4 ประโยคต้องห้าม! เวลาเจรจาการขายกับลูกค้า

การกล่าวทักทาย พูดคุย สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ ของบรรดาพ่อค้าแม่ขายถือเป็นสิ่งสำคัญของการประกอบอาชีพธุรกิจค้าขาย เพราะถ้าพูดจาดี ไพเราะ อ่อนหวาน เข้าใจง่าย จะเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเลยก็ว่าได้

ดังนั้น ผู้ที่จะมาประกอบอาชีพค้าขาย จำเป็นต้องรู้ว่าคำพูดหรือประโยคไหน ควรหลีกเลี่ยง หรือควรเอ่ยออกมาจากปาก เพื่อช่วยให้ ลูกค้า เกิดความสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำเสนอ 4 ประโยค! ห้ามพูดในเวลาทำการค้าขาย หรือเจรจาทางการค้า มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจค้าขาย พ่อค้าแม่ขาย รวมถึงผู้ที่สนใจประกอบอาชีพค้าขาย มาดูกันว่ามีอะไรบ้างครับ

1.อย่าพูดคำว่า…แพงนะ! คุณมีเงินเพียงพอที่จะซื้อเหรอ

4 ประโยคต้องห้าม

ถือเป็นคำพูดที่ดูถูกลูกค้าเป็นอย่างมาก แม้ว่าคุณจะทักทายและพูดจาดีกับลูกค้ามาตลอด แต่พอคุณเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา เชื่อว่าลูกค้าเกือบทุกรายต้องมองหน้าคุณ และก็เดินจากไปทันที หรือถ้าลูกค้าบางรายไม่แสดงอารมณ์ออกมา

แต่เขาอาจจะถามแบบคุณกวนๆ กลับไป “ผมรวย ผมจะซื้อทั้งหมด หรือจะเช่าทั้งตึกเลยก็ได้” ซึ่งคำพูดนี้อาจทำให้คุณไม่พอใจ ถึงขั้นทะเลาะกันได้ เรียกได้ว่าน้ำผึ้งหยดเดียว ดังนั้น หากอยากขายของได้ คุณต้องหลีกเลี่ยงคำพูดลักษณะดูถูกลูกค้า

หรือถ้าคุณไม่รู้ว่าลูกค้าคนนั้น จะมีเงินซื้อสินค้าและบริการนั้นหรือไม่ คุณอาจจะแนะนำสินค้าและบริการตัวอื่นๆ ให้ลูกค้าได้เป็นทางเลือก โดยมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน ราคาไม่ห่างกันมาก ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่คุณจะพูดหักหน้าลูกค้า

มีตัวอย่างที่ทีมงาน ThaiSMEsCenter.com ได้ฟังจากปากเพื่อน โดยเพื่อนต้องการหาห้องเช่า และได้ไปเจอกับห้องพักที่น่าสนใจ น่าอยู่ ดูแล้วอาจมีระดับ ราคาอาจแพงหน่อย

แต่เพื่อนไม่สนใจ เพราะมีเงิน เข้าไปสอบถามเจ้าของห้องพัก พอเอ่ยถามว่ามีห้องพักเหลือหรือว่างหรือเปล่าครับ เจ้าของห้องพักตอบสวนกลับว่า “ราคาแพงนะ ไหวหรือเปล่า” ฟังเท่านี้แหละ เพื่อนบอกว่าไม่เป็นไร เดินหันหลังกลับทันที ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะมาเช่าพอดี เพราะน่าอยู่

2.อย่าพูดคำว่า…ตัวเองไม่เคยใช้สินค้าหรือบริการตัวนี้มาก่อน

p7

ถ้าหากคุณต้องการที่จะขายสินค้าหรือบริการได้ เมื่อลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือบริการอยู่นั้น คุณจงหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า “ฉันหรือผมไม่เคยใช้สินค้าหรือบริการตัวนี้มาก่อนเลย”

เพราะจะทำให้ลูกค้าที่กำลังสนใจในตัวสินค้าและบริการอยู่นั้น ลดความน่าเชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ ในตัวคุณและสินค้าและบริการนั้นๆ ไปทันที ซึ่งโดยปกติลูกค้าจะเชื่อว่าผู้ที่นำสินค้าและบริการมาขายจะต้องรู้ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการอยู่แล้ว

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เคยใช้หรือทดลองสินค้าที่นำมาขายจริงๆ หากคุณต้องการนำเสนอขายสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ คุณควรที่จะทำการศึกษาหาข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต ขั้นตอนการใช้ ประโยชน์ต่างๆ การเก็บรักษา เป็นต้น โดยหาวิธีทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวสินค้า

3.อย่าพูดคำว่า…ซื้อเถอะนะ เชื่อผมได้ เชื่อฉันได้

q2

หากคุณเป็นพ่อค้าแม่ขาย คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดลักษณะแบบนี้กับลูกค้า เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ ซึ่งคำพูดที่ว่า “ซื้อเถอะนะ เชื่อผมได้ เชื่อฉันได้” จะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าคุณไปเร่งรัดจับกุมเขามากจนเกินไป ทำให้รู้สึกอึดอัด หลายคนอาจตอบกลับไม่เป็นไรๆ จนต้องตัดสินใจเดินหนีจากคุณไปก็ได้

ดังนั้น ในระหว่างการเจรจาต่อรองซื้อขาย หรือนำเสนอขายสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้า คุณหาเหตุผลอื่นๆ มานำเสนอและชักจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า อาจจะเป็นการยกตัวอย่างลูกค้าคนอื่นๆ หรือคนที่ลูกค้าคนนั้นรู้จัก ใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ ไปแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกเล่านำเสนอแก่ลูกค้าทั้งหมด อย่างน้อยเพื่อเป็นการยืนยันจากลูกค้าคนอื่นแทนคุณ

หรือคุณอาจจะใช้วิธีการให้ลูกค้าได้สัมผัสหรือทดลองใช้จริงในตอนนั้นเลยก็ได้ ซึ่งถ้าลูกค้าทดลองใช้แล้วรู้สึกดี มีประโยชน์ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ในที่สุดลูกค้าก็อาจตัดสินใจซื้อในตอนนั้นเลยก็ได้

4.อย่าพูดคำว่า…ทำให้ไม่ได้ครับ ทำให้ไม่ได้ค่ะ มันเป็นนโยบายของบริษัท

r41

แน่นอนว่าลูกค้าทุกคนที่ตัดสินค้าหรือบริการไปแล้ว ต้องการที่จะได้รับการบริการที่ดีจากคุณ หรือบริษัทเจ้าของสินค้า หากคุณกำลังเจราขายสินค้าอยู่กับลูกค้า ทั้งนำเสนอประโยชน์ สรรพคุณ และพูดคุยต่างๆ นานาเกี่ยวกับสินค้าเรียบร้อยแล้ว จนลูกค้ากำลังจะตัดสินใจควักเงินในกระเป๋าจ่ายคุณไป แล้วถ้าหากลูกค้าเกิดความสงสัย อยากได้ของแถม บริการเสริม หรือบริการหลังการขายอื่นๆ เพิ่มด้วย

คุณต้องไม่พูดคำว่า “ทำให้ไม่ได้ครับ ทำให้ไม่ได้ค่ะ” ซึ่งเหมือนเป็นการไม่ใส่ใจในความต้องการของลูกค้า อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่พอใจในการให้บริการของคุณ ครั้งต่อไปอาจไม่ซื้อของจากคุณอีก และบอกต่อไปยังลูกค้าคนอื่นๆ อีกด้วย

ดังนั้น คุณควรหาเหตุผลอื่นๆ มาอธิบายให้ลูกค้าได้เข้าใจและรู้สึกกับคุณ เช่น ที่ไม่มีบริการแบบนี้เพราะราคาสินค้าสูงอยู่แล้ว หรือ ถ้าซื้อสินค้าตัวนั้น หรือบริการอื่นๆ ถึงจะมีของแถม หรือบริการเสริมให้ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าตัวอื่นอีกที่คุณพูดถึง และอาจถึงขั้นตัดสินใจซื้อสินค้าตัวนั้นเพิ่มอีกก็ได้

ทั้ง 4 ข้อถือเป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่พ่อค้าแม่ขาย ไม่ควรเอ่ยออกมาจากปาก ระหว่างการเจรจานำเสนอขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้า เพราะหากคุณไม่ระมัดระวังในการพูด หรือหลีกเลี่ยงประโยคเหล่านี้ อาจทำให้ลูกค้าหลุดลอยไปจากคุณในพริบตา ทั้งที่ลูกค้ากำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการจากคุณอยู่แล้ว

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช