ไม่ธรรมดา! จาก 5 เด็กน้อย …สู่นักธุรกิจร้อยล้าน ทำได้ไงเนี่ยะ!

ชีวิตในวัยเด็กของหลายๆคน หรือแม้แต่เด็กส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ถือเป็นช่วงเวลาที่แสนจะพิเศษที่ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก ถึงเวลากินก็กิน ถึงเวลาเรียนก็เรียน และถึงเวลาเล่นก็เล่น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติของเด็กทั่วไป

แต่จะมีเด็กสักกี่คนที่ใช้เวลาในวันว่างหันมาทำธุรกิจเล็กๆ แต่กลับกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้หลายร้อยล้าน จนสามารถหาเลี้ยงตนเองและช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้อีกด้วย

และวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวมเอา 5 เด็กมหัศจรรย์มาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆทุกคนได้รู้ว่าเรื่องอายุนั้นเป็นเพียงแค่ตัวเลข ขอเพียงมีความฝัน มีความตั้งใจ และเดินหน้าอย่างจริงจัง สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็สามารถทำให้เกิดขึ้นได้แม้ว่าจะยังเป็นเด็กก็ตามที

1. มอลลี่ ไพรซ์

เด็กน้อย

ภาพจาก goo.gl/w15oAh

มอลลี่ ไพรซ์ เป็นหนูน้อยชาวเวลส์วัย 6 ขวบ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีอายุน้อยที่สุดในสหราชอาณาจักรไปแล้ว โดยเขาได้สร้างร้านขนมหวานของเธอเองขึ้นมา และบริหารร้านร่วมกับคุณแม่ที่คอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆซึ่งมอลลี่ จะเรียนหนังสือในวันจันทร์-ศุกร์เหมือนเด็กทั่วไป

แต่จะทำงานในวันเสาร์ และจะตื่นเวลาตี 5 ในทุกๆ วันอาทิตย์ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะไปกักตุนสินค้าใหม่ โดยg-kมักจะขอให้เพื่อนๆของเธอลองขนมหวานให้ เพื่อที่จะทำการตัดสินใจว่า อันไหนเป็นอันที่ดีและอร่อยที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้ขยายธุรกิจรวมกว่า 3 สาขา จนเป็นที่รู้จักของชาวเวลส์ไปแล้ว

2.อิซาเบลล่า บาร์เร็ตต์

hh2

ภาพจาก goo.gl/XUbKJM

อิซาเบลล่า บาร์เร็ตต์ หรือ “เบลล่า” อายุเพียง 6 ขวบ เป็นหนูน้อยชาวเมืองโรด ไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจทำเครื่องประดับ และเครื่องสำอางเด็กภายใต้ชื่อ กลิตซี่ เกิร์ล (Glitzy Girl) ที่ทำรายได้กว่า 1,000,000 ดอลลาร์ หรือ ราว 30,000,000 บาท ต่อปี

โดยซูซานน่า วัย 39 ซึ่งเป็นทั้งแม่และหุ้นส่วนธุรกิจของกลิตซี่ เกิร์ล พูดถึงธุรกิจนี้ว่าอิซาเบลล่าเป็นอดีตนางงามเด็กที่เดินสายประกวดนางงามมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จากทุกครั้งที่อิซาเบลล่าคว้ามงกุฎได้เธอก็จะสั่งทำกำไล แล้วสลักชื่อตำแหน่งนางงามที่อิซาเบลล่าคว้ามาได้บนกำไลนั้น จนกลายเป็นธรรมเนียม และ เคล็ดลับ ภายในครอบครัว

ซึ่งปรากฏว่า ใครมาเห็นกำไลเหล่านั้นก็ชอบ อิซาเบลล่าจึงคิดขึ้นมาได้ว่า เธอกับแม่ของเธอน่าจะทำกำไลขาย และเป็นที่มาของธุรกิจกลิตซี่ เกิร์ล และปัจจุบันได้ขยายผลิตภัณฑ์ทำลิปสติก และเครื่องสำอางสำหรับเด็กๆ หลายชนิดด้วยกัน

3.ฮาร์ลี จอร์แดน

hh3

ภาพจาก goo.gl/K7KJHq

ฮาร์ลี จอร์แดน เด็กชายวัย 8 ขวบ จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กลายเป็นซีอีโอตัวน้อย หลังจากได้ดำเนินธุรกิจขายลูกแก้ว ผ่าน Marble King เว็บไซต์ของตัวเอง เมื่อ 2 ปีก่อนจนสามารถหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองได้อย่างสบายๆ

โดยทุกอย่างเริ่มต้นจากการเล่นสนุกสนานตามประสา แต่สังเกตว่าลูกแก้วที่ใช้เล่นกันนี้กลับมีคนสนใจอยากได้มากเขาจึงเริ่มสะสมและแบ่งขายลูกแก้วเหล่านั้น

และความคิดนี้ก็เริ่มต่อยอดที่จะทำให้เป็นธุรกิจอย่างจริงจังโดยเขาขอให้แม่ทำการเปิดเว็บไซต์ให้ชื่อว่า Marble King เอาไว้สำหรับสั่งทำและขายลูกแก้วโดยเฉพาะ

และปรากฏว่ามีลูกค้าจากทั่วโลกสนใจในลูกแก้วของเขาและมีออร์เดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากในอนาคตฮาร์ลีหวังว่าจะมีโรงงานผลิตลูกแก้วหลากสีสัน หลากลวดลายเป็นของตัวเอง และขยับขยายให้เป็นโรงงานใหญ่ ๆ ได้อีกด้วย

4.เคน มอนรอย

hh4

ภาพจาก goo.gl/3yk3M5

เคน มอนรอย เด็กชายวัย 9 ขวบ จากลอสแองเจลิส เขาสร้างสรรค์ธุรกิจของตัวเองขึ้นมาด้วยมันสมองและสองมือของเขาเอง จากการที่หนูน้อยเคนมีหัวการค้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เขาจึงมักคิดหาวิธีสร้างรายได้เข้ากระเป๋าเป็นประจำซึ่งเลียบแบบมาจากพ่อของเขา ที่เป็นเจ้าของกิจการขายอะไหล่รถเก่าอยู่ที่บ้านเคนใช้เวลาว่างช่วงวันเสาร์ และอาทิตย์ หยิบจับเอาของเก่า และลังกระดาษเปล่าเหลือใช้ในโกดังของพ่อมาสร้างอาณาจักรเล็กๆ ของตัวเองที่หน้าบ้าน โดยเปิดเป็นร้านเกมแฮนด์เมดที่ชื่อว่า ‘Caine’s Arcade’

โดยภายในร้านเกมจะมีเศษกระดาษลังหลายต่อหลายขนาด เอามาติดด้วยเทปกาว ผสมผสานกับของใช้และของเล่นเก่าเท่าที่หาได้ มาประกอบเป็นเกมแบบง่ายๆ ที่สามารถเล่นได้จริงสำหรับคนที่ต้องการเข้ามาเล่นเกมนั้นเขาได้จัดทำระบบการออกตั๋ว-เสียบตั๋วด้วยระบบมือ

โดยเขาจะมุดเข้าไปใต้กล่องแล้วจัดการอยู่ข้างใน โดยค่าตั๋วสำหรับเล่นปกติจะคิด 1 ดอลลาร์ต่อการเล่น 4 ครั้ง โดยจะเล่นเกมส์อะไรก็ได้ หรือจะซื้อตั๋ว ‘Fun Pass’ แบบจ่าย 2 ดอลลาร์เล่นได้ 500 ครั้งก็ได้ และความโด่งดังนี้ได้ถูกเผยแพร่ทาง Facebook มียอดชมทะลุล้านวิว ถือเป็นเด็กธรรมดาที่ผันตัวเองเข้าสู่สายธุรกิจได้อย่างเต็มตัวทีเดียว

5.โมซิอาห์ บริดจส์

hh6

ภาพจาก goo.gl/h7Pbze

โมซิอาห์ บริดจส์ วัย 9 ขวบ อาศัยอยู่ในเมืองเมมฟิศ สหรัฐอเมริกา เขาสร้างธุรกิจซึ่งทำรายได้นับล้าน จากความหลงใหลในแฟชั่นหูกระต่ายของ จนทำให้กลายเจ้าของแบรนด์เนคไทชื่อดังอย่าง “Mo’s Bows”ซึ่งแรงบันดาลใจมาจากความชอบดูการแต่งตัวในชุดสูทของคุณพ่อกับคุณตา ซึ่งเขาคิดว่าเท่ห์มากแต่บางครั้งก็รู้สึกว่ามันยังขาดอะไรบางอย่าง ก็เลยตัดสินใจนำหูกระต่ายมาประดับเพิ่มลงไป

ซึ่งมันก็ได้กลายเป็นจุดที่ทำให้เขาเกิดความหลงใหล และเริ่มซื้อหูกระต่ายเก็บสะสมเอาไว้ตลอดซึ่งเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากคุณยายเป็นอย่างดี อีกทั้งยังยายของเขายังซื้อจักรเย็บผ้าเป็นของขวัญให้ เขาจึงจะลงมือทำหูกระต่ายด้วยตัวเอง จนกลายมาเป็นุรกิจที่ทำกำไรให้เขาได้ถึง 150,000 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 4.6 ล้านบาทเลยทีเดียวโดย

ปัจจุบันโมซิอาห์วางแผนว่า จะไปศึกษาต่อที่ Parsons School of Design ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนการออกแบบเสื้อผ้า เพื่อมาสานต่อธุรกิจและสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองในวัย 20 ปี ตามที่ตั้งใจเอาไว้ พร้อมกับการออกแบบเนคไทในรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย

เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้เด็กๆกลายเป็นนักธุรกิจได้นั้นสิ่งสำคัญคือการมองหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และผู้ปกครองก็ควรสนับสนุนความคิดเหล่านั้นไม่ใช่คิดว่าเป็นเพียงความฝันเพ้อเจ้อ

ซึ่งบางครั้งสิ่งที่เด็กคิดอาจเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่บางคนคาดไม่ถึงซึ่งนั่นพร้อมแปรเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่ดีที่อาจจะทำกำไรได้มากกว่าผู้ใหญ่หลายคนก็เป็นได้

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด