3 วิธีเสี่ยงเพื่อกำไร กับการขายสินค้าแบรนด์เนม บนโลกออนไลน์

ตลาดการซื้อขายแบ่งกันง่ายๆว่ามีทั้งตลาดทั่วไปและตลาดระดับพรีเมี่ยม สินค้าแนวติดแบรนด์ระดับโลกหลายอย่างคือสินค้าระดับไฮเอนที่คนซื้อคือกลุ่มคนมีเงินมาก

ซึ่งสินค้าเหล่านี้มักจะมีดีไซน์ที่แตกต่าง หรือมาจากการผลิตที่ไม่เหมือนกัน หรือใช้วัตถุดิบที่หาได้ยาก มาพร้อมกับราคาขายที่เรียกว่าคนซื้อเน้นโชว์มากกว่าเอาไว้ใช้ นั้นคือการตลาดแบบสินค้าติดแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าของตัวเองในแต่ละแบรนด์ รวมถึงบางครั้งแบรนด์ดังเหล่านี้ก็มีเทคนิคการตลาดที่ทำให้คนสนใจ

แบรนด์มากขึ้น อย่างล่าสุดที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ช่วงเดือนที่ผ่านมากับกรณีที่ Prada เปิดสินค้าตัวใหม่อย่าง Paperclip-Shaped Money Clip ที่ใครมองไปมองมาก็บอกว่าไม่ต่างจากคลิปหนีบกระดาษธรรมดาแต่ที่ไม่ธรรมดาคือราคาขายที่แพงเว่อร์ทีเดียว

งานนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงได้นำแง่คิดเกี่ยวกับ 3 วิธีเสี่ยงๆในการโฆษณาสินค้าแบบติดแบรนด์ที่สุ่มเสี่ยงกับการสร้างชื่อเสียงได้พอกับสร้างชื่อเสียทีเดียว

จุดเริ่มต้นของคลิปหนีบกระดาษราคา 6,300 บาท

rr3

ภาพจาก goo.gl/W7XZx9 , goo.gl/kiWR8b

กระแสนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากับกรณีที่แบรนด์แฟชันหรูอย่าง Prada ได้ประกาศขายสินค้าใหม่คือ Paperclip-Shaped Money Clip ซึ่งได้ตั้งราคาขายไว้ถึง 185 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,300 บาท

ความน่าสนใจที่ทำให้โลกโซเชี่ยลถล่มเรื่องนี้กันอย่างร้อนแรงคือ Money Clip ราคาแพงที่ว่านี้ ก็เป็นแค่คลิปหนีบกระดาษอันใหญ่แสนธรรมดา คนในโลกออนไลน์จึงวิจารณ์เละเทะว่า Prada ตั้งใจหลอกขายคลิปหนีบกระดาษนี้ได้อย่างไร

แน่นอนว่าแบรนด์อย่าง Prada มีสินค้าแนวแฟชั่นที่ออกมาสู่ตลาดมากมายและที่ผ่านมาก็เจาะตลาดพรีเมี่ยมคนรวยได้เป็นอย่างดี และฐานลูกค้าจำนวนไม่น้อยก็รอสินค้าภายใต้แบรนด์ของ Prada ซึ่งบางทีลูกค้ากลุ่มนี้ก็ไม่ได้สนใจว่าเป็นสินค้าแบบไหนอย่างไร

ขอให้ติดแบรนด์ Prada ก็ถือว่าน่าสนใจแล้ว แต่อย่างไรก็ดีจากกรณีนี้ก็มีข้อคิดสำคัญสำหรับการทำตลาดระดับพรีเมี่ยม เป็น 3 สิ่งที่ต้องระวังให้ดีกับการเสี่ยงทำตลาดแบบ Prada

rr4

ภาพจาก goo.gl/TgR4zT

1.การถ่ายรูปอัพบนโซเชี่ยลไม่สามารถชูความสมเหตุสมผลของสินค้าได้

ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร แต่คนบางกลุ่มเชื่อว่า Money Clip นั้นเป็นสินค้าที่ผู้นิยมพกพาเงินสดอาจให้ความสนใจใช้งาน เช่น กรณีของนักมวย Floyd Mayweather ที่ถ่ายรูปเงินถูกหนีบในคลิปหนีบกระดาษขึ้น Instagram โชว์ทั่วโลก ในทางการตลาดแล้วถือว่าสินค้าที่ต้องการวางขายในระดับพรีเมี่ยมนี้ยังมีความต้องการและก็มีคนที่อยากจะซื้อการนำเสนอแบบสุดโต่งที่ว่านี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่สิ่งที่ Prada สอบตกคือการไม่สามารถบอกชาวโซเชียลได้ว่าคลิปนี้ถูกออกแบบให้ใหญ่เหมาะกับการจัดการธนบัตร ขณะเดียวกันก็ใช้วัสดุหรูหราที่ไม่ซีดหมอง แวววาวหรูดูดี และที่สำคัญคือสามารถเสียบเงินลงกระเป๋าเงินซ้อนอีกครั้งได้โดยไม่ต้องห่วงว่าคลิปจะข่วนเข้ากับกระเป๋าถ้า Prada ลงมือทำคลิปโฆษณาแบบที่ว่านี้ก็น่าจะคู่ควรแก่การขายคลิปหนีบกระดาษที่ว่าในราคาแพงแบบมีเหตุผล

2.สินค้าระดับพรีเมี่ยมควรจะทำให้ดูแปลกและแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

สำหรับการขายสินค้าระดับพรีเมี่ยมนั้นรูปลักษณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในสายตาของคนซื้อแล้วสินค้าลักษณะนี้อาจไม่ใช่สินค้าที่ต้องการเอามาใช้แต่ต้องการซื้อมาโชว์มากกว่า ดังนั้นจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆหากทำสินค้าขายแพงในรูปแบบที่ตัวสินค้าหน้าตาเหมือนสินค้าที่มีอยู่ทั่วไป

และนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Money Clip ของ Prada ทางที่ดีหากจะปรับปรุงเรื่องนี้ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่ดีกว่า เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน หรือจะเลือกผลิตด้วยวิธีการที่ละเอียดขึ้นแตกต่างจากคลิปหนีบกระดาษทั่วไปมากขึ้น และทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าสินค้าที่ว่านี้มีความน่าสนใจและเป็นสินค้าที่หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ ก็จะเพิ่มคุณค่าและไม่ทำให้คนกังวลสงสัยว่าทำไมต้องซื้อคลิปหนีบกระดาษธรรมดาๆในราคาแพงเว่อร์ด้วย

rr2

ภาพจาก goo.gl/7VaoER

3.เป็นการเสี่ยงกับลูกเล่นทางการตลาดที่สร้างชื่อเสียงได้พอๆกับสร้างชื่อเสีย

ไม่แน่ใจว่าการปล่อย Money Clip ของ Prada ออกมาครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบหนึ่งหรือเป็นความตั้งใจที่จะนำเสนอสินค้าแนวนี้จริงๆ แต่หากครั้งนี้คือกลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่าการโฆษณาแบบไม่เสียเงินนั้นคือเมื่อ Money Clip ถูกแชร์ต่อๆกันไปก็ทำให้คนรู้จักกับ Prada มากขึ้นและทำให้แบรนด์แฟชั่นนี้กลับมาถูกพูดถึงได้มากขึ้น

ในแง่การตลาดอาจดูว่าสร้างความสำเร็จได้ดีแต่ในแง่ของชื่อเสียงอาจทำให้หลายคนคลางแคลงใจกับคุณภาพของสินค้ากับราคาที่ถูกตั้งขึ้น ในมุมของชื่อเสียงอาจได้คะแนนบวกๆ แต่ในแง่ความรู้สึกของลูกค้าคะแนนส่วนนี้เสี่ยงต่อการติดลบได้เหมือนกัน

แต่ทว่าเมื่อเราอยู่ในยุคของการตลาดแบบออนไลน์ การทำอะไรก็ตามที่แปลกและแตกต่างย่อมเกิดการรับรู้ถึงกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ทางที่ดีการคิดแคมเปญหรือการออกแบบการโฆษณาก็ควรคำนึงถึงชื่อเสียงและคุณภาพของตัวเองเป็นหลัก หากทำบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดภาพลบมากขึ้นได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาว่าช่วงไหนควรใช้การตลาดแบบใดเพื่อสร้างการจดจำให้ลูกค้าได้ดีที่สุดด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/LwxSA8

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด