3 วิธีลงทุนให้รวย สไตล์มนุษย์เงินเดือน

ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยใดคนเราก็ยังต้อง ทำงานหาเงิน แม้ว่าเงินจะซื้อทุกอย่างที่ต้องการไม่ได้แต่เงินก็ทำให้เรื่องหนักๆผ่อนคลายลงได้แม้เงินจะไม่สำคัญที่สุดแต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่เราขาดไม่ได้เช่นกัน

คำถามก็คือว่าหากเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว รายได้ที่ประจำในแต่ละเดือน พอใช้บ้างไม่พอใช้บ้าง จะมีหนทางสร้างเงินเก็บให้กับตัวเองได้อย่างไร ขึ้นชื่อว่างานประจำก็คือต้องมาทำทุกวันดังนั้นคงไม่มีเวลาในการไปทำอย่างอื่นแล้วแบบนี้จะมีโอกาสสร้างสรรค์การเงินให้งอกเงยได้หรือไม่

www.ThaiSMEsCenter.com มีคำตอบที่น่าสนใจที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาดูแลกิจการมาบริหารการตลาดหรือมาควบคุมต้นทุนทางธุรกิจ เรามีวิธีการใช้เงินต่อเงินที่ในขณะเราทำงานประจำเงินก็ทำงานให้เราได้ด้วยเป็น 3 วิธีน่าสนใจที่มนุษย์เงินเดือนศึกษาเอาไว้เพื่อลงทุนให้รวยได้ในสไตล์ของมนุษย์เงินเดือน

1.ลงทุนในกองทุนรวม

ทำงานหาเงิน

ภาพจาก goo.gl/5Cr8Bo

การลงทุนในกองทุนรวมก็เรียกได้ว่าเป็นการเอาเงินต่อเงินแบบที่เราไม่ต้องมานั่งบริหารจัดการเอง แต่มีตัวแทนคือธนาคารในการบริหารจัดการเงินของเรา หน้าที่ของเราก็คือตรวจสอบดูแลเงินและทำการออมในระบบนี้อย่างมีวินัย ซึ่งปัจจุบันกองทุนรวมก็มีให้เลือกมากมาย

ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนและพอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็สามารถลงทุนได้ง่ายหรือใครที่ไม่มีเงินเก็บมากพอสมัยนี้เริ่มต้นลงทุนกับกองทุนรวมได้แค่เงิน 500 บาทแต่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าในการที่จะได้อัตราตอบแทนในจำนวนที่ต้องการ

ยกตัวอย่าง การมีพอร์ตการลงทุนในกองทุนรวม อัตราผลตอบแทน 5 ปี เฉลี่ย 25% เท่ากับผลตอบแทน 5% ต่อปี ยังไม่รวมเงินปันผล โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมที่ยังไม่รวมเงินปันผล เพราะปกติแล้วการลงทุนในกองทุนรวมจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี หมายความว่าหากเราลงทุนไป 1 แสนบาท เงินของเราจะงอกเงยเป็น 2 แสนบาท หรือกว่าเท่าตัวในเวลาไม่เกิน 10 ปี

2.ลงทุนในคอนโดมิเนียม

io4

จากสถิติที่ผ่านมาคอนโดมิเนียมมีราคาเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ในสมัยก่อนคอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้านั้นขายตารางเมตรละ 4 หมื่นบาท ถือว่าแพงมาก ๆ แต่ปัจจุบันหากเป็นย่านที่ผู้คนพลุกพล่าน คอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้านั้นราคาสูงกว่า 2 แสนบาทต่อตารางเมตร หลายคนอาจคิดว่ามันแพง

แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบกับราคาคอนโดของกรุงโตเกียวที่ตกตารางเมตรละกว่า 8.9 แสนบาท คอนโดของสิงคโปร์ที่ตกตารางเมตรละกว่า 9 แสนบาท และคอนโดของเกาะฮ่องกงที่ตกตารางเมตรละกว่า 1 ล้านบาท

ใครจะไปคิดครับว่าราคาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ราคาจะไปสุดที่เท่าไหร่ หากเราเป็นมนุษย์เงินเดือนพอมีเงินเหลือ การทยอยผ่อนคอนโดมิเนียมทุกเดือน ๆ ถือเป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยทุกเดือนเหมือนกัน

ส่วนเคล็ดลับในการลงทุนกับคอนโดมิเนียมก็คือ เลือกคอนโดมิเนียมชานเมืองที่ราคายังไม่สูงมาก แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าผ่านเส้นทาง ไม่แน่ว่าเราอาจขายได้ราคาดีกว่าที่เราคิด ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจทีเดียว

3.ลงทุนในหุ้นแบบถัวเฉลี่ย

io6

หลายคนคิดว่าการลงทุนในหุ้นต้อง “ซื้อ ๆ ขาย ๆ” ตลอดเวลา แต่ความเป็นจริงแล้วการลงทุนในหุ้นเราสามารถซื้อแบบถัวเฉลี่ยทุกเดือนได้โดยเราสามารถเข้าไปสอบถามนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ สอบถามดูว่ามีโปรแกรมการซื้อหุ้นแบบถัวเฉลี่ยให้บริการหรือเปล่า การจัดพอร์ต เราควรเลือกหุ้นไม่เกิน 5 ตัว

ยกตัวอย่างเช่น หุ้นรถไฟฟ้า หุ้นโรงพยาบาล หุ้นค้าปลีก หุ้นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นธนาคาร แล้วให้ตัดเงินจากบัญชีไปซื้อหุ้นแบบถัวเฉลี่ยทุกเดือน หรือ Dollar Cost Average ข้อดีของการทำแบบนี้ก็คือ เราสามารถเลือกหุ้นที่ต้องการด้วยตนเอง แล้วให้ตัดเงินจากบัญชีออมทรัพย์ของเราไปทุก ๆ เดือน

โดยเราไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการกองทุน ถ้าเราซื้อผ่านกองทุนรวมที่มีผู้จัดการกองทุนดูแลให้อีกทีจะมีค่าบริหารจัดการที่ค่อนข้างแพงแต่ว่าการเลือกลงทุนแบบจัดพอร์ตเองก็มีข้อเสียคือ ถ้าเราเลือกหุ้นผิดแทนที่จะกำไร กลับขาดทุนก็มี ทางที่ดีควรศึกษาเรื่องการลงทุนหุ้นไว้บ้าง หรือเลือกลงทุนในหุ้นที่แข็งแกร่งไว้ก่อนจะดีที่สุด

การเลือกลงทุนสไตล์มนุษย์เงินเดือนนั้นที่จริงก็ยังมีอีกหลายวิธีที่น่าสนใจเพียงแต่ว่า 3 วิธีนี้คือการลงทุนแบบใช้เงินต่อเงินที่ชัดเจนและไม่ต้องลงแรงมาก หากเป็นการลงทุนในเรื่องแฟรนไชส์ซึ่งก็มีข้อดีแต่เราก็ต้องเข้าไปคลุกคลีดูแล

หรือแม้แต่การเปิดธุรกิจหน้าร้านของตัวเองก็ต้องมีการบริหารจัดการเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำวิธีที่ง่ายเพื่อให้ทำงานประจำได้โดยไม่ต้องไปดูแลกิจการเองก็ถือเป็นความน่าสนใจของการลงทุนในยุคนี้

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด