3 ทางลุย! เมื่อ SnapChat เข้าตลาดหุ้นจะลุยตลาดเอเชียอย่างไร

เป็นข่าวในวงการสตาร์ทอัพเมื่อไม่นานมานี้กับการที่ บริษัทสแนป อิงค์ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น SnapChat เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และประเดิมขายที่หุ้นละ 17 เหรียญ นับเป็นการจำหน่าย IPO บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากสุดรองจากอาลีบาบา ที่เข้าตลาดเมื่อ 3 ปีก่อน

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าจุดเด่นของSnapChat เป็นแอพสนทนาที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นมีจุดเด่นคือหลังจากส่งภาพหรือคลิป ข้อมูลที่ส่งไปจะทำลายตัวในเวลาที่กำหนด ทำให้ภาพลักษณ์ของ SnapChat กลายเป็นแอพสำหรับ sexting หรือการส่งภาพ/คลิปหวือหวาในหมู่วัยรุ่น ปัจจุบัน SnapChat มีผู้ใช้งานทั่วโลก 160 ล้านคน/วัน

ว่ากันในเชิงการตลาดเมื่อ SnapChat ได้เข้าตลาดหุ้น จะทำให้บริษัทสแนป อิงค์มีมูลค่า 2-2.5 หมื่นล้านเรียญแน่นอนว่าประเด็นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ SnapChat แต่เป็นคำถามว่าหลังจากนี้ บริษัทจะมุ่งไปในในทิศทางใดเพราะจุดอ่อนของ Snap คืออัตราการเติบโตของฐานผู้ใช้ไม่หวือหวานัก

บริษัท eMarketer เพิ่งคาดการณ์ว่าในปี 2017 นี้จำนวนผู้ใช้อินสตาแกรมในสหรัฐฯจะมากกว่า SnapChat คืออยู่ที่ 77 ล้านคน เทียบกับ SnapChat 70.4 ล้านคน ขณะเดียวกัน คู่แข่งก็เริ่มพัฒนาฟังก์ชั่นเลียนแบบ SnapChat อย่าง WhatsApp ของเฟสบุ๊กที่เอื้อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพหรือคลิปโดยคอนเทนต์นั้นจะถูกลบหลัง 24 ชม. เป็นต้น

และเมื่อเป็นการเข้าตลาดหุ้นย่อมก่อให้เกิดการขยายตัวทางธุรกิจได้ในวงกว้างโดยผู้ลงทุนสามารถระดมทุนในการซื้อหุ้นและทำให้ SnapChat สามารถขยายกิจการไปในพื้นที่อื่นทั่วโลกได้มากขึ้นแต่ปัญหาที่ยังคงสงสัยอยู่ก็คือว่า SnapChat จะทำอย่างไรกับการขยายตัวไปยังภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะในเอเชียที่ว่ากันว่าตลาดมีความหลากหลายและการเข้าไปสร้างส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องน้อยนัก

1.SnapChat กับทิศทางการเติบโตในประเทศจีน

บริษัทสแนป อิงค์

ภาพจาก goo.gl/B8Y0JR

SnapChat อาจครองใจวัยรุ่นอเมริกัน เป็นที่นิยมในบ้านตัวเอง แต่เมื่อเข้าตลาดหุ้นแล้วก็ต้องผลักดันตัวเองให้โตในตลาดต่างประเทศด้วย ถ้าเป็นตลาดเอเชียล่ะ คิดว่าสแนปปแชทจะเจอกับอะไร อย่างแรกเลย

เอเชียเป็นตลาดที่มีผู้ใช้แอพสนทนาคิดเป็นจำนวนกว่า 50% ของจำนวนผู้ใช้แอพทั้งหมดในโลก ตลาดใหญ่ ๆ ก็ล้วนแต่มีแอพเจ้าถิ่นอยู่แล้ว เช่น จีนมี WeChat ครองอยู่ และสแนปแชทไม่อาจเจาะเข้าไปได้ถูกรัฐบาลจีนบล็อกอยู่ เหมือนที่บล็อกเฟสบุ๊กและอีกหลายสื่อโซเชี่ยลนั่นแหละ

2. SnapChat กับทิศทางการเติบโตในประเทศอินเดีย

ll46

ภาพจาก goo.gl/yfBe9V

อินเดียอาจดูน่าสนใจกว่าเพราะจำนวนวัยรุ่นเยอะ คนใช้สมาร์ทโฟนก็ไม่น้อย อินเดียถือเป็นตลาดแอพส่งข้อความใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเป็นตลาดที่โตเร็วมาก แต่แอพที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ WhatsApp ซึ่งมีผู้ใช้งานถึง 200 ล้านคน แถมยังมีแอพที่พัฒนาโดยคนอินเดียเองโผล่มาแจม เช่น Hike ที่เลียนแบบสแนปแชทคือลบรูปลบคลิปได้หลัง 48 ชม.

ปัจจุบัน มีวัยรุ่นอินเดียส่งข้อความผ่าน Hike โดยเฉลี่ย 40,000 ล้านข้อความต่อเดือน ที่สำคัญ อินเดียเป็นตลาดที่มีความเฉพาะมากเนื่องจากความหลากหลายของประชากร กลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลทางเหนือ อาจล้มเหลวทางใต้ก็ได้ ดังนั้น จึงต้องศึกษาตลาดอย่างถี่ถ้วนก่อนเข้ามา

3.SnapChat กับทิศทางการเติบโตในประเทศญี่ปุ่น

ll47

ภาพจาก goo.gl/sSxGwn

นอกจาก 2 ตลาดใหญ่อย่างจีนและอินเดียที่เจาะเข้ายาก ตลาดเล็กลงมาก็ไม่ง่ายเช่นกันแต่ละที่ล้วนมีแอพยอดนิยมยึดหัวหาดอยู่ อาทิ ญี่ปุ่นมี Line (ซึ่งเป็นแอพที่ใช้แพร่หลายในไทย) เกาหลีใต้มี KakaoTalk และอินโดนีเซียที่คนส่วนใหญ่ยังใช้ BBM ของแบล็คเบอรี การเข้าตลาดหุ้นของสแนปอาจมองเป็นความสำเร็จได้ แต่ก็แค่บันไดขั้นต้น ๆ เท่านั้น สแนปจะก้าวไปได้สูงสุดกี่ขั้น คงต้องจับตามองต่อไป

ในขณะนี้ก็ยังไม่มีรูปแบบการขยายตลาดที่ชัดเจนว่า SnapChat จะเดินเกมส์อย่างไรในการเข้าถึงพื้นที่การตลาดในย่านเอเชีย ซึ่งก็มีบทเรียนจากแบรนด์ดังระดับโลกจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแบบไม่ถูกจังหวะ ไม่เข้าใจพื้นที่

สุดท้ายกำไรที่หวังก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร Snap ที่ต้องตีโจทย์เหล่านี้ให้ออกเพื่อให้การเข้าสู่ตลาดหุ้นจะเป็นปรากฏการณ์ที่เข้าที่เข้าทางและเป็นก้าวย่างสำคัญของการต่อยอดไปเป็นธุรกิจในระดับโลกมากยิ่งขึ้นด้วย

ทั้งนี้ยังมีอีกหลายธุรกิจที่น่าจะผลักดันให้ไปสู่ระดับโลกได้เพียงแต่ผู้ลงทุนต้องรู้จักเลือกการตลาดที่เหมาะสมหรือเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองโดยเฉพาะกับแฟรนไชส์ต่างๆ ที่เป็นสิ่งต้องการในตลาดมากโดยผู้ที่ยังไม่มีธุรกิจใดๆสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเองได้ตามต้องการ ดูรายละเอียด goo.gl/UIYqPn

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/UN1Kai

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด