10 วิธีทำธุรกิจแบบ อินสตราแกรม ได้กำไรพันล้านภายในครึ่งปี

คุณรู้หรือไม่ว่า Instagram โซเชี่ยลชื่อดังที่เรารู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมืองนั้น ในสมัยที่เริ่มต้นการเป็นสตาร์ทอัพนั้น มีพนักงานเพียงแค่ 13 คน แต่อีกครึ่งปีต่อมาธุรกิจนี้สามารถทำเงินได้ถึงพันล้านเหรียญ

สุดท้าย Facebook ก็อดรนทนไม่ไหวต้องมาซื้อต่อกิจการนี้ไป คิดตัวเลขแบบง่ายๆพนักงานแค่ 13 คนเฉลี่ยแล้วทำเงินให้ Instagram คนละเกือบ 80 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

ดังนี้แล้ว www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าจุดที่น่าสนใจคือ Instagram ทำอะไรถึงสร้างรายได้หลักพันล้านภายในเวลาแค่ครึ่งปี และนี่คือ 10 ข้อคิดวิธีทำงานแบบ Instagram ที่สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ทั้งหลายควรดูเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการทำธุรกิจของตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับ Instagram

อินสตราแกรม

ภาพจาก goo.gl/ibHhBA

1.ธุรกิจที่ดีต้องรู้ว่างานที่ทำ ทำไปทำไม?

การเริ่มต้นธุรกิจต้องประกอบไปด้วยหน้าที่ของหลายฝ่ายหรือแม้แต่ทำคนเดียวก็ต้องมีงานหลายอย่างให้จับต้องแต่ไม่ว่าจะสับสนวุ่นวายแค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมจุดตั้งต้นในการทำธุรกิจว่าเราทำธุรกิจนี้มาเพื่ออะไร

เหมือนที่ Kevin Systrom ผู้ก่อตั้ง Instagram รู้ตัวเองดีว่าชอบในการถ่ายรูปโพลารอยด์และอยากให้ทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนได้ถ่ายรูปโพลารอยด์เหล่านั้นเก็บไว้

2.ธุรกิจที่ดีต้องมีมุมมองที่ “ลึก”

เช่นเดียวกับที่ Instagram ได้ทดสอบการใช้งานกับคนจำนวนมากในโทรศัพท์ iPhone และพัฒนาให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆรวมถึงการโฟกัสไปที่กระบวนการ Build-Measure-Learn ตามสไตส์การทำสตาร์ทอัพ

การทดสอบกับคนจำนวนมากนี้ทำให้เจอข้อบกพร่องได้เยอะและเร็ว จึงแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่เป็นปัญหาได้อย่างรวดเร็วผลก็คือผู้ใช้งานพึงพอใจและบอกต่อกันไป Instagram จึงเติบโตได้แบบก้าวกระโดดในเวลาแค่ครึ่งปี

j5

ภาพจาก goo.gl/14YRx4

3.เจ้าของธุรกิจต้องพัฒนาทักษะตัวเองควบคู่ไปด้วย

Kevin Systrom จากที่เคยเป็นนักการตลาดให้กับสินค้าของ Google แต่เขาก็ยังไม่หยุดหาความรู้ในการทำ Programming และฝึกฝนด้วยตัวเองแบบต่อเนื่องเพราะเขาเชื่อว่าทักษะนี้จะต้องมีประโยชน์ในการต่อยอดไอเดียตัวเอง นักธุรกิจที่ดีจะต้องไม่พึงพอใจกับสินค้าแรกๆที่มีแต่ต้องพัฒนาให้ดีต่อเนื่องไปเรื่อยๆด้วย

4.ธุรกิจที่ดีต้องเลือกใช้คนให้เกิดผลงานมากที่สุด

เป็นตัวอย่างที่ดีมาถึงยุคสมัยนี้กับธุรกิจที่ไม่ต้องมีบุคลากรมากแต่ให้เน้นคุณภาพของบุคลากรมากกว่า พนักงานของ Instagram แม้มีเพียง 13 คนแต่ทั้งหมดนั้นคือวิศวะคอมพิวเตอร์สุดเจ๋งที่ทุ่มเทการสร้างแอพพลิเคชั่นได้แบบโลกตะลึง ดีกว่าการจ้างคนมามากแต่เนื้องานไม่มีอะไรคืบหน้า

j4

ภาพจาก goo.gl/kr48Q4

5.ธุรกิจที่ดีต้องมีความคิดที่ใหญ่แต่ต้องทำสินค้าให้ใช้ง่าย

Kevin Systrom กล่าวไว้ว่า เขาต้องการสร้างเครื่องมือในการเข้าสังคมแบบที่สามารถพกพาไปที่ไหนก็ได้ นั้นคือเจตน์จำนงของ Kevin ที่อยากให้เครื่องมือสื่อสารสามารถแบ่งปันความรู้สึกให้ผู้คนได้อย่างแท้จริง ในตอนนั้น Kevin แม้ไม่มีประสบการณ์แต่เขาก็มั่นใจว่านั่นคือแนวทางที่ถูกต้อง

6.ธุรกิจที่ดีต้องคิดว่าจะมีคนใช้สินค้าเราหรือเปล่า

คนส่วนใหญ่ตั้งโจทย์ตัวเองผิดแต่ต้นก่อนลงมือทำธุรกิจคิดว่าจะสร้างรายได้กลับมาเท่าไหร่แต่ Kevin มองว่า ธุรกิจสำคัญคือกำไรแต่ก็ไม่มากไปกว่าคุณค่า

รายได้มีเท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับว่ามีคนใช้สินค้าเราจริงๆมากแค่ไหนตราบใดที่มีคนศรัทธาในสินค้าและกลายมาเป็นลูกค้า นั้นคือทางรอดที่แท้จริงของธุรกิจ

j2

ภาพจาก goo.gl/yBTnbQ

7.ธุรกิจที่ดีไม่ใช่จะสำเร็จในการลงมือครั้งแรก

เราพูดว่า Instagram ทำธุรกิจสำเร็จได้อย่างดีภายในครึ่งปีแรก แต่กว่าจะมาเป็น Instagram ที่สำเร็จนั้น Kevin ก็ล้มเหลวมาไม่น้อยเขาต้องใช้ความรู้ พัฒนาทักษะตัวเองในการติดต่อกับบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ

ทั้ง Google Microsoft และ Twitter จนเขามีบทเรียนมากพอและรู้ว่าอะไรคือข้อผิดพลาดจนนำมาสู่การสร้าง Instagram เป็นผลสำเร็จ

8.ธุรกิจที่ดีต้องมีสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่นด้วย

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Instagram ให้บริการ ระบบก็ไม่สามารถรองรับผู้ใช้งานนับพันจนระบบล่ม โชคดีที่ Kevin รู้จักกับ Adam D’ Angelo ที่เขาเคยเจอกันในงานปารตี้ตอนใช้ชีวิตด้วยกันในสแตนฟอร์ด เควินโทรหาให้เขาช่วย

สุดท้ายไม่ใช่แค่กู้ระบบได้ แต่เพื่อนที่เควินรู้จักยังจัดเงินทุนเพิ่มให้ Instagram อีกด้วย และต่อมามีคนใน Google แนะนำเควินให้รู้จักกับนักลงทุนอย่าง Marc Andreessen แห่ง Andreessen Horowitz ทำให้เควินได้เงินทุนไปอีก 250,000 เหรียญ

j1

ภาพจาก goo.gl/oVQNWn

9.ธุรกิจที่ดีต้องรู้ว่าอะไร “เวิร์ค”

ก่อนที่ Kevin จะมาทำ Instagram เขาเคยให้บริการอัพเดทตำแหน่งคล้ายๆกับ “Foursquare” แต่ต่อมา Kevin กับเพื่อนผู้ร่วมทีม กลับไปสะดุดตากับไอเดียของ Burbn ที่มีฟังก์ชั่นแชร์รูปภาพ ทำให้เควินกับเพื่อนรู้สึกว่าฟังก์ชั่นตัวนี้มัน “เวิร์ค” แน่ๆ

ต่อมาเควินกับเพื่อนจึงพัฒนา Instagram โดยเน้นการถ่ายและแชร์รูปภาพง่ายๆเป็นหลัก และเอาฟังก์ชั่นระบุตำแหน่งเป็นเรื่องรองในเวลาต่อมา จนกลายเป็น Instragram ในปัจจุบัน

10.ธุรกิจที่ดีชื่อสินค้าต้องสะท้อนเป้าหมาย

เมื่อเป็นธุรกิจที่เน้นถ่ายรูปมากกว่าระบุสถานที่ ชื่อแอพก็ต้องเปลี่ยนด้วย ซึ่งก่อนที่จะใช้ชื่อ Instagram นั้น Kevin และเพื่อนใช้ชื่อว่า “Burbn” ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่ได้สะท้อนความสามารถของตัวแอพเกี่ยวกับ “รูปภาพ” เลย การใช้ชื่อ Instagram จึงสื่อความหมายว่า “รูปภาพเจ๋งๆที่แชร์ต่อกันได้ทันที” นั่นเอง

ข้อมูลเหล่านี้มองด้านหนึ่งคือมาจากคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแล้ว แต่สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นลงทุนอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้มาเป็นแนวทางในการสร้างธุรกิจตัวเองแม้ไม่ใช่ธุรกิจในลักษณะที่คล้ายกันแต่บางสิ่งบางอย่างก็สามารถปรับใช้กันได้ พื้นฐานธุรกิจที่ดีคือต้องเปิดใจยอมรับและดูตัวอย่างความสำเร็จเป็นแบบแผนเพื่อพัฒนาธุรกิจตัวเองต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/dWrNz2

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด