10 อันดับหนัง(ไทย) คนจะเป็นเศรษฐีต้องดู!

พูดถึงภาพยนตร์ส่วนใหญ่เราโฟกัสไปที่ภาพยนตร์จากต่างประเทศ ด้วยเนื้อหาและ CG ที่ดูเหมือนจะพัฒนาไปไกลกว่าเรามาก โดยเฉพาะเงินทุนในการสร้างที่หลายเรื่องคือหนังฟอร์มยักษ์ที่น่าติดตาม แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์ไทยเองก็มีพัฒนาการที่เติบโตขึ้นมาก จาก “นางสาวสุวรรณ” ที่ถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก

มาถึงภาพยนตร์เพื่อการค้าเรื่องแรกอย่าง “โชคสองชั้น” ในปี 2470 แม้จะไม่ประสบความสำเร็จนักแต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก

จากอดีตถึงปัจจุบันมีภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายมากมาย หลากเรื่องหลายอารมณ์คละเคล้ากันไปส่วนใหญ่จะเน้นความตลก ความรัก แอคชั่น ที่ดูจะเป็นจุดขายได้ดีที่สุด

แต่ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ามีอีกหนึ่งแนวภาพยนตร์ที่ฮอตฮิต คือภาพยนตร์ แนวดราม่า สู้ชีวิต พลิก สร้างจากชีวิตจริงของใครบางคน ซึ่งหนังประเภทนี้บอกตรงๆ ว่าหาดูได้ยากถือเป็นแนวหนังที่ใครอยากเป็นเศรษฐีต้องลองดู เพราะมีเนื้อหาสอดแทรกเรื่องการหาเงินที่น่าสนใจมาก

1. ท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน (พ.ศ. 2554)

อันดับหนัง

ภาพยนตร์แรงบันดาลใจวัยรุ่นจากค่ายหนังอารมณ์ดี GTH ที่ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของ ต๊อบ อิทธิพัฒน์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจสาหร่าย เถ้าแก่น้อย มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยนำเสนอชีวิตช่วงมัธยมปลายก้าวสู่นักศึกษามหาวิทยาลัย

จุดเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจก่อนก้าวขึ้นเป็นวัยรุ่นพันล้าน ด้วยความมุ่งมั่น จริงจัง ไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ ในทุกวิกฤติทุกปัญหาที่ถั่งโถมเข้าใส่ชีวิต ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้เป็นแบบอย่างสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดีภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้วัยรุ่นหลายคนฮึกเหิม อยากหาธุรกิจทำให้สำเร็จเหมือนในหนัง ไม่น่าแปลกใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกวาดรายได้ไปกว่า 38 ล้านบาท

2. App War แอปชนแอป (พ.ศ.2561)

a11

ในระยะหลังหนังแนวธุรกิจ แนวสู้ชีวิตดูจะห่างๆ ไป ก็มี App War แอปชนแอป ของค่าย ที โมเม้นต์ที่เข้าฉายเมื่อปี 2561 ที่ดูแล้วเนื้อหาเข้ากับชีวิตคนยุคใหม่ที่เนื้อหาคือการต่อสู้กันระหว่าง Start up รุ่นใหม่ 2 คนที่ทำ App คล้ายๆกัน จนบริษัทที่ทั้งคู่ต้องการระดมทุนให้โอกาสทั้ง 2 คนไปพัฒนา Appของตัวเองให้เป็นที่น่าสนใจและเอามานำเสนอในการประกวดรอบสุดท้าย

สิ่งที่หนังสื่อออกมาคือ แนวทางของ Start up ที่เป็นความต้องการของคนยุคใหม่และการก้าวข้ามความลำบากกว่าจะถึงเป้าหมายไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ ต้องมีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างที่เราต้องฝ่าฝัน ถือเป็นภาพยนตร์ที่คนอยากเป็น Start up ควรศึกษาไว้

3. Coffee Please แก้วนี้หัวใจสั่น (พ.ศ.2556)

a10

ใครที่อยากมีร้านกาแฟของตัวเองคิดว่าควรจะหาภาพยนตร์เรื่องนี้มาดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ เนื้อหาเริ่มต้นจาก ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความฝันจะเป็นบาริสต้าเขาเดินทางที่เชียงรายเพื่อตามหาเมล็ดกาแฟชั้นยอด หนังเรื่องนี้พยายามบอกให้เรารู้ว่าระหว่างคนชงกาแฟกับเบาริสต้านั้นแตกต่างกันอย่างไร

และหนังยังมีสะท้อนให้เห็นถึงก้าวย่างของการเปิดร้านกาแฟจากร้านธรรมดาให้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ซึ่งในเรื่องคือการที่ร้านกาแฟใหม่ๆ จะต้องสู้กับร้านกาแฟที่เป็นถึงอดีตแชมป์ ถือเป็นหนังFeel Good สำหรับคนอยากมีร้านกาแฟที่จะได้แง่มุมที่น่าสนใจจากหนังเรื่องนี้มาก

4. พริกแกง (พ.ศ. 2559)

a9

สำหรับคนที่อยากเปิดร้านอาหารไทยเพราะเชื่อว่าเมนูแบบไทยๆ คือเอกลักษณ์ที่ชาวต่างชาติต้องการ ก่อนจะเปิดร้านอาหารไทยควรหาเวลามาดูหนังเรื่อง “พริกแกง” นี้ที่สะท้อนแง่มุมของคนที่รักและหวงแหนในเมนูอาหารไทยชนิดที่ไม่ยอมให้ใครมาบิดพลิ้วสูตรอาหารให้ต่างไปจากเดิม

เป็นแง่คิดที่จะสื่อให้คนดูเข้าใจว่าการสร้างร้านอาหารที่มีจุดเด่นมีเอกลักษณ์แท้ที่จริงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องสู้กับระบบความคิดของใครหลายคน การสร้างโอกาสให้คนยอมรับ ซึ่งในธุรกิจร้านอาหารมีหลายเทคนิคที่ควรนำมาใช้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ

5. Super Salaryman ยอดมนุษย์เงินเดือน (พ.ศ.2555)

a8

ใครที่เป็น “มนุษย์เงินเดือน” เชื่อว่า Super Salaryman ยอดมนุษย์เงินเดือน จะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะทำให้คนดูรู้สึกว่า “นี่มันตัวเราชัดๆ” เรื่องนี้สะท้อนมุมมองชัดเจนว่ามนุษย์เงินเดือนคือคนที่มี เงินเต็มกระเป๋า ตอนต้นเดือน แต่ใช้ได้ ไม่ถึง ครึ่งเดือน ก็เกิดอาการ กระเป๋าแฟบ เจอเพื่อนร่วมงาน มากกว่าคนรัก ทำงานหนัก เพื่อแย่งกัน ไปเที่ยว ต่างจังหวัด ในช่วงวันหยุดยาว (Long Weekend) เซ็งกับ ตรรกะล่มสลาย ของเจ้านาย แต่ก็ต้อง จำยอม ปฏิบัติตาม

เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เป็นกำลังใจ และแนวคิดของมนุษย์เงินเดือนที่ตัวหนังพยายามสะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางนอกกรอบเพื่อก้าวหลุดพ้นจากคำว่า “มนุษย์เงินเดือน”

6. มหา’ลัยเหมืองแร่ (พ.ศ. 2548)

a7

หนังบอกเล่าชีวิตจริงของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” อดีตนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ถูกรีไทร์ออกจากการเป็นนักศึกษาตอนปี 2 เขาเดินทางไปภาคใต้ อาศัยรถขนหมูจากภูเก็ต

มุ่งหน้าไปทำงานที่เหมืองกระโสม ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา หลังจากได้พบและสัมภาษณ์งานกับ นายฝรั่ง (Anthony Howard Gould) เขาได้ฝึกงาน ติดตามนายฝรั่ง และทำงานใช้แรงงานแทนคนงานของเรือขุดสายแร่ดีบุก

ที่นี่ทำให้อาจินต์ได้บทเรียนที่ไม่อาจหาได้จากตำราเรียนเล่มไหน ทั้งการทำงานให้เป็น การต่อสู้กับชีวิตที่ไม่สะดวกสบาย
การปรับตัวให้เข้าผู้คนที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรม ที่นี่แหละคือ มหา’ลัยในชีวิตจริงๆ สะท้อนแนวคิดให้กับนักเรียนนักศึกษาที่อยากจะรวยและประสบความสำเร็จต้องมีสิ่งที่มากกว่า “ความรู้ในตำรา”

7.ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (พ.ศ.2558)

a6

ภาพยนตร์คุณภาพจากค่าย GTH ที่กวาดรายได้ไปกว่า 86.07 ล้านบาท เนื้อหาของเรื่องพูดถึง “ฟรีแลนด์” ที่เป็นแนวทางการสร้างรายได้ของคนยุคใหม่ หลายคนอยากหาเงินจากการเป็น “ฟรีแลนด์” ด้วยเชื่อว่าฉันทำได้ ฉันมีความสามารถมากพอ แต่ในเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นว่า “ฟรีแลนด์” ที่แท้จริงนั้นไม่ได้สวยหรู

การเป็นฟรีแลนด์ก็คือคนที่ไม่ได้ทำงานในระบบออฟฟิศ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอนุญาตให้พัก ให้ขี้เกียจ ให้นอนตื่นสาย ตรงกันข้าม คนจะเป็นฟรีแลนด์ต้องมีความรับผิดชอบและมีการจัดระเบียบการใช้ชีวิตตัวเองยิ่งกว่าพนักงานประจำ สื่อให้คนรุ่นใหม่มองเห็นมาไม่มีอาชีพไหนที่สบายและรายได้ดีแบบไม่ต้องทำงานหนัก

8. ครูจันทร์แรม ประทีปแห่งลุ่มแม่น้ำแม่สาย (พ.ศ. 2535)

a5

ภาพยนตร์ในอดีตอย่างครูจันทร์แรม ที่สะท้อนชีวิตจริงของครูจันทร์แรม ศิริคำฟู ครูสาวบนดอยสูง ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ที่อุทิศทั้งชีวิตให้นักเรียนยากจนและชาวเขาที่ไม่รู้หนังสือ ทั้งที่เธอเองจบการศึกษาเพียงชั้น ป.4 รวมถึงแนวคิดในการเปลี่ยนค่านิยมของพ่อแม่ชาวเขาที่มักจะส่งลูกไปทำงานในกรุงเทพฯมากกว่าส่งไปเรียน

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาถึงการยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิด และดำเนินการในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ แม้จะเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ต้องสู้กับระบบความคิดคนอื่นที่คิดไม่เหมือน และมีปัญหานานาประการ แต่สุดท้ายการยืนหยัดต่อสู้และมุ่งมั่นทุ่มเทแรงกายแรงใจใส่ลงในงานที่ทำผลที่ได้คือการยอมรับจากคนทั่วไปและทำให้สิ่งที่คิดประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

9. ดาว (พ.ศ.2558)

a4

“ดาว” เป็นอีกหนึ่งหนังสั้นในคีตราชนิพนธ์ที่น่าจะสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้อย่างมาก เป็นเรื่องความฝันอันสูงสุดของเด็กน้อยที่ต้องการพิสูจน์ตนเองเพื่อให้พ่อแม่ไม่ผิดหวัง ได้ภาคภูมิใจในสิ่งที่ลูกเป็น และที่สำคัญเพื่อให้คนอื่นยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวเอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เราเห็นถึงแนวคิดที่ควรจะ มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูก ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ชัดเจนในความฝัน ยืนหยัดต่อสู้เพื่อค้นพบคุณค่าและความสามารถของตัวเอง ซึ่งเป็นเส้นทางของคนที่จะประสบความสำเร็จได้ในอนาคต

10. พุ่มพวง (พ.ศ.2554)

a3

ภาพยนตร์เรื่องราวชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งของไทย โดยภาพยนตร์นำเสนอแง่มุมการสู้ชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ตั้งแต่ตอนอยู่สุพรรณบุรี จนได้ดิบได้ดีกลายมาเป็นนักร้องในเมืองหลวง และในหนังก็มีการนำเสนอชีวประวัติเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและแฝงไปด้วยคติสอนใจหลายอย่าง

จากเด็กยากจนต้องฟันฝ่าชีวิตเข้ามาผจญเมืองหลวงมาเป็นนักร้องคาเฟ่ และดิ้นรนสู้ทนชีวิตจนกลายมาเป็นราชินีลูกทุ่ง สิ่งที่หนังถ่ายทอดคือ ความขยัน ตั้งใจ และไม่ย่อท้อต่อคำดูถูกและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงสื่อให้เห็นถึงการไล่ตามความฝันของตัวเองให้เต็มที่ อย่าเลิกล้มกลางทาง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นำพาไปสู่ความสำเร็จได้

a2

ภาพจาก bit.ly/2VUW98e

และถ้าไม่นับที่เป็นภาพยนตร์ ละครหลังข่าวอย่าง “ลอดลายมังกร” ที่สร้างเป็นบทละครออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2535 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้คนได้สู้ชีวิต

ซึ่งถือว่ามีการเดินเรื่องที่น่าสนใจหรือจะเป็นละครซีรีย์จีนอย่าง เสิ่นว่านซาน ที่มีเนื้อหาของคนสู้ชีวิตจากคนจนติดดินไม่มีอะไร พลิกชีวิตให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นมา หรือจะมองหาละครสั้นๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ

a1

ภาพจาก ภาพยนตร์สั้น นักสู้ SME (S4)

ทาง เอสเอ็มอีแบงก์ก็เคยมีแคมเปญ SME FIGHTER ซึ่งเป็นภาพยนตร์สั้น ที่เอาเรื่องราวของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาทำเป็นหนังสั้น เช่น เจ้าของแบรนด์ IREAL PLUS ที่เปลี่ยนจากเด็กติดเกมส์มาสู่นักธุรกิจเครื่องสำอางส่งออก

หรือ “ร้านขาหมูไร้มัน” แม่ประนอม ที่กว่าจะเป็นร้านชื่อดังก็ต้องแลกด้วยด้วยความขยัน อดทน และทุ่มเทเกินร้อย ซึ่งภาพยนตร์หรือหนังเหล่านี้ช่วยจุดไฟให้เราฮึกเฮิมได้ดี

แต่ส่วนใหญ่ฮึดไม่นานไฟก็มอดสุดท้ายก็ไม่ได้เอาสิ่งที่ภาพยนตร์สื่อให้เห็นมาใช้อย่างจริงจัง ความสำเร็จที่ต้องการจึงไม่ได้เกิดจากการดูภาพยนตร์ชั่วพักชั่วครู่เท่านั้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2Jf8ph8

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด