3 ข้อต้องห้ามทำแล้ว ธุรกิจออนไลน์ พังทันที

ยุคนี้หากไม่พูดถึงตลาดออนไลน์ก็คงจะล้าสมัยและตกเทรนด์ซะเหลือเกิน แม้แต่เด็กประถมเดี๋ยวนี้ก็ยังรู้จักการหาข้อมูลในอินเทอร์เนต

ซึ่งการเข้ามาของโลกออนไลน์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดนี้ทำให้ธุรกิจทุกอย่างต้องให้ความสำคัญกับการทำตลาดออนไลน์ร่วมด้วย ใครที่ไม่มีช่องทางนี้ถือว่าผิดพลาดมาก แต่ทว่าการจะกระโดดเข้าสู่ตลาดออนไลน์แบบไร้ทิศทางก็อาจส่งผลเสียให้ธุรกิจได้เช่นกัน

www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ3ข้อที่ธุรกิจไม่ควรทำเพราะหากเริ่มคิดแบบที่เราพูดนี้เมื่อไหร่ธุรกิจออนไลน์ที่หวังโตจะสะดุดและฉุดธุรกิจเราลงเหวได้เลยทีเดียว

Digital Movement ในปีที่ผ่านมาระบุว่าผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกินกว่า 3.7 พันล้านคน และประชากรทั่วโลกกว่า 50% สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือคือช่องทางใหญ่สุดในการเข้าถึงประมาณร้อยละ 91 ช่องทางอื่นก็ลดหลั่นกันไป มูลค่าตลาด E-Commerce จึงโตสอดคล้องโดยมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้กว่า 1.61 พันล้านน มีมูลค่ารวม 1.915 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เฉลี่ยต่อคนใช้จ่ายประมาณ 1,189 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดียังมีสิ่งที่คนทำตลาดออนไลน์ต้องพึงระวังให้จงหนัก และสิ่งที่ไม่ควรคำนึงถึงให้มากก็คือ

1.ตัวเลขคนใช้งานมากก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นรายได้ของธุรกิจเสมอไป

3

จากตัวเลขผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีๆ คนทำธุรกิจจะย่ามใจว่านี่คือตลาดใหญ่ที่ทำตลาดออนไลน์ยังไงก็ประสบความสำเร็จ หากเราคิดได้แค่นั้น ธุรกิจเรามีสิทธิ์จะพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม Tim Ferriss ผู้เขียนหนังสือขายดีตลอดกาล The 4-Hour Work Week ได้กล่าวไว้ว่า หากเราพยายามทำให้ทุกคนเป็นลูกค้าของเรา เราก็จะไม่มีลูกค้าเลย

ในกระแสมหาชนของใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นสินค้าเราต้องเลือกโฟกัสได้ว่าเราต้องการสื่อสารกับคนกลุ่มไหน และอะไรคือสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนั้นต้องการ การเปิดเฟซบุ๊กเพจแล้วกระหน่ำโพสต์หน้าฟีดด้วยรูปถ่ายสินค้าที่ก็อปปี้มาจากเว็บไซต์คู่แข่งเพื่อหวังขายของแบบจับเสือมือเปล่าจึงไม่ใช่การเริ่มต้นธุรกิจอย่างมืออาชีพ

เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหากลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ของเรานั้นเพราะเขารู้จักเรา เขารู้ว่าซื้อสินค้าจากเราและเขาจะได้ประโยชน์อะไร พูดง่ายๆคือตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จได้ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นร้านค้าของเราก่อน

2.ใครขายดีก็ทำตาม คือหนทางหายนะของตลาดออนไลน์

8889565656

ภาพจาก goo.gl/8e74Ju

ไม่ใช่แค่ตลาดเมืองไทยแต่เชื่อว่าตลาดทั่วโลกก็ไม่ต่างกัน ถ้าเราเห็นว่าตลาดออนไลน์ของใครขายสินค้าแล้วยอดขายดี เชื่อเถอะว่าอีกไม่นานสินค้าแบบเดียวกัน ใกล้เคียงกันจะออกมาวางขาย ถามว่าผิดไหมในเชิงการตลาด คำตอบคือไม่ผิดแต่เรื่องนี้ไม่มีใครได้ประโยชน์ในระยะยาว

การก็อปปี้โมเดลหรือแห่ทำตามคนแรกๆ จะก่อให้เกิด Over supply ตัวอย่างเรื่องนี้คือการขับแท็กซี่ที่เห็นคนอื่นทำแล้วดี ใครๆก็อยากเปิดเต๊นให้เช่าแท็กซี่ แต่ Grab Taxi เลือกการทำตลาดแบบแตกต่างแทนที่จะเปิดเต็นท์รถเหมือนคนทั่วไป Grab Taxi เลือกเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อระหว่าง รถแท็กซี่ที่มีอยู่แล้ว และ ผู้โดยสารที่มีอยู่แล้วให้มาเจอกัน กลายเป็นสุดยอดการตลาดแบบออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน

3. โฆษณาออนไลน์ไม่สำคัญเท่าการสร้างแบรนด์ให้แกร่งก่อน

998565323232

หนึ่งในความคิดผิดๆที่ทำให้ธุรกิจออนไลน์พังพินาศมานักต่อนักคือการไม่ยอมสร้างสินค้าหรือว่าแบรนด์ของตัวเองให้แกร่งแต่ดันไปเร่งโหมโฆษณาในช่องทางต่างๆ จึงเป็นความไม่สัมพันธ์กันที่อันตราย เพราะหากลูกค้ารู้จักเรามากขึ้นต้องการสินค้ามากขึ้น ในขณะที่เรายังไม่มีไลน์ผลิตสินค้าดีพอ การจัดส่งยังไม่ชัดเจน ระบบหลังบ้านยังไม่เคลียร์ สุดท้ายปัญหาก็จะตามมาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของบรรดาลูกค้าเราเอง

ข้อแนะนำสำคัญคือแบรนด์ต้องแกร่งควบคู่กับการโฆษณาออนไลน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่สำคัญวิธีบริหารจัดการที่ได้ผลในการค้าออนไลน์คือการสร้างระบบกึ่งอัตโนมัติที่ระบบจะสามารถทำงานแทนเราได้

มีหลายวิธีการที่ทำให้การค้าออนไลน์เราเติบโตเช่นบางอย่างเราอาจจ้าง Outsource เพื่อดูแลงานจิปาถะที่เราไม่จำเป็นต้องทำเองจะช่วยให้มีเวลาไปพัฒนาธุรกิจให้มีมูลค่าสูงยิ่งๆขึ้นไป

อันที่จริงเทคนิคการทำตลาดออนไลน์นั้นเราศึกษาหาความรู้ได้ในอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลมากมาย รวมถึงจากตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จก็ใช้มาเป็นต้นแบบได้หรือจะให้ดีเราอาจลงทุนเข้าคอร์สเรียนที่บางคนมองว่าไม่มีประโยชน์และคิดว่าตลาดออนไลน์เป็นเรื่องง่ายๆ ทำเองได้ไม่ต้องศึกษา หากเริ่มต้นแล้วคิดแค่นี้เค้าลางไม่ดีก็เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด