ใครว่า ชานมไข่มุก ขาลง!

ถ้ามีคนมาถามว่า “สนใจเปิดร้านชานมไข่มุกไหม?” คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะตอบอย่างไร ตกลง? หรือไม่ตกลง? บางเหตุผลของคนที่อยากเปิดร้านชานมไข่มุกมองว่านี่คือธุรกิจสุดฮิตที่คนรู้จักเป็นอย่างดี

ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ แค่มีระบบบริหารร้านที่ดี เมนูที่น่าสนใจยังไงก็ขายได้ แต่บางเหตุผลของคนที่ไม่อยากเปิดร้านมองว่าคู่แข่งมีเยอะซอยเดียวกันบางทีมี2-3 ร้าน การต้องแชร์ตลาดกับคู่แข่งมากมายทำให้มองว่าเสี่ยงเกินไป

p2

ภาพจาก goo.gl/8pBvuh , goo.gl/RDVZTb

อีกเหตุผลหนึ่งที่คนตัดสินใจจะไม่เปิดร้านชาไข่มุกเพราะมองว่านี่คือธุรกิจในช่วงขาลง จากยุคที่เคยบูมสุดขีดประมาณ 10 ปีก่อนตอนนี้มีเครื่องดื่มมากมายมาแทนที่

แต่ในความเป็นจริง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ากระแสชานมไข่มุกไม่ได้จืดจางไปไหน มีข้อมูลยืนยันและหลักฐานหลายอย่างที่บอกว่า ธุรกิจชานมไข่มุกยังมีอนาคตสดใสอยู่

pp

ภาพจาก goo.gl/adrkXr

สิ่งสำคัญที่เปิดร้านชานมไข่มุกแล้วรอดหรือไม่รอด เรื่อง “ทำเล” เป็นโจทย์ใหญ่ ไม่ใช่คิดจะเปิดร้านที่ไหนก็เปิด พอขายไม่ได้ขายไม่ดีก็โทษว่าเป็นเพราะกระแสของชาไข่มุกเป็นขาลง

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจให้ดีว่า “ชาไข่มุก” เป็นเครื่องดื่มสำหรับวัยรุ่นและคนวัยทำงาน ดังนั้น ทำเลที่เหมาะสมที่จะเปิดร้านชาไข่มุก เน้นย่านวัยรุ่นเป็นหลักจะทำให้ยอดขายดีขึ้นแม้ในบริเวณนั้นจะมีคู่แข่งมากมายก็ตาม

p1

ภาพจาก goo.gl/V6Tcvn

ดูตัวอย่างง่ายจากย่านสยามสแควร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นขนานแท้ แถวสยามปรากฏว่ามีร้านชาไข่มุกไม่น้อยกว่า 32 ร้านค้า ตั้งแต่โซน Siam Discovery , Siam Paragon หรือตามบรรดา Siam Center ซอยต่างๆ ซึ่งมีร้านชานมไข่มุกชื่อดังมากมายเช่น ชาตรามือ , Mr. Shake , ATM Tea Bar , Share Tea , After you , Ochaya , CoCo , Minimono เป็นต้น

ซึ่งยังไม่ได้นับรวมทำเลวัยรุ่นอื่นๆ เช่นใกล้มหาวิทยาลัยต่างๆ ,ย่านทองหล่อ ,สุขุมวิท ฯลฯ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีร้านชานมไข่มุกเปิดตัวกันจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นทิศทางของชานมไข่มุกที่ไม่ได้จืดจางเพียงแต่เราต้องเสาะหาทำเลที่เหมาะสมกับการเปิดร้านเท่านั้น

p9

ภาพจาก goo.gl/ML3u5p

อย่างไรก็ดีปฏิเสธไม่ได้ว่าชานมไข่มุกยุคนี้ต้องโมเดิร์นไปกว่าที่เคยเป็น ลำพังเมนูแบบเดิมๆ ไม่อาจสร้างยอดขายที่ดีได้ด้วยกระแสที่ชานมไข่มุกฮิตมากในช่วงนี้มีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้องกัน

1.ความพิเศษของแต่ละเมนู เช่น ไข่มุกลาวา เม็ดไข่มุกแบบ Brown Sugar, Topping Cheese, รสชาติแปลกๆ อย่างไข่เค็ม หมอนทอง เป็นต้น

2.กระแสโซเชี่ยล ซึ่งหลายร้านมีการโปรโมทภาพเช็คอิน หรือลงรูปลูกค้าต่อแถว ก็ช่วยดึงดูดให้คนสนใจอยากมาลองบ้าง

3.สินค้าหาซื้อง่าย เข้าตำราป่าล้อมเมือง คือมองไปทางไหนก็เจอ บางทีไม่เจาะจงว่ายี่ห้อไหน อยากกินเป็นต้องได้กินนั่นคือเสน่ห์ของชาไข่มุกที่ทำให้คนติดใจ

4.เทรนด์สุขภาพที่มาแรง จากบางช่วงที่กระแสไข่มุกซาลงไปแต่ปัจจุบันเราสามารถเลือกระดับความหวานเองได้ หรือบางร้านก็มีไข่มุกเพื่อสุขภาพที่ทำจากข้าวไรเบอร์รี่ ทำให้ชานมไข่มุกเป็นเครื่อดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น

p3

ภาพจาก goo.gl/aiX7Q1

อีกหนึ่งเหตุผลน่าสนใจที่สวนกระแสว่าชาไข่มุกไม่ใช่ขาลง แต่กลับจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเกิดจากนักท่องเที่ยวไทยที่ไปไต้หวันมากขึ้น ซึ่งไต้หวันได้ชื่อว่าเป็นดินแดนต้นตำหรับของชาไข่มุก

ทำให้เกิดไอเดียทางธุรกิจติดต่อนำแบรนด์ชาไข่มุกนั้นมาจำหน่ายในเมืองไทย รวมไปถึงแบรนด์จากไต้หวันเองที่เล็งเห็นว่าตลาดเมืองไทยน่าสนใจก็เข้ามาขยายสาขาในเมืองไทยจำนวนมาก

p4

ภาพจาก goo.gl/jJzqy5

ยกตัวอย่าง KOI Thé แบรนด์ชาไข่มุกที่ก่อตั้งโดย Ms. Khloe Ma เปิดตัวสาขาต้นแบบในไต้หวันเมื่อปี 2006 ก่อนที่จะขยายสาขามายังสิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย พม่า และประเทศไทยที่ KOI Thé มาเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล บางนา

ในปี 2016 จนถึงตอนนี้ KOI Thé มีสาขาในเมืองไทย 12 แห่ง ความสำเร็จของ KOI Thé ถือเป็นต้นแบบให้ชาไข่มุกจากไต้หวันแบรนด์อื่นอยากเจริญรอยตาม เพราะดูจากวันเริ่มต้นธุรกิจในเมืองไทย KOI Thé มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,595,975.23 บาท แต่เวลาผ่านไป 1 ปีกลับมามีรายได้เพิ่มสูงถึง 62,311,622.49 บาท เรียกว่ารายได้เพิ่มสูงขึ้นชนิดถล่มทลาย

p7

ภาพจาก goo.gl/vmNPF9

จุดเด่นที่ทำให้ KOI Thé เติบโตในเมืองไทยได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นเพราะเอกลักษณ์ที่เป็น Handmade Tea เพราะวัตถุดิบที่ใช้ทุกอย่างจะทำใหม่หมดแบบ On Site เพื่อให้แต่ละแก้วที่ลูกค้าได้ดื่มนั้น คงความเป็นชาไข่มุกแบบไต้หวันอย่างแท้จริง

p5

ภาพจาก goo.gl/TJxY8T

ไม่ว่าจะเป็นการต้มชา ที่การต้มแต่ละครั้งจะเก็บไว้แค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เช่นเดียวกับการต้มไข่มุกหรือ Golden Bubble ซึ่งต้องถือเป็น Signature ของ KOI Thé เพราะเม็ดไข่มุกจะมีขนาดเล็กว่าทั่วไปและมีสีทอง ทำให้บางคนเปรียบเทียบเม็ดไข่มุกของ KOI Thé ว่าเหมือนกับไข่ปลาแซลมอน

และถ้าลองไปดูตลาดชาไข่มุกเมืองไทยจะพบว่าเป็นเวทีทองของแบรนด์จากไต้หวันที่เข้ามาสร้างกระแสให้คนฮิตในเมืองไทยอีกหลายแบรนด์เช่น Monkey Shake , Kamu ,Pearly Tea ,Coco Tea เป็นต้น

แน่นอนว่าจุดขายของชาไข่มุกยุคใหม่ไม่ใช่แค่ก้อนกลมๆ สีดำๆ ลอยอยู่บนแก้วเท่านั้น แต่ยุคนี้หากจะขายดีต้องทำให้เป็นกระแสและสินค้าดูแตกต่างแบบมีไอเดีย

p8

ภาพจาก goo.gl/6PczRY

อย่าง Mr.Shake มีเมนูที่ชื่อว่า Fire Tiger Milk ชานมไข่มุกโรยเกร็ดน้ำตาลแล้วเบิร์นด้วยไฟ กลายเป็นน้ำตาลกรอบๆ อยู่ด้านบน หรือร้าน Ditto Modern Tea ก็มีเมนูไข่มุกพ่นไฟคอยบริการลูกค้าด้วยเช่นกัน

ยังไม่นับรวมบรรยากาศของร้านที่ถือเป็นจุดขายของร้านชาไข่มุกยุคใหม่ ดังนั้นธุรกิจชาไข่มุกถือว่ายังไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง แต่ตรงกันข้ามว่ากำลังอยู่ในช่วงพัฒนารูปแบบสินค้าให้แตกต่างไปจากอดีต และนั่นคือจุดแข็งและเป็นจุดขายที่ใครอยากจะเข้ามาสู่ธุรกิจชานมไข่มุกนี้ต้องคิดให้ดี ต้องมีไอเดียโดนๆ รับรองขายดีแน่

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด