13 เทคนิคสำหรับการตลาดขายดี ที่เหนือกว่าลดแลกแจกแถม

ถ้าพูดถึงเทคนิคการตลาดก็ต้องนึกถึงวิธีลดแลกแจกแถมซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใครไม่มีธุรกิจตัวเองก็ยังรู้จักดี ทั้งนี้ในมุมของคนทำธุรกิจก็ควรรู้จักให้ลึกไปอีกว่าที่จริงแล้วคำว่า Marketing promotion กับ Sales promotion ที่จริงแล้วมันต่างกัน

นิยาม Marketing คือกระบวนการให้ผู้บริโภคต้องการใช้สินค้า ส่วน Sales ตรงๆง่ายๆก็คือการขายนั่นเอง ซึ่งกระบวนการก่อนขายสินค้าจึงควรสร้างแรงกระตุ้นให้คนอยากใช้ด้วย Marketing ก่อนจบที่การ Sales ซึ่งในกระบวนการ Marketing Promotion อันมีเรื่องของการลดแลกแจกแถมเป็นวิธีการสร้างแรงจูงใจที่สำคัญ

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า Sale Promotion ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบของ Marketing Promotion มีอะไรที่มากกว่าลดแลกแจกแถม ซึ่งบางทีเราอาจเอาเทคนิคย่อยๆเหล่านี้ไปลองใช้ในธุรกิจเราดูบ้างก็ได้

1.ผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง(Samples)

13

อาจจะมองว่าเป็นการแจกแต่ประสิทธิภาพนั้นเหนือกว่าแน่ เพราะนี่คือการสร้างตราประทับให้คนรู้จัก และคุ้นเคยกับสินค้า ใช้ได้ดีอย่างยิ่งหากเป็นสินค้าใหม่ หรือแบรนด์ที่คนยังไม่เคยเห็นมาก่อน การที่จะไปโฆษณาสรรพคุณต่างๆ ไม่ดีเท่ากับลองทำสินค้าตัวอย่างแล้วส่งให้ผู้บริโภคโดยตรงเช่นทางไปรษณีย์ , ในออฟฟิศ ,หรือผูกติดไปกับผลิตภัณฑ์อื่น วิธีนี้แม้จะมีต้นทุนที่สูงอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่มักได้ผลตอบรับที่ดีตามมา

2.Coupons

Coupons

ถ้าผลิตภัณฑ์ตัวอย่างคือการแจก Coupons ก็คือการลดแต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเช่นกัน ยิ่งในยุคการตลาดออนไลน์แบบนี้เราสามารถแจกคูปองแบบดิจิทัลให้คนทั่วไปได้ง่ายขึ้น การที่มีสมาร์ทโฟนและสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้เป็นผลดีต่อกลยุทธ์นี้มาก เชื่อว่าเมื่อลูกค้ามีคูปองในมือก็ต้องอยากใช้ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ทำให้เรามียอดขายที่มากขึ้นได้

3.เงินคืน(Cash refund offers)

เงินคืน

ส่วนใหญ่มักเป็นการทำงานร่วมกับบัตรเครดิตที่ส่งเสริมการตลาดให้คนรู้สึกว่าใช้จ่ายน้อยลงแต่ได้สินค้าในปริมาณเท่าเดิม เป็นจิตวิทยาการขายอีกรูปแบบหนึ่งที่ร้านค้าปลีกจะส่งหลักฐานการซื้อไปให้ผู้ผลิตและมีการจ่ายเงินคืนตามแต่เงื่อนไขที่กำหนด

4.การขายควบคู่ (Price packs or cents-off deals)

511

หรือจะเรียกว่าขายพ่วงก็ได้ใช้ได้ทั้งสินค้าที่เป็นอาหาร เสื้อผ้า สินค้าอุปโภคต่างๆ หลักการก็คือซื้อสินค้าชิ้นแรกสามารถแลกซื้อชิ้นที่สองในราคาที่ถูกกว่า หรือบางทีซื้อสินค้าในราคาชิ้นเดียวแต่ได้สินค้าอีกชิ้น เช่นซื้อยาสีฟันแถมแปรงสีฟัน ซื้ออาหารแถมกล่องใส่อาหาร เป็นต้น

5.ของแถม(gifts)

ของแถม

การตลาดแบบนี้ง่ายมากแต่ได้ผลมากเหมือนกันหลายคนอยากซื้อเพราะต้องการของแถม ยิ่งบางทีเอาของแถมดีๆ มาล่อตาล่อใจ ก็ทำให้เกิดการซื้อขายได้ง่ายขึ้น เช่นซื้อแพคเกจท่องเที่ยวแถมกระเป๋าเดินทางฟรี เป็นต้น

6.โปรแกรมเพิ่มความถี่ (Frequency Program)

ถ้าพูดชื่อนี้ไม่คุ้นหูแน่แต่ถ้าบอกว่าเป็นวิธีเดียวกับแสตมป์เซเว่น หรือโลตัส เข้าใจทันที นั้นคือยิ่งมาซื้อมากยิ่งได้สแตมป์มากและมีโอกาสเอาสแตมป์มาแลกของพรีเมี่ยม บางคนถึงกับทุ่มเทซื้อสินค้าเพราะอยากได้ของรางวัลต่างๆ

7.การให้รางวัล

การให้รางวัล

อาจเรียกว่าเป็นกิจกรรมชิงโชคที่มักจะเป็นแคมเปญล่อตาล่อใจส่วนใหญ่มักมีรางวัลเป็นรถยนต์ ทองคำ การท่องเที่ยว ยิ่งส่งมากยิ่งมีลุ้นมาก ถ้ายังนึกไม่ออกเครื่องดื่มชาเขียวน่าจะเป็นตัวอย่างเรื่องนี้ดีที่สุด

8. รางวัลสนับสนุน (Patronage rewards)

มักจะเป็นการร่วมมือกันของ2ธุรกิจที่ทำการตลาดร่วมกันโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นค่ายมือถือเช่น Dtacreward หรือแต้มสะสมของ AIS ที่สามารถนำแต้มไปแลกใช้สิทธิ์กับร้านค้าที่ร่วมรายการได้

9. ทดลองใช้ฟรี (Free Trial)

ทดลองใช้ฟรี

สินค้าใช้ฟรีแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ตัวอย่างการใช้ฟรีอาจเป็นสินค้าขนาดปกติ หรือธุรกิจที่เน้นบริการเช่นฟิตเนส สปา ที่มักจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองเข้ามาใช้บริการฟรีในช่วงแรก ซึ่งหากเกิดความประทับใจก็มีโอกาสเป็นลูกค้าในอนาคต

10.รับประกันสินค้า

อีกหนึ่งรูปแบบของการส่งเสริมการขายที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและกล้าซื้อสินค้ามากขึ้น โดยการรับประกันมักจะมีกำหนดเวลาตั้งแต่ซื้อเป็นต้นไป โดยส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง การมีรับประกันก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

11.การส่งเสริมการขายร่วมกัน

การส่งเสริมการขาย

โดยเป็นสินค้า 2 ผลิตภัณฑ์หรือ 2 บริษัททำการส่งเสริมการขายร่วมกัน เช่น ลูกค้า GARMIN เพียงแค่โชว์นาฬิกา GARMIN พร้อม Serial No.ที่ชอป GARMIN ทุกสาขา จะได้รับคูปองส่วนลด 42 บาท สำหรับชุดรีฟิล ในร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นต้น

12.ส่งเสริมการขายข้ามสินค้า

ใช้สินค้าชนิดหนึ่งช่วยโฆษณาสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ได้แข่งขันกัน ถ้ามองไม่เห็นภาพให้นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างโค้กซึ่งเป็นเครื่องดื่มและธุรกิจภาพยนตร์อย่าง SF cinema ที่มักใช้การส่งเสริมการขายข้ามสินค้าที่มีธีมแห่งความสุขเป็นพื้นฐานสำคัญ

13. การส่งเสริมการตลาด ณ จุดซื้อ

514

ถ้าใครเคยไปห้างและเคยเห็นบริษัทของเล่นที่มักจะมีโชว์ของเล่นต่างๆ ให้คนได้เห็นพร้อมเรียกความสนใจด้วยการขายในราคาที่ถูก ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมการขายในจุดซื้อที่ทำให้คนมีโอกาสใช้สินค้าได้มากขึ้น หรือในบางกรณีที่เป็นการแสดงสินค้าอื่นๆ เช่น สินค้าอย่างกะทะที่ใช้การแสดงวิธีทำอาหาร , หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่โชว์ประสิทธิภาพของสินค้าให้เห็น เป็นต้น

ซึ่งการส่งเสริมการขายที่แท้จริงขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้วิธีไหนเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจตัวเองโดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและกลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญ และหากจะให้ดีควรใส่ไอเดียร่วมด้วยในการตลาดจะทำให้การส่งเสริมการขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด