แฟรนไชส์บ้านรักภาษา ตอบโจทย์ผู้เรียน สร้างโอกาสให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ก้าวสู่ AEC

การเรียนภาษาต่างประเทศ ถือเป็นเครื่องมือ ในการแสวงหาความรู้ให้สำหรับผู้เรียน เพราะเมื่อใดที่เราเข้าใจภาษา นั่นหมายถึงเราสามารถนำเครื่องมือมาสื่อสารเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างสมรรถนะของคน (Competency) และเป็นทุนของมนุษย์ (Human Capital) อันเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของประเทศชาติ

โรงเรียนบ้านรักภาษา จึงเข้ามาตอบโจทย์เรื่องของการสื่อสาร ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ไทยสำหรับชาวต่างชาติ ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยเจ้าของภาษา ผสมผสานกับหลักสูตรที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ สำหรับคนไทยและต่างชาติ เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันสำหรับทุกวัย พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานและการแข่งขันในยุคปัจจุบัน

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงอยากนำพาผู้อ่านไปเจาะลึก และเปิดประตูเข้าไปส่องแฟรนไชส์บ้านรักษา ถึงที่มาที่ไปของธุรกิจ ความโดดเด่น ความน่าสนใจในการลงทุนแฟรนไชส์

Learning by doing เรียนรู้แบบบูรณาการ สู่ความยั่งยืน

แฟรนไชส์บ้านรักภาษา

ดร.มุขรินทร์ หวง (ครูเก๋) ผู้บริหารแฟรนไชส์บ้านรักภาษา เล่าว่า แฟรนไชส์บ้านรักภาษาเกิดจากความรักในงานสอนภาษาของ “ครูซุ่น” ซึ่งท่านเป็นคนไต้หวัน โดยช่วงที่สอนภาษาญี่ปุ่นอยู่ในไต้หวันนั้น ครูซุ่นมองว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการเรียนภาษาในเมืองไทยแล้ว ดูเหมือนว่าเด็กไทยเรียนแล้วไม่ค่อยได้ผล

ครูซุ่นจึงได้นำเอาวิธีการเรียนการสอนภาษาในไต้หวันมาปรับใช้ในเมืองไทย เรียกเป็นทฤษฎีว่า TPR หรือ Total Physical Response เกิดจากการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เด็กไทยเรียนรู้ต่อเนื่องและเกิดความคงทนในการเรียนรู้

กล่าวคือ เรียนไปแล้วต้องสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย สามารถพูดคุยกับฝรั่งหรือชาวต่างชาติได้ เรียนแล้วต้องไม่เกิด ต้องไม่เกิดการสูญเปล่า ไม่กลัวเวลาเจอและสื่อสารกับชาวต่างชาติ บ้านรักภาษาจึงนำมาปรับใช้กับเด็กไทย เพื่อให้เกิดความรู้ที่ยั่งยืน

2

ขณะเดียวกัน ช่วงที่นำทฤษฎี TPR เข้ามาสอนจริง บ้านรักภาษาก็ได้ทำการวิจัยเพิ่มขึ้นในชั้นเรียน เพื่อให้เข้ากับนิสัยและพฤติกรรมของเด็กไทย และเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด บ้านรักภาษาก็เลยทำโปรแกรมที่ทำให้เด็กต่อยอดความรู้เดิม โดยกำหนดและสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ต้องเป็นลักษณะ Learning by doing

บ้านรักภาษาทำให้เด็กได้เห็นภาพจริง ด้วยการไปทัศนศึกษา เพื่อเปิดโลกกว้าง มีแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน และช่วยให้เด็กได้เข้าใจวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ เพราะการนำภาษาไปใช้ ซึ่งจริงๆ แล้วการนำภาษาไปใช้ให้ได้ผล ต้องควบคู่ไปกับการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวต่างชาติด้วย

การไปทัศนศึกษาต่างประเทศ ถือเป็นการต่อยอดการเรียนรู้ให้เด็กที่เข้ามาเรียนบ้านรักภาษา เฉกเช่นการลงน้ำว่ายน้ำจริงโดยมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมีแนวทางการสอนและเทคนิคการสอนตามทฤษฎี TPR เดียวกันกับบ้านรักภาษา

โดยปกติคอร์สไปทัศนศึกษาต่างประเทศจะเป็นโปรแกรม 21 วัน หรือ 1 เดือน เพราะเป็นจำนวนวันที่เด็กไทยสามารถเรียนรู้ได้จริง ตอกแรกๆ ที่ไป เด็กอาจไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอถึงอาทิตย์ที่ 2 อาจพอพูดได้ แต่เป็นประโยคสั้นๆ แต่พอเข้าอาทิตย์ที่ 3 เด็กเริ่มฟังรู้เรื่อง เริ่มต่อประโยคแบบสมบูรณ์ได้มากขึ้น

นักลงทุนเลือกรูปแบบแฟรนไชส์ได้หลากหลาย

3

ปัจจุบันมีเด็กนักเรียนสมัครเข้าเรียนกับบ้านรักภาษา เฉพาะที่สำนักงานใหญ่ เปิดเรียนเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 200 คน โดยแต่ละสาขาแฟรนไชส์มีห้องเพียงพอรองรับเด็กที่ต้องการสมัครเข้ามาเรียน และแฟรนไชส์ซีที่ต้องการลงทุนแฟรนไชส์บ้านรักภาษา สามารถเลือกรูปแบบในการทำงานได้

โดยที่ผ่านมาแฟรนไชส์ซีหลายๆ คนเลือกลงทุนเพื่อรอเกษียณ หรือทำเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ บางแฟรนไชส์ซีก็ลาออกจากการทำงานประจำมาทำแฟรนไชส์เต็มรูปแบบ Full Time แต่ก็มีแม่บ้านที่หันมาทำงาน Full Time เพราะบ้านรักภาษามีโปรแกรมการทำงานแบบ Full Time ให้เลือกตามความเหมาะสม

ดังนั้น ผู้ประกอบการสามารถเลือกรูปแบบแฟรนไชสได้ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำโรงเรียนก็ได้ เพราะบ้านรักภาษามีสิทธิประโยชน์ในแง่ของแฟรนไชส์ มีการอบรมผู้ประกอบการ แต่ถ้ามีประสบการณ์ด้านการสอนมาบ้าง ก็ต้องเข้ามาอบรมด้านเทคนิคการสอนกับบ้านรักภาษา ซึ่งหลักสูตรแบ่งออกเป็นหลายหลักสูตร

อาทิ ภาษาจีนสำหรับเด็ก ติวเพิ่มเกรดเสริมการบ้าน เตรียมสอบ YCT, HSK, SDMISSION ภาษาจีนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก สนทนาสำหรับเด็กและบุคคลทั่วไป ภาษาจีนสำหรับวัยทำงาน ภาษาจีนเพื่อธุรกิจ ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ใหญ่ ภาษาอังกฤษธุรกิจ เป็นต้น

นอกจากนี้ แฟรนไชส์บ้านรักภาษายังมีคอร์ส Summer Fun Camp (วันธรรมดา ในช่วงปิดเทอม) และคอร์สทัศนศึกษาใน-นอกประเทศ (จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ USA UK) การเรียนต่อในประเทศอเมริกา ไต้หวัน ทั้งในการเรียนภาษา และในระดับปริญญาตรี โทและเอกไว้รองรับผู้ซื้อแฟรนไชส์อีกด้วย

4

ความโดดเด่นของบ้านรักภาษาอีกอย่างคือ บ้านรักภาษามีหลักสูตรที่สามารถนำไปเสนอองค์กรได้ เพราะการเรียนภาษาไม่เฉพาะกับเด็กอย่างเดียว คนทำงานก็สามารถเรียนได้ ต่อยอดการทำงานที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ

ถ้าผู้ประกอบการทำงานแบบ Full Time ก็สามารถนำไปเสนอโรงเรียน โดยจะแบ่งหลักสูตรออกเป็นระดับ อนุบาล ประถมต้น ประถมปลาย มัธยมต้น มัธยมปลาย ซึ่งจริงๆ บ้านรักภาษามีหลักสูตรที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกทำงานได้ตามความเหมาะสมกับตัวเอง

นอกจากนี้ นักลงทุนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์บ้านรักภาษา สามารถเลือกครูผู้สอนจากสำนักงานใหญ่เลยก็ได้ หรือเลือกครูที่รู้จักกันในพื้นที่ของตัวเองก็ได้ แต่ต้องส่งครูมาอบรมกับบ้านรักภาษา เพราะจะทำให้รูปแบบการเรียนการสอนเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยใช้เวลาอบรมประมาณ 4 วัน

สำหรับทำเลพื้นที่ในการลงทุนแฟรนไชส์บ้านรักภาษา อาจใช้ตึกแถวของตัวเอง คอมมูนิตี้มอลล์ หรือห้างสรรพสินค้าก็ได้ เพราะการลงทุนแฟรนไชส์การศึกษา ความสำเร็จส่วนใหญ่จะอยู่ที่คุณภาพของการเรียนการสอนมากกว่า ที่สำคัญลูกค้าก็มาจากการบอกต่อปากต่อปาก ไม่ได้เป็นธุรกิจที่ต้องดูทำเลอะไรมากมาย

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของพื้นที่ก็มีอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ในห้างสรรพสินค้าอาจคืนทุนภายใน 4 เดือน เพราะลูกค้าเดินเข้ามาเยอะ ส่วนพื้นที่ของตัวเองที่มีคนเดินผ่านน้อย อาจจะคืนทุนประมาณ 8 เดือน ถึง 1 ปี

โดยปัจจุบันแฟรนไชส์บ้านรักภาษาให้บริการเปิดสอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีคอร์สเรียนสำหรับผู้ปกครองช่วงเย็นวันอาทิตย์ สามารถขยายสาขาแฟรนไชส์แล้วกว่า 23 สาขาทั่วประเทศ โดยแต่ละสาขาแฟรนไชส์ได้มีการควบคุณภาพของเด็กนักเรียน ผ่านการทำแบบทดสอบประเมินผล ทั้งในสถาบันและนอกสถาบัน โดยให้เด็กไปสอบข้อสอบกลางของโลก
อย่างกรณีภาษาอังกฤษก็จะให้เด็กไปสอบข้อสอบ Cambridge Test

ถ้าเป็นภาษาจีนก็จะไปสอบ HSK ตรงนี้จะเป็นวิธีการควบคุมคุณภาพการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียน ส่วนเรื่องของครูผู้สอน ทางผู้ประกอบการแฟรนไชส์ซีและนักวิชาการของบ้านรักภาษาก็จะเข้าไปประเมินการสอนร่วมกัน

ทำไมต้องลงทุนแฟรนไชส์บ้านรักภาษา

5

หากถามว่าทำไมต้องลงทุนแฟรนไชส์บ้านรักภาษา ครูเก๋ บอกว่า เพราะแฟรนไชส์บ้านรักภาษาช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น คนที่ไม่เคยทำแฟรนไชส์การศึกษาก็สามารถทำได้ เนื่องจากบ้านรักภาษาได้ออกแบบโปรแกรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับนักลงทุน บริหารงานง่ายขึ้น

ประการสำคัญบ้านรักภาษา ไม่ได้เปิดสอนเฉพาะเด็กๆ แต่สามารถต่อยอดไปถึงคนที่ทำงานแล้ว บ้านรักภาษามีหลักสูตรที่นำไปสู่โรงเรียน นำไปสู่องค์กร ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น ที่สำคัญเด็กที่เข้ามาเรียนกับบ้านรักภาษา สามารถเรียนรู้ผ่านวิดีโอ มีคอร์สซัมเมอร์ต่างประเทศ มีการเรียนรู้นอกห้องเรียน ตรงนี้จะทำให้เด็กที่สมัครเรียนบ้านรักภาษาสามารถนำเอาความรู้ไปใช้ได้จริง และใช้ประกอบอาชีพได้

เห็นได้ว่า ภาษาอังกฤษและภาษาจีนกลาง เป็นภาษาโลกที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารมากที่สุด ทั้งในด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรม ด้านวิชาการ ฯลฯ ดังนั้น การเรียนรู้ภาษาอย่างถูกต้องต่อเนื่องโดยครูเจ้าของภาษาของ “บ้านรักภาษา” จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้ทันความก้าวหน้าของโลกในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ซึ่งประเทศกำลังมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในธุรกิจ และการค้าโลก

6

ผู้อ่านท่านใดที่สนใจอยากลงทุนแฟรนไชส์บ้านรักภาษา สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการลงทุนแฟรนไชส เพิ่มเติม

  • ดร.มุขรินทร์ หวง
  • โทร. 02-985-2887, 083-009-4999
  • อีเมล์ kaes19999@gmail.com, banrakpasa2@gmail.com
  • เว็บไซต์ www.banrakpasa.com

ข้อมูลแฟรนไชส์ บ้านรักภาษา

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3iSTrxs

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด