“101 The Third Place” สุดยอดทำเลในยุคใหม่! กับ 10 ดีไซน์ยุคดิจิตอล

ทำเลในแนวรถไฟฟ้า ปัจจุบันมีการแข่งขันสูง บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้พัฒนาพื้นที่ให้มีความโดดเด่นและแปลกแหวกแนวเพื่อดึงดูดลูกค้าและผู้ลงทุน และ 101 The Third Place ก็ถือเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ย่านสุขุมวิท 101 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี

ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 101 The Third Place แห่งนี้มีพื้นที่กว่า40,000 ตร.ม. ภายในโครงการ True Digital Park ของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC

ทำเลในแนวรถไฟฟ้า

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY,  goo.gl/dqsQtY

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าไลฟ์สไตล์คอมเพล็กแห่งนี้มีกลิ่นอายของความเป็นยุคใหม่ ไม่ใช่แค่พื้นที่ค้าขายแบบมีลานกิจกรรม มีสถาปัตยกรรม แต่ที่นี่มีการออกแบบดีไซน์ที่ก้าวล้ำนำหน้าเป็นคอมเพล็กที่ก้าวล้ำนำยุคแตกต่างกว่าที่เคยมีมา ก่อนจะไปถึงจุดนั้นลองมาดูข้อมูลเบื้องต้นของโครงการแห่งนี้ว่าดีและเหมาะกับการค้าขายแค่ไหน

สุดยอดทำเลที่ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการ 40,000-50,000 คนต่อวัน

j12

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

ภายในโครงการ101 The Third Place มีร้านค้า ร้านอาหารเช่าแล้ว 90% มีร้านค้าเปิดให้บริการแล้ว 80% ส่วนที่เหลือจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม อัตราค่าเช่าในโครงการอยู่ที่ 1,200-2,000 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน โดยที่สัญญาการเช่าพื้นที่ของลูกค้ามีทั้งสัญญาระยะสั้น และระยะยาว

โดยตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 40,000-50,000 คนต่อวัน ใช้จุดขายสำคัญคือมีร้านค้า ร้านอาหาร 18 ร้าน ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงรองรับจำนวนผู้อยู่อาศัยในโครงการ 101 ซึ่งมีทั้งอาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม จำนวน 2,000 ยูนิต มีผู้อยู่อาศัยกว่า 5,000 คน

นอกจากนี้ 101 The Third Place จะรองรับกำลังซื้อจากประชากรในพื้นที่รัศมี 3-5 กม. กว่า 3-4 ล้านคน ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่าชาติพักอาศัย ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติในย่านนี้ ได้แก่ อังกฤษ, สหรัฐฯ, จีน และเกาหลี เป็นต้น

10 ดีไซน์ไม่เหมือนใครการันตีความเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กยุคใหม่

j11

ภาพจาก goo.gl/images/3zzEHV

โครงการนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีความสุขในรูปแบบ Smart City ผสมผสานทั้งเรื่องของ Digital, Green Space และ Life Style เข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นแนวคิดแบบ Green & Digital Lifestyle Third Place ที่มี 10 จุดดีไซน์ใหม่ที่แปลกแหวกแนวมาก

1.พื้นอัจฉริยะ Pavegen

j10

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

จากทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเข้าสู่ตัวโครงการ บริเวณทางเข้าเราจะได้พบกับพื้นที่เรียกว่า Pavegen เป็นระบบเทคโนโลยีสร้างพลังงานไฟฟ้า ที่เกิดจากน้ำหนักของแรงเหยียบลงบนพื้น ซึ่งแรงกดลงบนพื้นจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า และถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่รถยนต์

ซึ่งทาง Toyota เอาแบตเตอรี่ที่ไม่ได้ใช้งานของรถยนต์ Hybrid แล้ว นำเอากลับมาใช้ใหม่ พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ก็จะนำเอาไปใช้ภายในโครงการ เพื่อส่องสว่างในช่วงเวลากลางคืน หรือเอาไปชาร์จโทรศัพท์ก็ได้ ทุกคนที่เดินเข้าโครงการและเหยียบพื้น Pavegen มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ได้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น

2.Solar Cell ใช้งานได้จริง

j9

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

ระบบ Solar Cell ของโครงการจะถูกติดตั้งไว้บนหลังคา สามารถผลิตไฟฟ้าและสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ถึง 245,000 kWh/yr ฟฟ้าที่ได้ก็เอาไปใช้ในเรื่องของระบบไฟส่องสว่างในโครงการ ถือได้ว่าเป็นการนำเอาของเหลือใช้กลับมาสร้างประโยชน์ใหม่อีกครั้ง และยังนำเอาพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อีกด้วย

3.ออกแบบหลังคาให้ลดความร้อนได้ 3-5%

j8

ภาพจาก goo.gl/images/g5qH8V

นอกจากหลังคาจะมี Solar Cell ยังมีการออกแบบ Big Roof หรือหลังคาขนาดใหญ่ที่ใช้วัสดุ Ethylene Tetrafluoroethylene (ETFE) ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตจากพลาสติก มีคุณสมบัติโปร่งแสง น้ำหนักเบา สามารถกันรังสียูวีได้ จึงทำให้ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์เข้าตัวอาคารได้ถึง 3-5%

4.เปลี่ยนวัสดุที่เหลือจากการก่อสร้างกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ใหม่

j7

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

ในการก่อสร้างจะมีวัสดุเหลือใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นเศษเหล็ก พีวีซี การนำวัสดุเหล่านี้ไปทิ้งก็จะไร้ประโยชน์ทางโครงการจึงได้ร่วมมือกับ Echolab ดีไซน์สตูดิโอที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยแนวคิด Circular Design ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานได้จริง ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ จากวัสดุเหลือใช้ และยังมีการนำเอาคอนกรีตเหลือใช้มาทำเป็นของตกแต่งผนังอาคารซึ่งทำให้เกิดความสวยงามอีกด้วย

5.ติดตั้งตู้รับขวดพลาสติก ให้ลูกค้าเอาคะแนนไปเป็นส่วนลดใช้ได้

j6

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

ทางโครงการได้จัดทำกระบวนการ Recycle นับตั้งแต่การติดตั้ง ตู้รับขวดพลาสติก (Reverse Vending Machine) โดยใช้เทคโนโลยีบีบ-อัดขวดให้มีขนาดเล็กลง โดยลูกค้าที่นำเอาขวดมา Recycle จะได้รับคะแนนเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลดกับร้านค้าต่างๆ ภายในโครงการ หรือจะบริจาคคะแนนให้กับหน่วยงานการกุศลต่อไปก็ได้เช่นกัน

6.พื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตร

j5

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

แม้จะเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กขนาดใหญ่ที่มีแนวคิดสู่โลกดิจิทัลแต่ก็ไม่ละเลยเรื่องพื้นที่สีเขียวโครงการจึงได้จัดทำสวนขนาดใหญ่ พร้อมสนามหญ้าซึ่งสามารถปรับพื้นที่เป็นลานกิจกรรมสันทนาการได้พื้นที่สีเขียวของโครงการ 101 The Third Place มีมากถึง 32% ทั้งพื้นที่ภายในอาคารและภายนอกอาคารรวมกว่า 5,000 ตารางเมตร ที่สอดแทรกอยู่ทั่วคอมเพล็กซ์

7.มีช่องจอดรถแบบ Eco Car และจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

j3

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

นอกจากเดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใครที่ต้องการมาที่โครงการด้วย Eco Car ที่นี่ได้จัดพื้นที่พิเศษสำหรับ Eco Car ไว้ 60 ช่อง รวมถึงคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทางโครงการก็มีจุดบริการชาร์ตไฟให้กับผู้มาใช้บริการอีก 18 จุด

8.มีระบบ Smart Facility

ทางโครงการนำเอาระบบ Smart Facility มาใช้กับการจัดการดูแลอาคารเพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย เช่น ใช้ Application สั่งงาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหรือปิดระบบไฟ การบริหารด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการดูกล้องวงจรปิดผ่าน Application ทำให้เจ้าหน้าที่ดูแลอาคารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสั่งการได้แค่ปลายนิ้ว

9.เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าด้วย One-O-One APP

j2

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

ทางโครงการต้องการเติมเต็มการบริการในทุกมิติให้ครบตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่จึงได้พัฒนา “One-O-One APP” แอปพลิเคชันที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถจองที่นั่ง สั่งซื้อสินค้า รับข้อมูลข่าวสาร และร่วมกิจกรรมต่างๆ ออกมาให้ลูกค้าได้ดาวน์โหลด ซึ่งลูกค้าอยากจะทำอะไรก็ได้ตามความต้องการ เพียงแค่สั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นนี้

10.พื้นที่แห่งความสุข 24 ชม.

j1

ภาพจาก goo.gl/dqsQtY

นอกจากดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบที่แตกต่าง ทางโครงการยังมีโซน Hillside Town ให้ลูกค้าเลือกรับประทานอาหารในบรรยากาศเอาท์ดอร์ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ให้ความรู้สึกอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และ โซน 24-Hour Street ที่เปิดบริการแบบ 24 ชม. ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ

สังเกตได้ว่าทำเลค้าขายยุคใหม่ ผู้ลงทุนต้องหาเอกลักษณ์ในการออกแบบและก่อสร้างให้มีความทันสมัยไม่ใช่แค่พื้นที่โล่งๆ มีลานกิจกรรมแบบที่เคยมีมา เรื่องของสถาปัตยกรรม ความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ามาจะช่วยทำให้ทำเลเกิดใหม่เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลทำเลค้าขาย ติดต่อหาพื้นที่เช่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ goo.gl/gkLS6n

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด