10 วิธีรวยด่วน! ด้วยรถปิคอัพ

ข้อมูลจากกรมขนส่งทางบกระบุว่ามีรถจดทะเบียนป้ายแดงในช่วงปีที่ผ่านมากว่า 38 ล้านคัน ในกลุ่มนี้มอเตอร์ไซด์มีมากที่สุดตามมาด้วยรถเก๋ง และ รถปิคอัพ แต่หากพูดถึงในแง่ประโยชน์ใช้สอย คนไทยดูจะถูกใจกับรถกระบะมากเป็นพิเศษ

สมัยนี้รถปิคอัพไม่ได้มีไว้แค่บรรทุกคนได้มากขึ้นอย่างเดียว หลายคนได้ดัดแปลงและนำเอารถปิคอัพมาใช้งานอย่างหลากหลายเพิ่มรายได้ให้ตัวเองมากขึ้น www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอา 10 วิธีรวยด้วยรถปิคอัพมาฝากเผื่อใครมีรถปิคอัพอยู่ที่บ้านจะได้นำเอาไอเดียเหล่านี้ไปใช้ได้

1.ขายอาหาร/เครื่องดื่มบนรถ Food Truck

วิธีรวยด่วน

เป็นการดัดแปลงเอารถปิคอัพไปต่อเติม ใส่หลังคา และดีไซน์พื้นที่กระบะด้านหลังให้กลายเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ เราจะเห็นรถประเภทนี้มากมาย เช่นขายขนมปัง สังขยา เครื่องดื่ม , ร้านขายชิ้นปิ้ง ลูกชิ้นทอด , ร้านขนมจีบ ซาลาเปา

หรือแม้แต่บางคนบรรทุกเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์เครื่องมือช่างมาวิ่งขายตามตรอกซอกซอยก็มี ราคาการดัดแปลงนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุที่ใช้ เฉลี่ยมีตั้งแต่ หลักหมื่นไปถึงหลักแสน แต่หลายคนมองว่าคุ้มค่า

ยกตัวอย่างพ่อค้าแม่ค้าบางคนวิ่งขายพวกเครื่องดื่ม มีขนมปัง สังขยา ร่วมด้วย สตาร์ทรถตั้งแต่เช้ากลับเข้าบ้าน 2 ทุ่ม มีกำไรหลังหักค่าน้ำมัน ค่าวัตถุดิบที่ใช้ขายเฉลี่ยวันละ 2,000 – 3,000 บาท ซึ่งถือว่าดีกว่าทำงานประจำแน่นอน แต่ใช่ว่าทุกคนที่ขายจะมีรายได้แบบนี้ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ขาย จังหวะการขายในแต่ละวัน แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีของคนมีปิคอัพ

2.บริการรับจ้างทั่วไป

a9

ภาพจาก bit.ly/2ONMHlr

สังเกตให้ดีตามริมถนนเรามักจะเห็นรถปิคอัพจอดริมทางและติดป้ายว่า “รถรับจ้าง” นี่คืออีกหนึ่งวิธีการหารายได้จากรถปิคอัพบางทีเราก็เอารถไปจอดไว้และติดต่อโทรสำหรับคนอยากติดต่อ การรับจ้างก็มีทั่วไปทั้งขนของ ย้ายบ้าน ย้ายหอ รับจ้างวิ่งงานทั่วไป

หรือรับส่งคน ราคาในการรับจ้างก็ขึ้นอยู่กับระยะทางและการตกลง โดยเฉลี่ยก็จะรับงานในราคาไม่ต่ำกว่า 500 ขึ้นไป (ในกรณีใกล้ๆ) แต่หากเป็นงานที่วิ่งไกล เช่นไปต่างจังหวัดก็อาจตกลงแยกค่าจ้างกับค่าน้ำมันออกจากกัน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการหารายได้พิเศษจากคนที่มีรถปิคอัพ

3.บริการท่องเที่ยว

a8

ภาพจาก bit.ly/2WSjEA1

จุดเด่นของรถปิคอัพคือพื้นที่ด้านหลังที่สามารถใช้โดยสารเพิ่มได้อย่างน้อย 3-4 คน รวมกับที่นั่งในกระบะอีก 1-2 คน รถปิคอัพ 1 คันสามารถจุคนได้ประมาณ6-7 คน ซึ่งการเปลี่ยนรถปิคอัพเป็นรถที่ใช้สำหรับการท่องเที่ยวต้องลงทุนใส่หลังคากันแดด ติดเบาะที่นั่ง (หรือจะใส่เป็นเบาะพื้นไม่ต้องยกสูงเหมือนรถสองแถว)

ส่วนใหญ่จะได้รับความสนใจจากคนที่อยากไปเที่ยวเป็นหมู่คณะและไม่อยากจ้างรถตู้เนื่องด้วยราคาอาจจะแพงกว่า โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์หรือเทศกาลที่คนมักกลับต่างจังหวัดการจ้างรถปิคอัพก็สามารถกลับได้หลายคนและสามารถท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ได้อีกด้วย ราคาในการจ้างก็ขึ้นอยู่กับการตกลง ส่วนใหญ่คิดตามระยะทางและไม่รวมค่าน้ำมัน

4.วินสองแถว

a7

ภาพจาก bit.ly/2OQPom1

การเข้าร่วม วินรถสองแถว ต้องไปติดต่อพูดคุยกับเจ้าของวินว่ามีรายละเอียดแบบไหนอย่างไรหากเราจะเข้าร่วมวินสองแถวด้วย ส่วนใหญ่การเข้าร่วมได้ต้องมีคนรู้จักหรือคุ้นเคยกันอยู่ การวิ่งวินรถสองแถว

แล้วเก็บค่าโดยสารเฉลี่ยคนละ 7 บาท รายได้ในแต่ละวันของวินสองแถวขึ้นอยู่กับทำเลที่วิ่งรถ หักค่าน้ำมัน ค่าวิน แล้วรายได้ต่อวันประมาณ 700-800 บาท ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอนขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมในระหว่างที่วิ่งเป็นสำคัญด้วย

5.รถแห่

a6

ภาพจาก bit.ly/2G4NwDL

ในช่วงการเลือกตั้งรถแห่หาเสียงจะเป็นธุรกิจที่ชัดเจนมาก กับการติดตั้งป้ายโฆษณาและพาผู้สมัครออกหาเสียงตามตรอกซอกซอยต่างๆ อีกทั้งรถแห่แม้ไม่ใช่ฤดูเลือกตั้ง

ก็ยังเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีการใช้บริการรถแห่ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ราคาในการจ้างรถแห่ก็ขึ้นอยู่กับการตกลง เหมาเป็นงาน หรือจ่ายเป็นรายวัน สำหรับคนที่มีรถปิคอัพและอยากสร้างรายได้ด้วยการเป็นรถแห่ก็ต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักจะได้มีลูกค้าวิ่งเข้ามาหา

6.รถพุ่มพวงขายกับข้าว

a5

ภาพจาก bit.ly/2HXGAdD

หรือจะเรียกว่ารถขายกับข้าว ในรถกับข้าวนี้มีตั้งแต่ผักสด ผลไม้ เนื้อหมู เนื้อไก่ ไส้กรอก ขนมจีน ฯลฯ เรียกว่าตลาดสดมีอะไรในรถขายกับข้าวก็มีไม่ต่างกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีการสร้างรายได้ที่น่าสนใจ แต่การเป็นรถกับข้าวต้องแลกมากับความเหนื่อยมากเป็นพิเศษ

เพราะพ่อค้าแม่ค้าต้องไปตลาดตอนเช้า แพคของเป็นถุงย่อยๆ และใส่ไว้ในรถ และการขายก็ต้องวิ่งไปตามจุดที่มีลูกค้าของตัวเองอยู่ เทคนิคสำคัญคือต้องไปให้ตรงจุดเหล่านั้นตามเวลา เพราะลูกค้าจะกะเวลาว่ารถกับข้าวจะมาเมื่อไหร่ หากเรามาบ้างไม่มาบ้างลูกค้าจะไม่จดจำและจะทำให้เราไม่มีฐานลูกค้าด้วย

7.บริการรับส่งนักเรียน

a4

ภาพจาก bit.ly/2YQnL1i

น่าจะเป็นธุรกิจที่เห็นได้ชัดตามต่างจังหวัดที่รถปิคอัพสามารถแปลงเป็นรถรับส่งนักเรียนได้ โดยรถปิคอัพ 1 คันสามารถจุเด็กได้ประมาณ 10 คน รายได้ก็มาจากการเหมาเป็นรายเดือน คนละประมาณ 200-300 บาท

หากมีเด็กใช้บริการ 10 คนต่อเดือนรายได้ประมาณ 2,000-3,000 บาท ถือว่ารายได้ค่อนข้างดีเพราะใช้เวลาทำงานแค่ตอนเช้า 6 โมง – 8 โมง และในตอนเย็นแค่ 15.00-17.00 น.เท่านั้น เวลากลางวันยังสามารถไปทำงานอย่างอื่นได้อีก

8.ตระเวนรับซื้อของเก่า

a3

ภาพจาก bit.ly/2K7NXRF

เราคงเคยเห็นรถรับซื้อของเก่าที่ส่วนใหญ่ก็เป็นรถปิคอัพทั้งสิ้นเพราะจุดเด่นของรถปิคอัพคือมีพื้นที่ในการบรรจุของได้มาก รองรับน้ำหนักได้มาก การตระเวนซื้อของเก่า ก่อนอื่นเราต้องมีแหล่งรับซื้อของเก่าที่ให้ราคาดี

แต่การรับซื้อของเก่าเราต้องแลกกับการทำงานที่เหนื่อย และต้องมีความอดทนมาก รายได้ของการรับซื้อของเก่าก็ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละวันเราจะได้สินค้ามาเป็นอะไรหากได้ของเก่าที่ขายได้ราคาดีอย่างเหล็ก ทองแดง กระป๋องอลูมิเนียม รายได้ในวันนั้นก็จะดีตามด้วย

9.ขายของตลาดนัด

a2

ภาพจาก bit.ly/2TTvdot

สังเกตได้ในตอนประมาณ 15.00 น. ตามตลาดนัดต่างๆ จะเริ่มเห็นพ่อค้าแม่ค้าขับปิคอัพขนสินค้ามาลงขายในแผงที่ตลาด ซึ่งหากเรามีรถปิคอัพ 1 คันเราสามารถตระเวนขายของตามตลาดนัดได้มากกว่า 1 ที่

เช่นตอนเช้าไปขายที่ตลาดแห่งหนึ่ง ตอนกลางวันกลับมาทำของ ตอนบ่ายขนของไปขายตลาดเย็น ทั้งนี้รายได้ก็ขึ้นอยู่กับความขยันและสินค้าที่ขาย การมีรถปิคอัพหนึ่งคันสร้างรายได้ที่ดีแน่ เพียงแต่ต้องมีความพยายามร่วมด้วย

10.เอารถเข้าร่วมกับแอพบริการขนส่งสินค้า

a1

ภาพจาก bit.ly/2VpqoF8

สมัยนี้คนมีปิคอัพมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้ทำธุรกิจได้ ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นบริการส่งของให้เลือกเข้าร่วมจำนวนมากเช่น Lalamove ที่กำหนดราคารถปิคอัพสำหรับส่งของค่าบริการเริ่มต้น 480 บาท + 16 บาท/ กม.

หรือ แอพDeliveree ที่กำหนดราคาบริการของปิคอัพ 3 กม.แรก 300 บาท และคิดเพิ่มตามระยะทางที่วิ่งเพิ่มขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของคนที่มีปิคอัพ ถ้าขยันๆ สักหน่อยไม่จนเงินใช้แน่

ปัจจุบันราคารถปิคอัพรุ่นธรรมดาทั่วไปราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 600,000 บาท แม้จะเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงแต่เมื่อคิดถึงการใช้งานที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นรถสำหรับสร้างอาชีพได้ด้วย

ราคาที่ว่านี้ก็ถือว่าน่าสนใจ บางคนลงทุนซื้อรถปิคอัพ 1 คัน ทำอาชีพเหล่านี้ด้วยสามารถใช้เป็นค่างวดผ่อนรถ และยังมีเหลือกินเหลือเก็บบ้าง การซื้อรถมาแล้วใช้วิ่งส่วนบุคคลอย่างเดียวอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีนักกับยุคนี้ที่เราควรมีรายได้จากหลายทางมากขึ้น


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2EjwnrE

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด