“ โจ๊ก ” อาหารยอดฮิตยามเช้า รายได้จะดีแสนดีเหมือนที่คิดกันแค่ไหน ตามไปดู!

สำหรับวิถีชีวิตคนเมืองแล้วถ้าไม่ใช่วันหยุด ช่วงเวลาปกติมีแต่ความเร่งรีบ รีบซะขนาดที่ข้าวปลาไม่มีความจำเป็นสักเท่าไหร่ อาหารยามเช้าจึงเป็นอะไรก็ได้ที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด แต่ในใจลึกๆแล้วไม่ว่าจะอาหารมื้อไหนก็ตามคนก็ยังคาดหวังในเรื่องรสชาติและสารอาหารที่ครบถ้วนเสมอ

ด้วยเหตุนี้ “ โจ๊ก ” จึงเป็นอาหารยอดฮิตที่เรียกว่าติดอันดับหนึ่งของชีวิตคนเมืองก็ว่าได้ www.ThaiSMEsCenter.com เห็นว่าธุรกิจนี้เฟื่องฟูมากๆ หากินหาทานกันได้แทบจะทุกหัวมุมเมือง

ตรอกซอกซอยต่างๆ มีร้านโจ๊กทั้งแบบรถเข็นและเปิดเป็นร้านเต็มรูปแบบ แต่คำถามตามมาคือธุรกิจร้านขายโจ๊ก ขายดิบขายดีแต่ธุรกิจนี้มีกำไรมากน้อยอย่างไรและถ้าคิดจะทำธุรกิจนี้ให้รุ่งเรืองสดใสต้องใช้เทคนิคสำคัญอะไรบ้าง ตามไปดูกันดีกว่านะ!

เปิดร้านโจ๊กทำไม่ยาก แต่ต้องขยันและอดทนมากเป็นพิเศษ

โจ๊ก

การเริ่มต้นธุรกิจนี้ปัจจุบันมีทั้งในรูปแบบของแฟรนไชส์หรือเลือกที่จะลงทุนขึ้นมาเองก็ตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญที่เหมือนกันคือ “ต้องขยันและตั้งใจ” เพราะการทำโจ๊กเป็นอาชีพนั้น

ต้องท่องจำเสมอว่าเป็นงานเช้าที่คนทำต้อง ตื่นมาประมาณ ตี 3 ทั้งต้มข้าว ต้มเครื่องใน ลวกไข่เพราะตี 5 ก็ต้องขายแล้ว พอขายถึง 11 โมงก็ต้องเก็บร้าน เสร็จแล้วก็ต้องมานั่งห่อพริกส้ม

เตรียมของไว้สำหรับการขายรอบต่อไป ถ้าขยันหน่อยเปิดร้านรอบเย็นก็จะเป็นงานต่อเนื่องซึ่งคนเปิดร้านโจ๊กจะต้องยอมรับความจริงตรงนี้ได้ การแก้ปัญหาด้วยการจ้างคนงานก็พอบรรเทาได้บ้าง

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องต้องแฝงด้วยความอดทนเป็นสำคัญเพราะโจ๊กในปัจจุบันคนเลือกกินได้ทั้งเช้าและเย็น ถ้าเพิ่มรอบขายรายได้ก็เพิ่มแต่ก็เหนื่อยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

4 เทคนิคการเพิ่มยอดขาย สร้างรายได้เพิ่มแบบเนียนๆ

o1

1. การเลือกทำเล

แทบจะเป็นหัวใจของธุรกิจทุกอย่าง ทำเลที่ดีย่อมทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง การเปิดร้านโจ๊กนั้นอยู่ในแหล่งชุมชนจะดีที่สุดหรือใกล้โรงเรียน ใกล้บริษัท ห้างร้าน หรือว่าตลาดต่างๆ เป็นทำเลทองที่มองเห็นกำไรได้อย่างงามๆ หรือถ้าเลือกทำเลที่ดีแบบนี้ไม่ได้ก็ขอเป็นทางผ่านที่คนพลุกพล่านหรือถ้าเป็นบริเวณที่คนรอรถมากๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

2. การตั้งราคาขาย

ควรเป็นราคาที่หารับประทานได้ทั่วไป พิจารณาจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าเช่าสถานที่ (หากมี) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30-35 บาทเป็นราคากลางๆ ที่พอรับได้แต่ถ้าจะพิเศษกว่านี้ก็ควรมีปริมาณหรือสีสันน่าสนใจที่ทำให้คนซื้อรู้ว่าจ่ายแพงกว่าแล้วจะได้อะไรเพิ่มเติม

3. การบริหารต้นทุน

วัตถุดิบสำคัญคือหมู ไข่ และข้าว แน่นอนว่าความผันผวนเรื่องราคาต้นทุนนั้นสำคัญจึงต้องมาบริหารจัดการให้ดี เช่นหากอยู่ในช่วงหมูราคาขึ้นก็อาจลดปริมาณหมูที่ปั้นให้เล็กลง หรือลดเครื่อง อย่างตับ กระเพาะ ไส้ หรือถ้าไข่แพงก็อาจเลือกใช้เบอร์เล็กลง แต่ทั้งนี้ไม่ควรลดปริมาณต่อชามที่เคยขาย เพื่อให้คนซื้อรู้สึกว่าไม่ถูกเอาเปรียบมากจนเกินไป

4. กลยุทธ์มัดใจลูกค้า

มีหลายอย่างที่ทำให้ลูกค้าติดใจทั้งเรื่องรสชาติ ความสะดวกรวดเร็วในการบริการ การจัดและตกแต่งร้าน อุปกรณ์เสริมบนโต๊ะ ที่สำคัญคือการดัดแปลงเมนูใหม่ๆ หรือการเลือกใช้ชามที่สวยงาม หรือมีบริการน้ำดื่มฟรี เป็นต้น

o4

ข้อดี 5 ประการของการเปิดร้านขายโจ๊กยามเช้า

  1. รูปแบบการลงทุนมีให้เลือกมากมายทั้งรูปแบบแฟรนไชส์ที่มาพร้อมทั้งอุปกรณ์ ยี่ห้อร้าน วิธีการทำ พร้อมขายทันทีหรือเลือกลงทุนเองก็หาสูตรการทำไม่ยากแต่ต้องรู้จักสร้างตลาดและหาทำเลที่ดี
  2. เป็นอาหารเช้าที่ทานง่าย คนซื้อเองก็ติดภาพว่าโจ๊กรสชาติไม่ต่างกัน ดังนั้นถ้าเราทำให้คุณภาพไม่แตกต่างจากที่อื่นในราคาที่สมเหตุสมผลคนย่อมติดใจได้ง่ายและถ้าดัดแปลงเมนูให้น่าสนใจก็เป็นการสร้างจุดขายที่ทำได้ง่ายเช่นกัน
  3. เงินลงทุนในเบื้องต้นถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับความต้องการที่ตลาดมี โอกาสคืนทุนนั้นเร็วมากระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือนน่าจะเห็นผลชัดเจน
  4. ไม่มีความหลากหลายด้านเมนูมากนักทำให้ง่ายต่อการขาย แค่รู้ความต้องการลูกค้าว่าจะใส่อะไร ไม่ใส่อะไรเท่านั้นเอง
  5. ใช้เวลาในการขายต่อรอบไม่นานเช่นช่วงเช้าก็ประมาณ ตี 5– 9 โมงเช้าแต่ถ้าขายรอบบ่ายก็ตั้งแต่ 5โมงเย็นถึง 2 ทุ่มเป็นต้น

o6

ข้อเสียสำคัญที่ต้องระวังเป็นอย่างดี

  1. เวลาในการพักผ่อนจะน้อยเพราะต้องมีการเตรียมวัตถุดิบตั้งแต่เช้ามืดหรือถ้าขายรอบบ่ายด้วยก็หาเวลาว่างได้ยากมาก
  2. มีคู่แข่งจำนวนมาก จึงต้องหาจุดแตกต่างไม่ว่าจะทำเลที่ดีหรือเมนูน่าสนใจและรักษามาตรฐานให้คงเดิมได้มากที่สุด
  3. เป็นงานที่ทำคนเดียวไม่ได้แน่ต้องมีลูกมือคอยช่วยไม่ว่าจะล้างจาน เก็บโต๊ะ อาจต้องมีเรื่องแรงงานเพิ่มขึ้นบ้าง
  4. วิธีบริการต้องใจเย็นและเป็นกันเอง เพราะลูกค้าที่มาย่อมมีหลากหลายอารมณ์ ยิ่งมีคนต่อคิวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใจเย็นมากขึ้นเท่านั้นด้วย

การลงทุนเบื้องต้นและกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากการเปิดร้านขาย “โจ๊ก”

o5

งบประมาณเริ่มต้นถ้าเริ่มใน รูปแบบของแฟรนไชส์ ขั้นต่ำก็ประมาณ 50,000 – 100,000 แต่มีข้อดีคือพร้อมขาย ไม่ต้องทำการตลาดมาก มีระบบการขายรองรับชัดเจน

งบประมาณเริ่มต้นสำหรับการลงทุนเองอาจจะใช้งบที่น้อยกว่าแต่ก็ต้องแลกกับการบริหารจัดการอย่างอื่นที่มากขึ้น ในส่วนนี้งบเริ่มต้นน่าจะประมาณ 15,000-20,000 บาท เป็นค่าอุปกรณ์ วัตถุดิบ และรถเข็น แต่ถ้าเป็นการเปิดร้านเต็มรูปแบบก็อาจจะมากกว่านี้ได้อีกเช่นกัน

กำไรเบื้องต้นที่คาดว่าจะได้รับจากการเปิดร้านขายโจ๊ก ปัจจุบันราคาจำหน่ายต่อชามเฉลี่ย 30-35 บาท ค่าวัตถุดิบในแต่ละวันประมาณ 5,000-6,000 บาท จะมีกำไรคือต้องขายได้ประมาณ 200 ชาม/วัน แต่ตามร้านชื่อดังหรือคนรู้จักมากๆ อาจขายได้ถึงวันละ 300 ชาม กำไร/ชามประมาณ 15% ก็ถือว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ในมุมมองที่เรานำเสนอจึงคิดว่าการขายโจ๊กเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่งเพียงแต่ปัจจัยหลายอย่างถ้าแก้ไขได้นี่คือธุรกิจติดดาวที่ความนิยมไม่มีวันตกกระแสง่ายๆ ขอเพียงอดทน เริ่มลงทุนจากน้อยไปมาก สะสมประสบการณ์ จากร้านเล็กๆริมทางก็อาจกลายเป็นร้านใหญ่ที่ทำกำไรได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัวทีเดียว

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด