โตไปด้วยกัน! “อนุบาลยีราฟ” สุดยอดการลงทุนยุค COVID 19

ถ้าถามว่ายุคนี้ “ลงทุนอะไรดี” ขอแนะนำว่า “ ธุรกิจการศึกษา ” เหมาะสมที่สุด เหตุผลง่ายๆ เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ทำให้โรงเรียนต้องปิดเทอมยาว เด็กๆหลายคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับบ้านมากกว่าไปโรงเรียน

แต่ทว่าการระบาดของ COVID 19 ใช่ว่าจะอยู่เช่นนี้ตลอดไป เมื่อถึงจุดหนึ่งเชื่อว่าเราจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญเพราะถึงช่วงเวลานั้นพ่อแม่ผู้ปกครองจะยิ่งหาโรงเรียนกวดวิชา

เพื่อเพิ่มความรู้ให้บุตรหลานชดเชยกับเวลาที่ได้เสียไป www.ThaiSMEsenter.com มองว่าการลงทุนกับแฟรนไชส์การศึกษาคือสุดยอดการลงทุนที่น่าสนใจมาก

บวกกับตอนนี้หลายคนเจอพิษเศรษฐกิจเล่นงาน บางคนตกงาน ว่างงาน บางคนต้องกลับไปอยู่บ้านตามภูมิลำเนาเดิม และจะมีแฟรนไชส์การศึกษาใดที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าและสามารถสร้างความรู้ให้ผู้เรียนได้อย่างสูงสุด คำตอบของเรื่องนี้คือ “อนุบาลยีราฟ” ที่ตอนนี้มีการขยายสาขาไปทั่วประเทศกว่า 64 แห่ง

ทำไมต้อง “อนุบาลยีราฟ”

อนุบาลยีราฟ

แฟรนไชส์อนุบาลยีราฟถือเป็นธุรกิจการศึกษา โดยความตั้งใจของครูแนต ผู้ก่อตั้งที่ต้องการให้ทุกคนสามารถสร้างธุรกิจที่มั่นคงอยู่ร่วมกับครอบครัวได้ เมื่อพิจารณาปัจจัยรอบด้านแล้ว “ภาษาอังกฤษ” ถือเป็นวิชาสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กๆทุกคนให้มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากที่สุด เด็กที่อาจจะไม่เก่งวิชาอื่นๆ แต่ถ้ามีความรู้ด้านภาษาอังกฤษจะสามารถมีอาชีพที่ดี งานที่ดี รายได้ที่ดี มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และได้เลือกใช้ “ยีราฟ” เป็นมาสคอร์ต เพราะถือว่ายีราฟเป็นสัตว์ที่บ่งบอกถึงการเติบโตได้ชัดเจนที่สุด

โดยอนุบาลยีราฟใช้แนวคิดสร้างธุรกิจ “โรงเรียนที่ออกแบบโดยพ่อแม่ ซึ่งมีแรงบันดาลใจคือลูก และความรักในการเป็นครู” มีหลักสูตรภาษาอังกฤษที่ง่ายและสนุก เป็นการเรียนผ่านการทำกิจกรรมและการเล่นทำให้เด็กสนุกพร้อมกับได้ความรู้ไปพร้อมกัน โดยจุดเด่นที่ทำให้ “อนุบาลยีราฟ” แตกต่างจากแฟรนไชส์การศึกษาอื่น ได้แก่

10

1. ธุรกิจที่พ่อแม่ดูแลลูกและครอบครัวไปพร้อมกันได้

จะมีสักกี่ธุรกิจที่ให้พ่อแม่ลูกและคนในครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า โดยอนุบาลยีราฟวางคอนเซปต์ให้คนที่ต้องกลับไปอยู่ตามภูมิลำเนาสามารถสร้างอาชีพของตัวเองขึ้นมาได้ นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนจะมีธุรกิจของตัวเอง พร้อมกับการทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีร่วมกันได้

9

2. ธุรกิจที่เสริมศักยภาพให้ลูกตัวเอง พร้อมมีรายได้เพิ่ม

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ เพราะเป็นวิชาที่สำคัญในยุคนี้ บางคนต้องเสียสละเวลาพาลูกไปเรียนกวดวิชา แต่จะดีแค่ไหนหากเรามีธุรกิจการศึกษาเป็นของตัวเอง และสอนลูกตัวเองให้เก่งขึ้นได้ และไม่ใช่แค่นั้นเรายังสามารถรับผู้เรียนรายอื่นๆ มาสอนพร้อมกัน เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนปัญหามาสร้างรายได้ถือว่าคุ้มค่ามาก

8

3. ธุรกิจที่ทำคู่กับงานประจำได้

สำหรับบางคนที่ไม่ได้ลาออกจากงานประจำ แฟรนไชส์อนุบาลยีราฟ สามารถทำคู่กับงานประจำได้ ไม่ว่าจะเป็นการสอนช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือสอนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือหากเราไม่ได้สอนเองก็สามารถให้บุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียน รายได้ของผู้ลงทุนก็เพิ่มพูนขึ้น

7

4. ใช้งบลงทุนน้อยและมีโอกาสคืนทุนรวดเร็ว

จุดเด่นของ “อนุบาลยีราฟ” คือใช้งบในการลงทุนไม่สูงมาก หากเทียบกับแฟรนไชส์การศึกษาอื่นๆ บางคนมีทำเลอยู่แล้วเช่นมีบ้าน มีอาคารพาณิชย์ ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนถูกลงมากขึ้น งบประมาณในการลงทุน 700,000 – 1,000,000 บาท โดยในเดือนแรกการันตีว่ามีนักเรียนแน่ๆ ประมาณ 70-100 คน และนอกจากนี้ทางแฟรนไชส์ยังช่วยส่งเสริมด้านการตลาด พัฒนาบุคลากร พัฒนาเนื้อหาการสอน การันตีคุณภาพจากสาขาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ

6

5. เป็นธุรกิจที่ “สังคมไทย” ต้องการทุกยุคสมัย คู่แข่งน้อย

ถ้าเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์อาหาร เครื่องดื่ม แม้จะเป็นสินค้าที่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าตามกระแส และที่สำคัญมีคู่แข่งเยอะมาก ทำให้ต้องสู้กันด้วยเรื่องการตลาด และราคา ต่างจากการลงทุนกับแฟรนไชส์อนุบาลยีราฟที่เป็นการสอน “ภาษาอังกฤษ” สำหรับเด็กอายุ 4-12 ปี ซึ่งนับวันภาษาอังกฤษจะยิ่งเป็นภาษาที่สำคัญมากขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็อยากเห็นบุตรหลานเก่งและมีทักษะด้านนี้ ไม่ว่าสังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน แต่เรื่องภาษาอังกฤษยังไงก็สำคัญ และด้วยจุดเด่นของอนุบาลยีราฟที่เรียนเหมือนพ่อแม่สอนลูก ยิ่งทำให้ผู้เรียนมีความสุข และสนุกกับการเรียน สามารถซึมซับและพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษได้ดีมาก

ส่องรายได้คนลงทุน “อนุบาลยีราฟ” ดีแค่ไหน?

5

การลงทุนกับแฟรนไชส์อนุบาลยีราฟเริ่มต้นจากการฟังสัมมนาศึกษารายละเอียดการลงทุนให้ชัดเจน โดยมีค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนอยู่ที่ 390,000 บาท และให้สิทธิ์ 1 อำเภอ 1 สาขา นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นเพราะพื้นที่ธุรกิจไม่ทับซ้อนกับรายอื่น เป็นการขยายสาขาในเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ

และสิ่งที่ตอกย้ำว่าผู้ลงทุนจะมีรายได้ดีจากการลงทุนแฟรนไชส์อนุบาลยีราฟ เพราะนี่คือ แฟรนไชส์ที่ไม่มีค่าหัวคิว รายได้เป็นของผู้ประกอบการ 100% , Fix cost ต่อเดือนน้อยเมื่อเทียบกับรายรับ , ไม่มีบังคับสต็อคหนังสือ และยังให้หลักสูตรทั้งหมดไม่ต้องซื้อเพิ่ม เรียกว่าลงทุนครั้งเดียวจบ สามารถสร้างธุรกิจที่มั่นคงให้กับตัวเองได้ทันที

4

โดยปัจจุบันมีสาขาเปิดใหม่จำนวนมาก ซึ่งในเดือนแรกทางแฟรนไชส์การันตีว่าผู้ลงทุนจะมีนักเรียนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 70-100 คน และถ้าดูจากหลักสูตรที่เปิดสอนอย่างเช่น ABC Starter (5-6 ขวบ) คอร์สละ 2,900 บาท หรือ Kinder Club (3-4 ขวบ) คอร์สละ 1,500 บาท สมมุติว่ามีนักเรียนร้อยคนซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการเลือกเรียนในคอร์สที่ต่างกัน

3

คำนวณคร่าวรายได้เบื้องต้นประมาณ 150,000 -290,000 และแม้ตัวเลขนี้จะยังไม่ใช่กำไรสุทธิเพราะยังต้องหักต้นทุนผันแปรอื่นๆ อีก แต่ก็ถือว่าต่อเดือนรายได้ของอนุบาลยีราฟถือว่าดีกว่าการลงทุนในหลายๆ อย่าง และแน่นอนว่านี่คือธุรกิจที่จะมีลูกค้าต่อเนื่อง ยิ่งเป็นการสอนแบบเน้นคุณภาพ ให้ความสำคัญกับผู้เรียน เหมือนพ่อแม่สอนลูก ยิ่งทำให้พ่อแม่ไว้วางใจและอยากส่งบุตรหลานมาเข้าเรียน ก็ยิ่งทำให้คนลงทุนมีโอกาสสร้างรายได้ที่มากขึ้นด้วย

อย่ารอช้า! เปลี่ยนเงินเก็บมาเป็นสุดยอดธุรกิจกันเถอะ!

2

การลงทุนกับอนุบาลยีราฟมีความน่าสนใจอย่างที่ได้กล่าวไป ในสถานการณ์ COVID 19 แพร่ระบาดทำให้หลายคนกังวลใจไม่กล้าเลือกลงทุน บางคนอาจได้เงินก้อนจากการถูกจ้างออกจากงาน หรือบางคนพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ซึ่งเงินเก็บเหล่านี้หากไม่ต่อยอดลงทุนก็ไม่สามารถงอกเงยได้ และแฟรนไชส์อนุบาลยีราฟ ไม่ใช่แฟรนไชส์ที่ขยายสาขาเชิงปริมาณ

แต่เน้นคุณภาพและให้ความสำคัญกับผู้ลงทุนทุกคน จาก 64 สาขา ที่มีในขณะนี้ มีอัตราการเติบโตและสร้างกำไรได้อย่างดี สวนกระแสช่วง COVID 19 ที่หลายธุรกิจรายได้ลดลง และเชื่อว่าหากสถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้น แฟรนไชส์อนุบาลยีราฟจะยิ่งได้รับความสนใจจากพ่อแม่ผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น

1

ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสของเราที่ควรกล้าคิด กล้าตัดสินใจ เหมือนหลายสาขาที่ตัดสินใจลาออกจากงาน ตัดสินใจกลับภูมิลำเนาแล้วลงทุนกับอนุบาลยีราฟ ซึ่งสามารถสร้างรายได้คืนกลับมาได้มากกว่าที่ลงทุนและยังเป็นธุรกิจที่มั่นคงต่อเนื่องสร้างรายได้แบบไม่รู้จบ เป็นสุดยอดการลงทุนที่เราอยากนำเสนอ หวังให้คนไทยได้มีความสุขจากการทำธุรกิจในแบบครอบครัว อยู่ร่วมกับคนที่รัก และมีเงินเก็บ เงินใช้แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกันอีกต่อไป

สนใจลงทุนแฟรนไชส์โรงเรียนสอนภาษาอนุบาลยีราฟ โทร. 089-1531040

คลิกขอข้อมูลการลงทุน โรงเรียนสอนภาษาอนุบาลยีราฟ

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3jPWjeJ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด