามาถ่ายทอดให้คนทำธุรกิจอื่นๆได้รับทราบเพื่อได้เรียนรู้ร่วมกันว่าแนวทางการลงทุนเพื่อไปสู่ความสำเร็จนั้นมีวิธีการอย่างไรในที่นี้เราสรุปมาเป็น 4 หัวข้อหลักๆที่เอาไปประยุกต์ใช้ได้กับการทำธุรกิจทุกประเภท

1.ให้ความสำคัญกับแบรนด์เป็นอันดับหนึ่ง

ซานตาเฟ่

ซานตา เฟ่ ถือเป็นธุรกิจอาหาร ดังนั้นการสร้างให้คนจดจำเป็นสิ่งที่จำเป็นมากยิ่งในภาวะที่ตลาดอาหารมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกได้ สิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องจำคือทำอย่างไรให้เวลาที่หิว หรือต้องการรับประทานอาหารจะนึกถึงแบรนด์ของเราขึ้นมาเป็นอันดับแรก

โดยซานตาเฟ่เน้นที่เรื่องราวของแบรนด์ ใช้ชื่อว่าซานตาเฟ่เพราะเป็นเมืองหลวงในมลรัฐนิว เม็กซิโก มีบุคลิกที่น่าสนใจประกอบกันอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ การเป็นเมืองคาวบอย เลี้ยงโค และเป็นเมืองชุมสายรถไฟ และแบรนด์สเต็กในประเทศไทยส่วนใหญ่มักใช้รูปวัว ซานตาเฟ่จึงสร้างสิ่งที่แตกต่างกว่าและดึง Story ของรถไฟออกมา เมื่อแบรนด์มีเรื่องราว

ขั้นตอนต่อมาคือ การออกแบบประสบการณ์ให้ลูกค้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมกับการบริการ ให้ลูกค้าเห็นถึงเอกลักษณ์ตั้งแต่เดินเข้าร้าน พนักงานพาไปเลือกที่นั่ง วิธีการสั่ง การทวนอาหาร หรือแม้แต่การพรีเซ้นต์อาหาร เรียกว่าเป็น Experience Marketing ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ในทันที

2.บริหารจัดการด้วยวิธี Easy Step

r19

สิ่งสำคัญของร้านอาหารคืองานด้านบริการต้องดี และมีบุคลากรที่มีคุณภาพในการทำงาน ซานตาเฟ่เน้นในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยดีไซน์ทั้งเรื่องวัตถุดิบและระบบหลังร้านให้ออกมาเป็นรูปธรรม ให้มองเห็นภาพได้ทันทีว่างานในครัวเช่นนี้เด็กอายุ 18 ปีก็ทำได้ โดยเฉพาะหลักการเทรนนิ่งที่ใช้วิธีแบบ Easy Step คือลดเวลาให้น้อยลงแต่คงคุณภาพไว้เท่าเดิม

อย่างเรื่องเชฟที่ร้านทั่วไปใช้การเทรนด์นานเป็นปี แต่เชฟของซานตาเฟ่ใช้เวลาเรียนรู้งานแค่ 3 เดือนเท่านั้น แม้กระทั่งเด็กเสิร์ฟที่สามารถทำงานได้คล่องภายในวันเดียว นอกจากนี้ซานตาเฟ่ยังใส่ใจเรื่องบุคลากรในระยะยาวด้วยการสนับสนุนให้แก่เด็ก เมื่อสำเร็จการศึกษาก็สามารถเป็น Manager ร้านได้ทันทีกลายเป็นความผูกพันระหว่างเด็กและองค์กรที่ทำให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้นได้ด้วย

3.ยกเลิกครัวกลางใช้ระบบโลจิสติกส์แทนที่

r14

ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มองว่าระบบครัวกลางแม้จะเป็นระบบที่ดี แต่ก็มีต้นทุนที่สูงมาก ในยุคสมัยนี้การทุ่มทุนในบางเรื่องสามารถลดทอนได้แล้วเอาส่วนต่างนั้นไปพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นได้ดีกว่า ด้วยเหตุนี้ซานตาเฟ่จึงไม่มีระบบครัวกลางแต่หันมาใช้ระบบโลจิสติกส์ด้วยการให้ซัพพลายเออร์ของเราส่งวัตถุดิบโดยตรงถึงแต่ละสาขา

ซึ่งซานตาเฟ่มีเทคนิคที่สามารถรักษามาตรฐานของสเต๊กได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการผลิตซอสสูตรลับ Rambo อย่างดี ด้วยการแยกให้ซัพพลายเออร์ 2 ราย ผลิตส่วนผสมของซอสที่จะยังไม่สำเร็จรูป

และค่อยนำมาผสมปรุงรสชาติเบ็ดเสร็จภายในร้านอาหาร เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งระบบการจัดการเหล่านี้เองเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ซานตา เฟ่สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว

4.ต้องมีพลังของผู้ประกอบการเต็มเปี่ยม

r23

แม้ใครจะมองว่านี่คือธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่ใช่ว่าเรื่องนี้จะเสกขึ้นมาได้ภายในเวลาอันสั้น ผู้บริหารของซานตาเฟ่เองก็ล้มลุกคลุกคลานว่าวิกฤติทางการตลาดมาไม่น้อย แต่ทุกครั้งที่ผิดพลาดนั้นคือบทเรียนราคาแพงที่นำมาใช้พัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ดียิ่งกว่า การเป็นผู้ประกอบการที่ดีจึงไม่ใช่แค่เป็นคนที่บริหารจัดการดีเพียงอย่างเดียว

แต่ต้องมีพลังใจที่เต็มเปี่ยมและพร้อมจะเผชิญกับปัญหาได้ทุกรูปแบบโดยที่ไม่แสดงอาการท้อแท้ให้ใครเห็น หากธุรกิจรายใดก้าวผ่านความยากในเรื่องนี้ได้โอกาสสำเร็จเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ก็มีทางเป็นไปได้สูงเช่นกัน

r18

และจากบทเรียนความพยายามของซานตาเฟ่ดังกล่าวจึงไม่แปลกใจเลยที่ซานตา เฟ่จะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับรางวัล Bai Po Business Award by Sasin ครั้งที่ 11 ใน มิติการบริหารจัดการด้านการสร้างตราสินค้าและการตลาด (Branding and Marketing) การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice)

และ การสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ซึ่งในฐานะของผู้ที่คิดจะเริ่มต้นการทำธุรกิจ แนวทางของซานตาเฟ่น่าจะเป็นไกด์ไลน์ที่ดีให้เราได้ใช้เป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจได้เช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณภาพจาก facebook.com/santafesteak.th

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด