10 ข้อดี-ข้อเสีย ของมนุษย์เงินเดือน

ต้องยอมรับว่าการเป็น มนุษย์เงินเดือน เสมือนดั่งว่า ถูกสอนกันมาตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย เพราะคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเรียนจบด้านไหน คณะไหน เอกไหนมา ก็ต้องไปทำงานประจำตามสายงานที่ได้เล่าเรียนมา กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนด้วยกันทั้งนั้น ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือน มีอยู่หลายอย่าง ขณะที่ข้อเสียของมนุษย์เงินเดือนก็มีหลายอย่างเช่นกัน

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาท่านผู้อ่านไปดูพร้อมกันว่า การเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานประจำในองค์กรหรือบริษัทต่างๆ จะมีข้อดี และข้อเสียอะไรบ้าง ผู้ที่อยากกินเงินเดือนสามารถเรียนรู้จากข้อเสีย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาได้นะครับ

ข้อดีของมนุษย์เงินเดือน

มนุษย์เงินเดือน

1.ได้รับเงินเดือน มีรายได้แน่นอนทุกเดือน

มนุษย์เงินเดือน พอถึงสิ้นเดือนก็จะได้รับเงินเดือน มีเงินเข้ามาในบัญชีเป็นประจำ สม่ำเสมอ ทำงานไปเรื่อยๆ สบายใจได้เลยว่าจะมีเงินใช้ช่วงสิ้นเดือนอย่างแน่นอน

2.ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเอง

มนุษย์เงินเดือน มีหน้าทำงานตามหน้าที่ในแต่ละฝ่าย แต่ละหน่วยงาน แต่ละแผนกที่ตัวเองรับผิดชอบเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ต้องใช้เงินลงทุนทางธุรกิจ หรือทำการตลาดใดๆ ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของบริษัท และเจ้าของบริษัท

v17

3.ได้เจอเพื่อนหลากหลาย มีสังคมกว้างขึ้น

มนุษย์เงินเดือน จะต้องทำงานร่วมกันกับคนอื่นในบริษัทหรือในออฟฟิศ โดยในแต่ละแผนก แต่ละหน่วยงานก็จะมีเพื่อนร่วมงาน ทำให้ได้พบเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตามากขึ้น มีโอกาสที่จะเจอกับบุคคลต่างๆ ในบริษัทอื่นๆ เครือข่ายอื่นๆ จากการติดต่อประสานงานกันทางธุรกิจ ทำให้มนุษย์เงินเดือนมีสังคมที่กว้างมากขึ้น

4.มีสวัสดิการที่ดี

มนุษย์เงินเดือนจะมีสวัสดิการดีๆ รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัส ค่าเดินทาง ประกันสังคม ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ค่ามือถือ ค่าคลอด การสัมมนาอบรม ท่องเที่ยว หรืออื่นๆ อีกทั้งยังได้รับสิทธิการลาพักร้อน ลากิจ ลาป่วย ซึ่งเจ้าของกิจการหรือฟรีแลนซ์มีเวลาที่ยืดหยุ่นก็จริง แต่ไม่สามารถใช้สิทธิเหล่านี้ได้ เพราะถ้าคุณหยุดทำงานก็เท่ากับคุณไม่ได้เงินในวันนั้นๆ

v20

5.ทำงานเป็นเวลา

มนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่จะทำงานประจำออฟฟิศ หรือออกข้างนอกไปติดต่อค้าขายทางธุรกิจ หรือติดต่อลูกค้า จะมีเวลาในการทำงานเป็นเวลาตายตัว ส่วนใหญ่จะเข้า 8.30 น. เลิก 17.30 น. ทำงาน 5 วัน หยุด เสาร์-อาทิตย์ อย่างน้อยๆ ก็ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ พักตอนเที่ยง 1 ชั่วโมง ที่สำคัญสามารถใช้เวลาว่างจากงานหารายได้จากอาชีพเสริม

6.บริษัทและเจ้านายดูแล

มนุษย์เงินเดือน มีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาความรู้ และทักษะความชำนาญด้านต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจมักจะมีระบบสอนงานจากเจ้านาย หรือหัวหน้างาน รวมถึงได้รับโอกาสในการเข้าร่วมการฝึกอบรมเพิ่มพูดความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ หากสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

v18

7.เปลี่ยนงานง่าย ไม่สะดุด

มนุษย์เงินเดือนย้ายงานกันบ่อยจนเป็นเรื่องปกติ เพราะย้ายงานง่ายใช้เวลาเดือนเดียว ต้องการเพิ่มเงินเดือน และต้องการเลื่อนตำแหน่ง ฯลฯ ไม่ยากเหมือนกับนักธุรกิจที่เอาเงินไปลงทุนแล้ว หากอยากถอนทุนคืนต้องใช้เวลานานกว่า

8.วันหยุดก็ยังได้เงิน

มนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่จะหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ต่างๆ แม้ว่าจะเป็นวัยหยุด แต่ก็ยังได้รับเงินค่าแรง ค่าทำงานเป็นเงินเดือน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าวันหยุดจะขาดรายได้ ยิ่งหยุดยาวติดต่อกัน ยิ่งได้พักผ่อนเยอะ

v21

9.เพิ่มโอกาสพัฒนาฝีมือ

มนุษย์เงินเดือนมีโอกาสก้าวไปสู่งานที่ชอบ จากการสั่งสมประสบการณ์การทำงาน ได้ฝึกฝนทักษะ พัฒาฝีมือที่จำเป็นต้องใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง หลายคนเรียนจบมาแบบไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับงานแบบไหน แต่จากการได้ทำงานจริงๆ ก็อาจจะสามารถช่วยให้คุณรู้ว่า ตัวเองเหมาะกับงานไหน ถนัดกับการทำอะไร

10.โอกาสทำธุรกรรมทางเงินที่ดีกว่า

มนุษย์เงินเดือน มีโอกาสทางการเงินที่ดีกว่าการทำงานฟรีแลนซ์ ด้วยความที่มีรายรับประจำและแน่นอน หากคุณต้องการกู้เงินธนาคารไม่ว่าจะผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ทำบัตรเครดิต หรืออื่นๆ มักจะได้รับการอนุมัติง่ายกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ

ได้เห็นแล้วว่า ข้อดีหลายๆ อย่างของการเป็นมนุษย์เงินเดือนมีอะไรบ้าง ต่อไปจะพาท่านผู้อ่านไปดูข้อเสียของการเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่อาจทำให้ใครหลายๆ คนอยากจะลาออกจากงานประจำ เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว หรืออื่นๆ

ข้อเสียของมนุษย์เงินเดือน

v14

1.ต้องทำงานร่วมกันคนอื่นให้ได้

มนุษย์เงินเดือน จำเป็นจะต้องร่วมงานกับผู้คนที่หลากหลายในองค์กร บ่อยครั้งอาจจับผลัดจับผลูต้องร่วมงานกับคนที่เคยขัดแย้งกันมาก่อน หรือคนที่ไร้ความสามารถ ซึ่งการจะเป็นมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพนั้น จะต้องสามารถทำงานร่วมกันได้

ต้องพยายามประคับประคองคนอื่นให้ไปถึงเป้าหมายร่วมกัน โดยเห็นประโยชน์ของบริษัทเป็นที่ตั้ง บ่อยครั้งจึงทำให้อาจจะทำลายอารมณ์อยากทำงานของคุณได้ เพราะต้องมัวสอนคนที่ไม่เป็นงาน หรือพวกขี้เกียจเป็นตัวถ่วง

2.ต้องเจอเรื่องนินทา

มนุษย์เงินเดือน เชื่อว่าไม่มีใคร ไม่เคยโดนนินทา อันนี้เป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะดีเด่น เป็นคนแสนดีมากขนาดไหน หรือจะทำงานดี ทำงานแย่ ผลงานดี ผลงานธรรมดา

หรือเฉยๆ คุณก็โดนนินทา ซึ่งบ่อยครั้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ อธิบายก็คล้ายจะแก้ตัว ต้องทำใจ และปล่อยผ่าน มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

v15

3.ต้องประชุมแบบไร้จุดหมาย

การประชุมมีวัตถุประสงค์หลายอย่าง อาทิ การทำความเข้าใจ การตัดสินใจ การนำเสนอความคิดเห็นร่วมกัน แต่บ่อยครั้งคุณต้องเข้าประชุม ในเรื่องที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้ามา

หรือได้แต่ฟัง เพราะมีหัวหน้างานที่ไม่ถามความคิดเห็น และเลวร้ายที่สุด คือ มันใช้เวลานานมาก ทำให้คุณต้องเสียเวลาเคลียร์งานประจำ ที่ต้องรับผิดชอบไป

4.ต้องเจอการเมืองในที่ทำงาน

ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย การเมืองในที่ทำงานจึงเหมือนการซักซ้อมความเป็นประชาธิปไตยไปในตัว มนุษย์เงินเดือนต้องเจอกับการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้บ่อยครั้งทำงานไม่ราบรื่น ติดขัดกันเป็นระยะ

คนส่วนใหญ่ไม่อยากเลือกข้าง แต่บางครั้งความคิดเห็นบังเอิญไปตรงกับอีกกลุ่มหนึ่ง เหมือนเลือกข้างไปโดยปริยาย ทางรอดจากสงครามการเมืองนี้ คือ วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่อาจต้องแลกมากับการถูกแช่แข็ง ไม่มีทางได้ผุดได้เกิด เติบโตในหน้าที่การงานได้ สุดท้ายอึดอัดอาจถึงขั้นลาออกจากงาน

v12

5.เจอปัญหาเงินเดือนไม่พอกิน

มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่พบเจอปัญหานี้ประจำ เงินเดือนไม่พอยาไส้ ต้นเดือนกินอยู่อย่างราชา กลางเดือนเริ่มถอยลง สิ้นเดือนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ความจริงแล้วคือบริษัทไม่ได้สนใจอะไรคุณมากมาย

เจ้านายกำหนดเงินเดือนขั้นต่ำมา มีหน้าที่ให้ทำงานที่รับผิดชอบเป็นประจำ เหมือนฟันเฟืองชิ้นเล็กจิ๋วขององค์กร ถ้ารับเรื่องรายได้ไม่ได้ก็ลาออกไป บริษัทก็แค่หาคนใหม่เข้ามา ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก อาจจะเสียเวลาฝึกงานแค่นั้น

6.อาจรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้รักคุณจริง

ถึงแม้คุณจะลาออกจากงานไป บริษัทก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เหตุผลคล้ายกับข้อที่แล้ว คนอยากมาแทนที่คุณมีเยอะแยะ บริษัทก็เล็งเห็นตรงจุดนี้ ต่อให้คุณขยันทำงาน ทำงานเช้าถึงดึกดื่น

อย่างมากก็ได้รับคำชม ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นกำลังใจบ้าง แต่ไม่มีทางที่บริษัทจะแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้คุณอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดก็กินเงินเดือนประจำไปตามเดิม

 

v16

7.มีโอกาสเสียเพื่อนร่วมงานไป

เพื่อนร่วมงานที่อุตส่าห์ฟันฝ่ากัน ได้เข้ามาทำงาน พอถึงวันหนึ่งก็จะจากคุณไป เพราะแต่ละคนก็มีความฝันแตกต่างกัน บางคนมาทำงานเพื่อเอาประสบการณ์ ไปทำธุรกิจอื่นๆ หรือเปิดกิจการเป็นของตนเอง บางคนมาทำงานเพื่อเอาสังคม บางคนเจอบริษัทที่ให้เงินเดือนมากกว่า ไม่มีใครจะทำงานกับคุณไปได้ตลอดชีวิตในที่ทำงานเดิมๆ

8.มีโอกาสขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน

ความจริงอย่างหนึ่งในการทำงาน คือ บางครั้งคุณต้องแสดงความคิดเห็น ที่ขัดกับความคิดเห็นของคนอื่น อาจจะนำมาซึ่งความลำบากใจ และบานปลายถึงขั้นไม่ชอบหน้ากัน ถ้าเป็นต่างประเทศเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติมาก การแสดงความคิดเห็นกันตรงๆ ช่วยทำให้มีความเข้าใจตรงกัน ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และไม่ต้องเสียเวลาอ้อมค้อม ต่างกันกับสังคมไทย การพูดจากันตรงๆ จะดูเหมือนว่าก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะ

v13

9.ต้องเผชิญรถติด

มนุษย์เงินเดือนถ้าอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ ประเด็นนี้คงไม่ใช่ปัญหา แต่หากอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วมีออฟฟิศอยู่ใจกลางเมืองคงเข้าใจดี นอกจากจะต้องตื่นเช้าตรู่ เพื่อรีบออกจากบ้านเดินทางไปยังออฟฟิศแล้ว ขากลับก็ยังจะต้องอดทนฝ่ารถติดเพื่อกลับไปพักผ่อน วันไหนเจอฝนตกในตอนเช้า ชะตาชีวิตอาจจะขาดได้ ต้องถูกตัดเงินเดือนเพราะเข้างานไม่ทัน

10.ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ของบริษัท

มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ของบริษัทหรือเจ้านายอย่างเคร่งครัด ต้องตอกบัตร สแกนนิ้วมือ เข้า-ออกทำงานตรงเวลา ต้องแต่งกายหรือสวมชุดตามรูปแบบของบริษัทหรือธุรกิจ บางครั้งทำงานวันละหลายชั่วโมง เฉลี่ย 8-10 ชั่วโมงในออฟฟิศ ที่สำคัญบางครั้งต้องปฏิบัติงานที่ตนเองไม่ชอบตามคำสั่งของหัวหน้าและเจ้านาย

ทั้งหมดเป็น 10 ข้อดี 10 ข้อเสีย ของการเป็นมนุษย์เงินเดือน สรรพสิ่งทุกอย่างมีทั้งด้านดี ด้านลบ หรือมี 2 ด้าน แต่สิ่งสำคัญกว่านี้ คือ อยู่ที่ว่าคุณจะตัดสินใจเลือกทำงานแบบไหน เป็นมนุษย์เงินเดือนหรือทำธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเลือกงานแบบไหน ก็ขอให้คุณทำงานนั้นๆ ให้มีความสุข รักในสิ่งที่ทำก็เพียงพอแล้วครับ

อ่านบทความ SMEs goo.gl/wvX5MG
ทำธุรกิจส่วนตัวด้วยแฟรนไชส์ goo.gl/o655Fx
สมัครคอร์สเรียนสร้างอาชีพ goo.gl/ud7TTa

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช