15 ข้อ ถ้าตอบไม่ได้! อย่าเปิดร้านชานมไข่มุก

ถ้าถามว่าตอนนี้มีเงินลงทุนแล้วอยากเปิดร้านอะไร? คำตอบส่วนใหญ่ต้องพูดถึง “ร้านชานมไข่มุก” สอดคล้องกับข้อมูลที่ระบุว่าตลาดชานมไข่มุกในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.43 แสนล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.3% ต่อปี ข้อมูลยังชี้ชัดลงไปอีกว่าคนไทยใช้จ่ายเงินกับการซื้อชานมไข่มุกกว่าปีละ 749 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท) 

แต่ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com อยากให้ใครก็ตามที่คิดจะเปิดร้านชานมไข่มุกควรพิจารณาปัจจัยให้รอบด้านวิธีการที่ง่ายสุดคือการตั้งคำถามและตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนเปิดร้านของเราจะไม่สูญเปล่าและสามารถสร้างรายได้สมกับที่ตั้งใจไว้

1.มีใจรักอยากทำธุรกิจแค่ไหน?

15 ข้อ

บางคนอยากเปิดร้านเพราะเห็นว่าขายดี บางคนอยากเปิดร้านเพราะไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากใจรักแต่เพราะมองเห็นและทำตามคนอื่นที่เขาขายดี ซึ่งการเปิดร้านชานมไข่มุกปัจจุบันเราต้องเจอคู่แข่งจำนวนมาก การแข่งขันก็สูง ในโซนเดียวกันอาจเจอร้านชานมไข่มุกมากกว่า 3-4 ร้าน และลูกค้าก็มีตัวเลือกได้ตามต้องการบางวันยอดขายดี บางวันยอดขายไม่ดี สิ่งเหล่านี้จึงต้องมีพื้นฐาน “ใจรัก” ที่จะทำให้ธุรกิจเราอยู่รอดและเดินหน้าต่อได้

2.ตั้งเป้าเปิดร้านต้องการให้เติบโตถึงระดับไหน?

8

การเปิดร้านก็ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการให้เติบโตไปถึงระดับไหน จะได้เลือกวิธีการลงทุนได้อย่างชัดเจน เป็นแผนการแบบขั้นบันได เช่นถ้าคิดจะทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่มก็อาจไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องคิดจะขยายร้าน ไม่ต้องหาทำเลที่ค่าเช่าราคาสูง แต่ถ้ามองว่าจะลงทุนเพื่อให้เติบโตเป็นธุรกิจก็ต้องมีจุดเด่น มีคอนเซ็ปต์ร้าน มีการสร้างแบรนด์ให้คนรู้จัก การลงทุนอาจต้องมากขึ้น เป็นต้น

3.มีความรู้เรื่องเรื่องชานมไข่มุกมากพอหรือไม่?

2

ชานมไข่มุกเห็นคนอื่นชงก็ดูเหมือนง่าย พอมาทำเองยากกว่าที่คิด ดังนั้นเราต้องมีความรู้มากพอ ทั้งการเลือกชาแต่ละประเภท การต้มไข่มุก สูตรในการชงชาแต่ละเมนู ถ้ายังไม่มีความรู้ดีพอ แนะนำว่าควรไปเรียนรู้ให้มากขึ้นปัจจุบันมีคอร์สอบอบรมให้เลือกมากมาย หรือบางคนอาจลองดูจากYoutube และฝึกทำตาม และก่อนที่จะเปิดร้านก็ควรทดลองทำชานมไข่มุกให้คนในครอบครัวชิม ให้เพื่อนชิม จะได้นำมาพัฒนาเรื่องรสชาติให้ดียิ่งขึ้น

4.รู้วิธีการคำนวณต้นทุน-กำไรหรือเปล่า?

6

ถ้าคิดเปิดร้านชานมไข่มุกเพราะคิดว่าสร้างรายได้ดี เราก็ต้องรู้วิธีคำนวณต้นทุน-กำไรที่ถูกต้อง หลักการทั่วไปคือ

ต้นทุนต่อแก้ว = ราคาซื้อ X (ปริมาณที่ใช้จริงต่อแก้ว / ปริมาณน้ำหนักต่อถุง) คิดแยกวัตถุดิบออกมาทีละชนิดแล้วค่อยมาบวกรวมกัน เช่นถ้าคิดต้นทุนต่อแก้วอยู่ที่ประมาณ 13 บาท ราคาขายปลีกก็ไม่ควรต่ำกว่าแก้วละ 25 -30 บาท เพื่อให้มีกำไรประมาณ 50% จากราคาขายต่อแก้ว เอาไว้หักลบกับต้นทุนผันแปรและต้นทุนจิปาถะภายในร้านจะได้มีส่วนต่างที่เหลือเป็นกำไรได้มากขึ้น

** เป็นการยกตัวอย่างของต้นทุนโดยประมาณ ต้นทุนที่แท้จริงขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละร้านค้าเป็นสำคัญ**

5.คอนเซ็ปต์ของร้าน/ ชื่อร้านคืออะไร?

7

บางคนคิดว่าชานมไข่มุกก็คือชานมไข่มุก ทำไมต้องมีคอนเซ็ปต์ให้วุ่นวาย แต่อย่าลืมว่ายุคนี้คู่แข่งร้านชานมเยอะมาก ลูกค้ามีสิทธิเลือกซื้อร้านไหนก็ได้ ดังนั้นเราต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ร้านเราเป็นที่รู้จักและถูกใจ ซึ่งก็คือ “คอนเซ็ปต์” ของร้านที่ควรมีชัดเจน เพราะจะไปสัมพันธ์กับชื่อร้าน ที่สื่อถึงจุดขายได้ เช่น “ชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ” “ชานมไข่มุกสูตรโบราณ” เป็นต้น ข้อดีของการมี “คอนเซ็ปต์” คือทำให้เรามีแนวทางในการต่อยอดสร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์ได้ง่ายขึ้น

6.เมนูเครื่องดื่มมีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไร?

3

เมื่อมีคอนเซ็ปต์ เราต้องรู้ว่าในร้านเราจะขายเมนูอะไรบ้าง การมีเมนูให้เลือกหลากหลายก็ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น แต่ก็ทำให้เรามีความยุ่งยากในการจัดเตรียมวัตถุดิบมากขึ้นเช่นกัน สิ่งที่เราต้องโฟกัสคือหาเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านชนิดที่พูดถึงคนรู้จักทันที และเมื่อมีเมนูเด่นก็จะทำให้ลูกค้าสนใจเมนูอื่นเพิ่มมากขึ้น และที่ต้องไม่ลืมคือการพัฒนาเมนูใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่จำเจและสร้างสีสันได้ตลอดเวลา

7.กลุ่มลูกค้าหลักที่ต้องการขายสินค้าคือใคร?

4

ก่อนเปิดร้านต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักของร้านชานมไข่มุกเราคือใคร เพื่อให้จัดรูปแบบร้าน พัฒนาเมนูให้สอดคล้อง โดยทั่วไปลูกค้าชานมไข่มุกมี 3 กลุ่มหลักคือ

  • กลุ่ม Mass ลูกค้าทั่วไป ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 19 – 40 บาท
  • กลุ่ม Medium ลูกค้าที่พอจะมีกำลังซื้อ ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 40 – 70 บาท
  • กลุ่ม Premium เน้นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 70 – 200 บาท

การโฟกันกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนทำให้เราร้านดูว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสามารถทำการตลาดได้ง่าย

8.ทำเลเปิดร้านอยู่ที่ไหน?

5

สิ่งที่ต้องตอบคำถามให้ได้คือ “เราจะเปิดร้านที่ไหน” การเลือกทำเลมีผลต่อการขายแน่นอน ยิ่งเลือกกลุ่มลูกค้าของร้านได้แล้วก็ต้องเลือกทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าของเราอยู่เยอะ เช่นกลุ่ม Mass ลูกค้าทั่วไปทำเลก็ควรอยู่หน้าโรงเรียน โรงงาน ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือ กลุ่ม Medium ก็อาจเป็นทำเลคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ หรือถ้าเน้นแบบพรีเมี่ยมก็ควรเป็นทำเลห้างสรรพสินค้า เป็นต้น หรือบางคนต้องการลงทุนแบบใช้ทำเลหน้าบ้านตัวเองก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าหน้าบ้านเราจะเน้นขายให้ใคร มีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน จะได้โฟกัสเรื่องการลงทุนได้ง่ายขึ้น

9.มีเงินสำหรับการลงทุนแค่ไหน?

1

เพราะบางครั้งการเปิดร้านแม้จะขนาดเล็กก็ต้องมีเงินทุนเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 5,000 – 10,000 บาท เงินทุนที่จะใช้เปิดร้านชาไข่มุกหลักๆ แล้ว เป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าอุปกรณ์จัดร้านที่รวมถึงอุปกรณ์ทำเครื่องดื่มและวัตถุดิบต่างๆ ค่าแรงพนักงาน (ถ้าไม่ได้ขายเอง) และค่าการตลาด ซึ่งเงินทุนจะมากน้อยเพียงใดนั้นผันแปรไปตามขนาดของธุรกิจ เช่น การเช่าพื้นที่เล็กๆ หน้าโรงเรียน ใช้อุปกรณ์มือสอง หาซื้อวัตถุดิบได้ในราคาถูก และชงขายเอง โดยไม่ได้จ้างพนักงาน ต้นทุนของก็จะน้อยกว่าการไปเช่าพื่นที่ในห้างใหญ่และจ้างพนักงานทำงาน เป็นต้น

10.อยากลงทุนเอง หรือต้องการลงทุนระบบแฟรนไชส์?

10

ในยุคนี้มีการลงทุนแฟรนไชส์ให้เลือกเริ่มต้นได้ทันที มีหลายแฟรนไชส์น่าสนใจเช่น ชาฟูมิโกะ , แอม ที , ดาคาซี่ , ชีกกี้ มังกี้ คาเฟ่ , ฮ็อป ชาเฟ่ , โอชายะ สตาร์อัพ , ชาไข่มุก ไอ-ฉะ , โมโม่ฉะ ชานมไข่มุกไต้หวัน เป็นต้น ข้อดีของการลงทุนแฟรนไชส์คือมีแพคเกจลงทุนให้เลือก มีทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษา มีการสอนเทคนิคเปิดร้าน การสนับสนุนวัตถุดิบอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน สามารถต่อยอดสร้างรายได้ทันที ในกรณีที่ต้องการลงทุนเองมีข้อดีคือสามารถสร้างจุดเด่น เอกลักษณ์สินค้าได้ตามต้องการ และในอนาคตมีโอกาสต่อยอดพัฒนาให้เป็นระบบแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ของตัวเองได้

11.มีรูปแบบร้านและการจัดแต่งร้านแบบไหน?

13

การกำหนดรูปแบบร้านที่ชัดเจนทำให้เรารู้ได้ว่าในร้านจะมีการจัดวางอุปกรณ์แบบไหนอย่างไร เช่นกาน้ำร้อน หม้อต้มไข่มุก ชั้นวางแก้ว เครื่องซีลฝา เป็นต้น ถ้าหากเราไม่กำหนดรูปแบบร้านที่ชัดเจนว่าจะเป็นรูปแบบไหน สไตล์ไหน ขนาดร้านเล็กหรือใหญ่ จะทำให้เราเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมได้ยาก เมื่อร้านมีการจัดวางไม่เป็นระเบียบทำให้การหยิบจับใช้เครื่องมือก็ทำได้ยาก และอาจเป็นปัญหาในระหว่างการเปิดร้านหรือเมื่อมีออร์เดอร์มาก ๆ จะทำให้ร้านยุ่งและวุ่นวายได้

12.จัดหาวัตถุดิบและอุปกรณ์จากที่ไหน?

11

ถ้าคิดจะเปิดร้านในกรณีที่ไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์เราก็ต้องรู้ว่าแหล่งวัตถุดิบนั้นอยู่ที่ไหน ที่สำคัญต้องคุณภาพดีและมีราคาเหมาะสมกับเรามากที่สุด วัตถุดิบหลักๆ เช่น ผงชา ไข่มุก ผงผลไม้ นม เป็นต้น การมีแหล่งวัตถุดิบที่ชัดเจนทำให้เราควบคุมคุณภาพสินค้าได้ตามต้องการและควบคุมต้นทุนของร้านได้ดีกว่า รวมถึงอุปกรณ์ภายในร้านก็ควรมีแหล่งจำหน่ายที่ทำให้เราซื้อได้ง่ายๆ หรือสั่งแล้วได้ในทันที มีผลอย่างยิ่งต่อการขายสินค้ายิ่งเป็นร้านใหญ่มีลูกค้ามากแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ยิ่งต้องชัดเจนเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไม่มีสะดุด

13.เข้าใจเรื่องการโปรโมทร้านและกลยุทธ์การตลาด ดีพอไหม?

14

สมัยนี้ถ้าคิดจะเปิดร้านแต่ไม่รู้จักวิธีโปรโมทและการทำตลาดโอกาสอยู่รอดนั้นยากมาก โดยเฉพาะการใช้โซเชี่ยลที่มีผลกับการสร้างแบรนด์ สิ่งที่ควรรู้คือการทำตลาดผ่าน Facebook , LINE , Instagram รวมถึงการใช้บริการแอพเดลิเวอรี่ต่างๆ ที่ล้วนแต่มีผลต่อการสร้างยอดขาย และเป็นช่องทางในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

14.จะขายเองหรือว่าจ้างพนักงาน?

15

บางทีก็เป็นเรื่องต้องตัดสินใจว่าร้านชานมไข่มุกของเราอยากจะทำเอง หรือจ้างพนักงานช่วยขาย ถ้าเลือกขายเองก็หมายความว่าเราต้องมีเวลามากพอที่จะบริหารจัดการเองได้ทั้งหมด เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ แต่ถ้าเลือกจ้างพนักงานขายก็เหมาะกับคนที่อาจต้องการสร้างรายได้เพิ่ม แต่การเลือกพนักงานมาช่วยขายก็ต้องให้ไว้ใจที่จะฝากร้านให้ดูแลได้ ข้อดีของการทำเองขายเองคือการใส่ใจกับลูกค้าดูแลลูกค้าควบคุมคุณภาพได้เต็มที่ แต่หากจ้างพนักงานขายถ้าได้ลูกจ้างที่เอาใจใส่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากในการเปิดร้าน

15.มีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉินอย่างไรบ้าง?

12

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงแม้เราจะมีแผนการตลาดอย่างดี สำรวจข้อมูลก่อนเปิดร้าน มั่นใจในสินค้าและบริการอย่างมาก แต่เมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจย่อมต้องมีปัญหาตามมาเช่นการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ , กำลังการซื้อที่ลดลง , การตัดราคา , การถูกโจมตีจากคู่แข่ง รวมถึงปัญหาอื่น ๆ อีกมากสิ่งเหล่านี้ควรต้องมีแผนสำรองเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นการคิดและเตรียมแผนเผื่อไว้ล่วงหน้าในกรณีที่เกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

คำถามเหล่านี้ล้วนแต่สำคัญและจำเป็น คนอยากเปิดร้านชานมไข่มุกควรมีคำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ และไม่ใช่แค่นั้นการลงทุนเปิดร้านก็ควรมีวิสัยทัศน์มีมุมมองการตลาด มีแนวคิดในการต่อยอดที่ดี เพราะทุกการลงทุนมาคู่กับความเสี่ยง จะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็อยู่ที่แผนดำเนินธุรกิจที่เราควรชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น

สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านค้าขาย , ร้านค้าขนาดเล็ก, SMEs, แฟรนไชส์” และสนใจเช่าพื้นที่ “หน้าโลตัส/ Lotus’s” ทั่วประเทศ
คลิก https://forms.gle/V4r1VYTWVU8zdEsWA

หรือธุรกิจใดต้องการสร้างระบบภายในร้าน สามารถใช้บริการ FoodStory
คลิก https://forms.gle/NXsbPMRY9UfitLNM9


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3SolzsK , https://bit.ly/3DV4DGe , https://bit.ly/3SfSZKl , https://bit.ly/3BN2f1F

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3BR9Zzs

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด