แย่อีกแล้ว ! ตลาดรถอินเดียวิกฤต พนักงาน 1 ล้านตำแหน่งเสี่ยงถูกปลด

อุตสาหกรรมยานยนต์ในอินเดียเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนอินเดียกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากข้อมูลขององค์การผู้ผลิตยานยนต์นานาชาติ (Organisation Internationale des Constructeurs d’Automobiles : OICA) พบว่า ในปี 2560 อินเดียมีปริมาณการผลิตรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์รวมกันราว 4.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2554 ที่มีปริมาณการผลิตรวม 3.9 ล้านคัน

ส่งผลให้อินเดียก้าวขึ้นมาเป็นฐานการผลิตยานยนต์อันดับ 5 ของโลก จากที่เคยอยู่อันดับ 10 ในปี 2550 แซงหน้าทั้งเกาหลีใต้ สเปน และบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของโลก

ขณะที่ปริมาณการส่งออกรถยนต์ของอินเดียก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณ 5 แสนคันในปี 2554 เป็น 9 แสนคันในปี 2560 หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยราว 10% ต่อปี

สองปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ของอินเดียกำลังเติบโตและผู้เล่นทั่วโลกต่างรีบเร่งที่จะลงทุน วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปอัพเดตสถานการณ์ตลาดรถยนต์ของอินเดียซึ่งตอนนี้กำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตแบบพลิกกลับในรอบ 18 ปี !

12

ผู้อำนวยการ วิษณุ Mathur SIAM
ภาพจาก bit.ly/2YQ1BzK

โดยตลาดรถยนต์ของอินเดียมียอดขายรถยนต์ลดลง 31% ในเดือนกรกฎาคมจากตัวเลขของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์อินเดีย (SIAM) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มันเป็นเดือนที่เก้าติดต่อกันของการที่ยอดขายนั้นลดลง

โดยตัวเลขนั้นชัดที่สุดในรอบ 18 ปี “นี่เป็นการตกต่ำที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม” ผู้อำนวยการวิษณุ Mathur SIAM อธิบดีบอกกับซีเอ็นเอ็นธุรกิจ อินเดียเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ 5 ปีก่อนหน้ายอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 33%

ผู้เล่นระดับโลกรายใหญ่อย่างฮุนไดและ บริษัทในเครือ Kia ได้ลงทุนหลายพันล้านเหรียญเพื่อขยายการลงทุนในประเทศและผู้เล่นใหม่อย่างผู้ผลิตรถยนต์ของจีน SAIC ก็พยายามที่จะแย่งชิงพื้นที่ธุรกิจ ก่อนที่จะเกิดภาวะตกต่ำ ทางอินเดียคาดการณ์ว่าจะแซงหน้าเยอรมนีและญี่ปุ่น ให้กลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกภายในปี 2563 โดยจะมีเฉพาะจีนและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใหญ่กว่า

11

ภาพจาก bit.ly/2OZ32HA

แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพยายามปรับกฎระเบียบใหม่ด้านความปลอดภัย และเรื่องการปล่อยมลพิษ ทำให้ราคาสูงขึ้น ปัญหาในหมู่ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของอินเดียได้ปล่อยสินเชื่อและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้างทำให้ผู้บริโภคลังเลที่จะใช้จ่าย

Maruti Suzuki ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรถยนต์นั่งที่จำหน่ายในอินเดียรายงานว่ายอดขายรถยนต์ลดลง 36.7% ในเดือนกรกฎาคม ยอดขายที่ Tata Motors (TTM) ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ Jaguar Land Rover ลดลง 31%

10

ภาพจาก bit.ly/2Z5pvXd

Mahindra & Mahindra (MAHMF) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของอินเดียประสบปัญหาการตกต่ำถึง 17% ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมี “วันที่ไม่ผลิต” ในโรงงานหลายแห่งเป็นเวลา 14 วันในไตรมาสนี้เพื่อจัดการและรับมือกับยอดขายที่ลดลง

คู่แข่งระดับโลกก็ทุกข์ทรมานเช่นกัน ฮุนได (HYMTF) ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ในอินเดียมียอดขายลดลง 10% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทางโตโยต้ายักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นก็ลดลง 24%

งานนับพันตำแหน่งทยอยปลด

9

ภาพจาก bit.ly/2MihacV

การตกต่ำครั้งนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องมีพนักงานที่ตกงานกว่า 330,000 ตำแหน่ง จากการที่มีการปิดตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และลดยอดผู้ผลิตชิ้นส่วน Mathur กล่าวจากข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมที่ควบคุมทั้งสองภาคส่วน

สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของอินเดียเตือนในแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า “สถานการณ์คล้ายวิกฤต” อาจส่งผลให้ประชาชนกว่าล้านคนถูกปลดออกจากงาน

ผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดียได้ทำการสำรวจพนักงานชั่วคราวอย่างน้อย 15,000 คน “อุตสาหกรรมหยุดการรับสมัครงานใหม่ทั้งหมด” เขากล่าวเสริม

8

นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดีย
ภาพจาก bit.ly/2YYzFZO

นั่นเป็นข่าวร้ายสำหรับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดียที่ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งจากการเลือกตั้งถล่มทลายในเดือนพฤษภาคม แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าที่สุดของอินเดียในห้าปีและอัตราการว่างงานสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ตัวแทนอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยประกันภาคธุรกิจเช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต พวกเขากำลังขอลดภาษีและขั้นตอนอื่น ๆ เพื่อให้ตลาดเดินหน้าได้ต่อไป

7

ภาพจาก bit.ly/2Ty8gZl

ตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจีนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษในปี 2561 เยอรมนีซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่างโฟล์คสวาเก้น (VLKAF), BMW (BMWYY) และเจ้าของเดมเลอร์ (DDAIF) ของเมอร์เซเดส – เบนซ์ยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบจากการปล่อยมลพิษดีเซล และยังมีสถานการณ์ที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปซึ่งแน่นอนว่าเกิดความยุ่งเหยิง

อินเดียเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่หลายแห่งที่ต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำครั้งใหญ่ เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกต้องเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้า

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีใหม่ และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ไม่ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่แค่ไหนก็ต้องปรับตัวเพื่อหาทางรับมือกับพายุใหญ่ครั้งนี้


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

อ้างอิงข้อมูล
cnn.it/31AKnTU
bit.ly/2OZ32HA