4 ข้อนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับการเงินใน ธุรกิจSMEs

ความคาดหวังในการทำธุรกิจ ของทุกคนหนีไม่พ้นด้วยเรื่องของกำไร แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ทำธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน การเริ่มต้นลงมือทำนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งนี้ผู้ลงทุนก็ต้องรู้จักประมาณการตัวเองว่าพร้อมลงทุนในระดับไหนและมีเงินทุนส่วนไหนมากน้อยอย่างไร

บางคนทุนเริ่มต้นไม่มากแต่ความต้องการทางสังคมสูงก็อาจทำให้เกิดอาการหน้าใหญ่ใจโตลงทุนไปกับเรื่องไม่จำเป็นจนมากเกินไปและสุดท้ายก็กลายเป็นต้นทุนที่ไม่งอกเงยกลับมาก็ทำให้มีปัญหาในการทำธุรกิจได้

ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าการเริ่มต้นธุรกิจด้วยความระมัดระวังและมีการวางแผนที่ดีในแต่ละขั้นตอนการลงทุนจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างเป็นขั้นตอนแต่ในโลกความจริงก็มีสัญญาณอันตรายของธุรกิจที่เราไม่ควรให้เกิดหรือถ้าเกิดควรแก้ไขปัญหาที่ว่านี้ให้บรรเทาเบาบางได้มากที่สุดโดยเร็ว

1.ใช้เงินในการซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจ

ธุรกิจSMEs

เป็นธรรมดาของผู้ประกอบการรายใหม่ที่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ สวยๆงาม ๆยิ่งอลังการงานสร้างได้เท่าไหร่ยิ่งดี แต่ทั้งนี้ในความเลิศหรูดูดีบางทีก็เกินความจำเป็นของธุรกิจและกลายมาเป็นต้นทุนที่ต้องมาแบกรับโดยไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือเราต้องสำรวจธุรกิจของเราให้ได้ก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นแบบเร่งด่วน เช่นอุปกรณ์ที่ต้องใช้

หรือตัวไหนที่สามารถเช่าได้ก็เช่าไปก่อน หรือตัวไหนที่จำเป็นต้องมี หรือตัวไหนไม่จำเป็นต้องมี หรือแม้กระทั่งการจัดที่นั่งในบริษัท ภาพลักษณ์ที่สวยงามอาจเป็นสิ่งจำเป็นแต่ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับการเริ่มต้นถ้าเราไม่มีเงินทุนส่วนนี้มากนักก็ไม่แนะนำที่จะทำอะไรที่ใหญ่เกินตัวโดยไม่จำเป็น

แนวทางสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ให้เราลองลิสต์รายการสิ่งของออกมาและค่อยๆวิเคราะห์ทีละชิ้น ตัดเอาส่วนไม่สำคัญออกไปก่อนแล้วลงทุนในสิ่งที่จำเป็นที่สุดเท่านั้น รวมถึงราคาก็ต้องสัมพันธ์กับคุณภาพ การรู้จักเลือกซื้อเป็นสิ่งที่ดีแต่บางทีของถูกก็ใช้ได้ไม่นานแต่ถ้าเลือกลงทุนที่มากกว่าสักหน่อยแต่ใช้งานได้คุ้มค่ากว่างานนี้ก็ไม่เรียกว่าฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด

2.ไม่รู้จักรายจ่ายของธุรกิจตัวเองดีพอ

bb20

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งทุกครั้งที่ผู้ประกอบการตอบว่า ไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง รวมแล้วประมาณกี่บาท ถือเป็นหายนะทางการเงินที่สำคัญมาก ลองมานึกภาพตามดูว่าหากบ้านเราไม่รู้ว่ารายจ่ายคืออะไรบ้างถึงเวลาก็ได้แต่จ่ายออกอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการบริหารการเงินอย่างมาก

เราจะไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องรายรับรายจ่ายได้อย่างแน่นอน ในภาพรวมธุรกิจอาจเรียกว่าเป็นช่องโหว่ที่ต่อให้ขายได้เยอะแต่มองดูเงินโดยรวมกลับไม่มีมากตามที่คิดเหตุผลส่วนหนึ่งก็คือเรื่องบัญชีรายจ่ายที่เราต้องใส่ใจมากที่สุด

วิธีแก้ไขที่สำคัญนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าการจัดบันทึกซึ่งปัจจุบันก็มีโปรแกรมในการช่วยคำนวณเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี คุณสมบัติของโปรแกรมพวกนี้นอกจากจัดบันทึกได้ยังช่วยบริหารการเงินว่าอะไรควรจ่ายไม่ควรจ่าย

ถ้าลองทำบัญชีดูแล้วอาจจะพบว่าเรื่องไหนคือสิ่งสำคัญเรื่องไหนคือเรื่องที่เราปล่อยปะละเลยมานานการอุดรูโหว่ในรายจ่ายได้ก็หมายถึงรายรับที่จะมากตามไปด้วย

3.มีรายจ่ายเกินกว่ารายรับในแต่ละเดือน

bb21

หากเราไม่รู้ค่าใช้จ่ายรายเดือน ก็มีโอกาสใช้จ่ายสูงเกินตัว จนเกินรายรับ กลายเป็นความเสี่ยงต่อเงินหมุนเวียนทางธุรกิจ กว่าจะรู้ตัวก็ต้องกู้เงินมาใช้จ่ายเพื่อแก้ปัญหารายจ่ายสูงกว่ารายรับ เรียกได้ว่ากระทบกันเป็นลูกโซ่เลยทีเดียว

แนวทางแก้ไขที่สำคัญคือเข้าสู่มาตรการรัดเข็มขัดให้เร็วที่สุด โดยจำไว้เสมอว่า การทำธุรกิจต้องมีระบบ มีวินัยด้านการเงิน ใช้จ่ายให้น้อย เพื่อให้เกิดกำไรสูงขึ้น มองเรื่องความคุ้มค่า คุ้มทุน เช่น อุปกรณ์ที่ซื้อมาจะทำอย่างไรให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้สูงที่สุด ไม่ใช่มีเงินก็ซื้อไปโดยที่ไม่ได้คิดหรือไม่ได้วิเคราะห์อะไรเลย

4.มีหนี้บัตรเครดิตมากเกินไป

bb24

บางคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวว่าทำธุรกิจต้องมีหนี้ และบางธุรกิจก็เลือกใช้การกู้มาลงทุนซึ่งก็คือหนี้ในระยะยาว รวมถึงบางคนใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่าย ซึ่งบัตรเครดิตเปรียบเสมือนดาบสองคม หากใช้ให้ดี บริหารเงินหมุนเวียนในบัญชีเป็น ก็จะได้รับส่วนลดจากโปรโมชัน และ Cash Back ของบัตรแต่ละประเภทคืนได้ไม่ยาก

แต่หากควบคุมการใช้จ่ายไม่เป็น บัตรเครดิต ถือเป็นมหันตภัยอันร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจมักจะใช้บัตรเครดิตเข้ามาเป็นตัวช่วยเมื่อขาดสภาพคล่อง

หากเกิดวิกฤติหนี้บัตรเครดิตกับธุรกิจสิ่งสำคัญที่จำต้องทำอันดับแรกคือเลิกนำบัตรเครดิตมาใช้ในธุรกิจเด็ดขาดเพื่อจำกัดวงหนี้ให้หยุดอยู่กับที่ไม่ก่อหนี้ใหม่ขึ้นมาแล้วหามาตรการในการชำระหนี้เก่าให้หมดโดยเร็วที่สุด

เพราะอย่าลืมว่าหนี้เหล่านี้มีดอกเบี้ยค่อนข้างแพงทางที่ดีถ้าเลือกโปะหนี้ได้โดยอาจตัดจากส่วนไหนที่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยก็ควรเลือกทำไปก่อน เรียกว่าเอาเนื้อจากช่องเล็กไปอุดช่องที่ใหญ่กว่า เมื่อรูใหญ่ปิดสนิทก็ค่อยมาหาวิธีอุดช่องเล็กๆที่น่าจะเกิดประโยชน์ต่อการทำธุรกิจได้ดีกว่าแน่นอน

ในความเป็นจริงปัญหาทางธุรกิจที่ส่อแววให้ผู้ประกอบการมีปัญหานั้นก็มีอยู่ไม่น้อยแต่ในภาพรวมกว้างๆทางการเงินก็มีหลักการอยู่ 4 ข้อใหญ่ๆนี้ หากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปได้ก็ถือว่าช่วยทำให้การเงินทางธุรกิจมั่นคงได้ในระดับหนึ่งดังนั้นใครที่คิดทำธุรกิจวางแผนดีๆ คิดวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งก็มีโอกาสผิดพลาดในการทำธุรกิจน้อยลงด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด