แจกฟรี 20 ไอเดีย ตั้งชื่อบทความ ให้ดังปังเร็ว!

ชื่อบทความที่ดีคือหน้าด่านแรกที่ดึงดูดให้คนสนใจได้ ลองคิดดูว่าถ้าเราตั้งชื่อบทความแบบที่ใครเห็นแล้วก็ไม่อยากอ่าน เช่น การหารายได้แบบเราทำเอง , วิธีทำอาหารทั่วไปใครๆ ก็ทำได้ จะเห็นได้ว่า ชื่อบทความแบบนี้ไม่มีแรงดึงดูดใจมากพอ คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องอ่านบทความแบบนี้ก็ได้

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com คิดว่านักเขียนที่ดีต้องมีเทคนิคในการตั้งชื่อบทความเราจึงรวบรวมเป็น 20 ไอเดียน่าสนใจที่เชื่อว่าใครได้ลองทำตาม บทความที่เราเขียนจะดัง ปังเร็ว มากขึ้น

1. คิดชื่อบทความเอาไว้หลายๆชื่อ

ตั้งชื่อบทความ

ภาพจาก freepik.com

ข้อดีของวิธีนี้คือเมื่อเขียนบทความเสร็จค่อยมาคิดเรื่องชื่อว่าควรตั้งแบบไหนให้สัมพันธ์กับเนื้อหาที่เราเขียนได้มากที่สุด อะไรคือ Pain Point สำคัญของเนื้อหา แล้วลองคิดชื่อบทความออกมาหลายๆอัน เลือกชื่อที่ดีและคิดว่เหมาะสมกับบทความเราที่สุด

2. ใช้ “ตัวเลข” ประกอบในชื่อบทความ

7

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

จากผลการวิจัยจาก Conductor ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่าผู้อ่านกว่า 36% ชอบชื่อบทความที่มีตัวเลขอยู่ที่สุด ส่วนเรื่องวิธีการแก้ปัญหา, How-to และการถามคำถามเป็นวิธีที่คนอ่านชื่นชอบรองลงมา หากพาดหัวบทความไหนมีตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง มักจะทำให้ผู้พบเห็นหยุดอ่านชื่อบทความ เช่น 5 เทคนิคตั้งชื่อบทความอย่างไรให้ปัง!, แจกฟรี 9 เว็บไซต์การตลาด เป็นต้น

3. พลังของคำว่า “ฟรี”

คำว่า “ฟรี” ปรากฏอยู่ที่ไหน ก็มีคนสนใจหรือจะเป็นคำอื่นที่มีพลังใกล้เคียงกันเช่น สุดเจ๋ง ขั้นเทพ ปัง! ก็มีพลังในการดึงดูดใจได้เช่นกัน สังเกตว่าถ้าเห็นบทความไหนมีคำเหล่านี้เราต้องหยุดอ่านหัวข้อก่อนเสมอ เช่น แจกฟรี! วิธีสร้างรายได้ฉบับรวยเร็ว , การหารายได้ขั้นเทพ! เริ่มต้นได้ทันที เป็นต้น

4. ชื่อบทความ “เชิงคำถาม”

6

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

ใช้ชื่อแบบตั้งคำถามเป็นการกระตุ้นความอยากรู้ของคนอ่านได้มากที่สุด คำเหล่านี้เช่น เช่น รู้หรือไม่!? ทำไม แบบไหน ทำอย่างไร สำคัญคือเนื้อหาข้างในต้องตอบคำถามได้จริงเพื่อคนอ่านจะได้รู้สึกว่าอ่านแล้วได้สาระจริง ๆ เช่น รู้หรือไม่ ทำไมเราต้องนอนหลับ! , ทำอย่างไรจะได้เป็นเศรษฐี 100 ล้าน เป็นต้น

5. ชื่อบทความที่เข้าใจความรู้สึกคนอ่าน

เราต้องรู้ก่อนว่า ณ ขณะนี้คนส่วนใหญ่ เขาต้องการค้นหาข้อมูลอะไร อาจจะยึดตามเทรนด์ในช่วงนั้นดูด้วยก็ได้ว่า อะไรที่กำลังเป็นกระเเส เเละคนให้ความสนใจเยอะ โดยเราอาจใช้เทคนิคการค้นหาในโซเชี่ยลว่าเรื่องอะไรที่คนสนใจที่สุด แล้วจึงนำมาตั้งเป็นชื่อบทความได้

6. เล่นกับความ “ต้องการ” ในใจคน

เทคนิคนี้เรียกว่า Scarcity Marketing แปลเป็น ว่าการเล่นกับความกลัว (ที่จะขาดแคลน) เช่นกลัวสินค้าที่เราต้องการจะหมดก่อนเราซื้อ กลัวสินค้าที่เราต้องการจะขึ้นราคา กลัวว่าจะมีคนอื่นมาแย่งของของเราไป ชื่อบทความในลักษณะนี้เช่น 2 วันสุดท้าย! LINE ขอท้าเหล่าโปรแกรมเมอร์ ดีไซเนอร์ มาร่วมสร้าง Service เจ๋งๆ กับ LINE HACK” เป็นต้น

7. ชื่อบทความที่ขัดใจคนอ่าน

5

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

คือลองมองมุมกลับ ปรับมุมมอง ใช้ชื่อที่ดูแล้วคนไม่น่าจะชอบ หรือชื่อที่ดูแล้วคนน่าจะไม่เห็นด้วยมาเป็นหัวข้อบทความ เรื่องนี้อธิบายไปก็อาจจะไม่ค่อยเห็นภาพ มาดูตัวอย่างจริงกัน เช่น “4 เหตุผลที่คุณไม่ควรออมเงิน” , “รวมวิธีสร้างรายได้จากการเป็นคนขี้เกียจ” เป็นต้น

8. ชื่อบทความที่ “แก้ปัญหาให้คนอ่าน”

คือการรวมเอาชื่อบทความที่ใช้ปัญหาเป็นหลักในการเขียน สะท้อนให้เห็นว่าเราใส่ใจความรู้สึกของคนอ่าน และหากจะให้ดีในชื่อบทความต้องมีลักษณะของการแก้ปัญหา นั้นได้ แต่ข้อควรระวังคือ อย่าไปตั้งชื่อบทความถ้าเรายังแก้ปัญหาไม่ได้จริงๆเพราะจะกลายเป็นการหลอกลวงคนอ่าน ชื่อบทความในลักษณะนี้เช่น “วิธีเช็คว่าเว็บไซต์ของเรารองรับการดูบนสมาร์ทโฟนหรือไม่ (ภายใน 1 วินาที) เป็นต้น

9. เน้นเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน

เน้นให้ ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อหาในเรื่องมีลักษณะแบบไหน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และการตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ยังทำให้ผู้อ่านสามารถพิจารณาได้ว่าเนื้อหาเรื่องราวนี้เป็นสิ่งที่ต้องการอ่านหรือไม่

10. ใช้คำที่ “ดึงดูด” ผู้อ่าน

เป็นคำที่ชี้ให้เห็นถึงความพิเศษ และประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับจากการอ่าน ที่มากกว่าความรู้ทั่วไปที่ได้อ่านจากที่อื่นเช่นการใช้คำว่า เทคนิค เคล็ดลับ วิธีการ แนวทาง สูตร หลักการ หรือการใส่คำสั้นๆ อย่าง เจ๋ง เยี่ยม ที่สุด หายาก ไม่มีอีกแล้ว เหล่านี้เป็นต้น

11. ใช้คำเชิงปฏิเสธ

4

ภาพจาก www.thaifranchisecenter.com

โดยเลือกใช้คำในเชิงปฏิเสธอย่าง อย่า ห้าม ห้ามพลาด หยุด ไม่ ไม่ต้อง และอีกหลายๆ คำที่มีความหมายในเชิงปฏิเสธ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้บทความดูน่าสนใจมากขึ้น

12. ชื่อบทความที่เป็นรีวิวจากผู้ใช้งาน

การใช้ สถิติ รีวิว หรือสิ่งที่คนในสังคมให้การยอมรับเชื่อถือ ในการตั้งชื่อหัวข้อนั้นสามารถดึงดูดความสนใจได้ดีและทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าหัวข้อนั้นเชื่อถือได้ ให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งในการตั้งหัวข้อรูปแบบนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเกิดความสนใจอยากจะเข้าไปอ่าน เช่น เปิดความลับที่ช่วยให้ Apple ประสบความสำเร็จ , รถยนต์ไฟฟ้าดีอย่างไร จากผู้ใช้งานจริง เป็นต้น

13. ชื่อบทความอ้างอิงจาก “คนดังระดับโลก”

การที่ชื่อบทความมีอ้างอิงคนดังระดับโลกจะเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น เช่น วิธีง่ายๆที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จแบบ วอร์เรน บัฟเฟตต์ , การก้าวสู่ความสำเร็จในการทำงานแบบสตีฟจ๊อบส์ เป็นต้น ทั้งนี้เนื้อหาในบทความก็ต้องอ้างอิงและพูดถึงแนวคิดหลักการของคนที่เรานำมาพูดถึงด้วย

14. ชื่อบทความใช้คำ “ขัดแย้ง”

3

ภาพจาก blockdit.com/thaifranchisecenter

คำขัดแย้งหรือคำตรงข้าม เป็นเสน่ห์ในการตั้งชื่อบทความที่ทำให้คนอ่านสงสัย หลายคนใช้แนวคิดนี้ในการตั้งชื่อบทความ เช่น วิธีลดความอ้วนด้วยการกิน , รวมวิธีสร้างรายได้แบบไม่ต้องลงทุน , การหาเงินแบบง่ายๆ อยู่บ้านก็ทำได้ เป็นต้น

15.ตั้งชื่อบทความแบบ “ห้ามทำ”

คำว่า “ยิ่งห้ามยิ่งอยากรู้” เป็นเชิงจิตวิทยาแบบหนึ่ง การตั้งชื่อบทความแนวนี้ คือเล่นกับความคิดของคน เช่น อย่าซื้อคอมพิวเตอร์ ถ้ายังไม่ได้อ่านบทความนี้ , ห้ามลงทุน! ถ้ายังไม่รู้จักสุดยอดเทคนิค เป็นต้น

16. ใช้คำว่า “ความลับ”

อะไรที่เป็นความลับคนเรามักอยากรู้เสมอ การตั้งชื่อบทความก็เช่นกัน หากมีคำว่า สูตรเด็ด , เคล็ดลับ , เรื่องที่คุณไม่รู้ จะทำให้บทความดูน่าสนใจขึ้น เช่น สูตรเด็ดพาคุณรวยด้วยอาหารทะเล , เปิดความลับร้านอาหารชื่อดัง ทำไมถึงฮิต เป็นต้น

17. เติมปี xxx ท้ายชื่อบทความ

2

ภาพจาก thaismescenter.com

การลงท้ายชื่อบทความด้วย ปีนั้นๆ เหมือนกับเป็นการอัพเดทและบอกให้คนอ่านรู้ว่านี่คือข้อมูลล่าสุด และเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและน่าสนใจเช่น รวมฮิตเทรนด์เทคโนโลยีปี 2021 , จัดอันดับอาหารยอดฮิตปี 2021 เป็นต้น

18. ชื่อบทความ “ที่สอนการหาเงิน”

ในยุคที่คนอยากมีรายได้เพิ่ม บทความที่สอนการหาเงินคือสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นชื่อบทความต้องสอดคล้องกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เช่น 5 วิธีรวยด้วยโทรศัพท์มือถือ , สอนเทคนิคการหาเงิน ด้วยการเล่นเกม เป็นต้น

19. เทคนิคการใช้คำว่า “VS”

เป็นชื่อบทความเชิงเปรียบเทียบ ที่กระตุ้นให้คนอ่านรู้สึกว่าอยากรู้มากขึ้น เหมือนการประคบคู่หากเป็นมวยถูกคู่ก็ยิ่งน่าสนใจ เช่น แมคโดนัลส์ VS เคเอฟซี ใครรวยกว่ากัน , พิซซ่าฮัท VS พิซซ่า คอมปานี ร้านไหนถูกไหนคนไทยที่สุด

20. เทคนิคตั้งชื่อบทความด้วย “เวลา”

1

ภาพจาก thaismescenter.com

การนำเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องในชื่อบทความเพิ่มเสน่ห์ให้คนอ่านรู้สึกว่าจะได้รับประโยชน์จากบทความในเวลารวดเร็วและรู้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่กับบทความนี้ หรืออ่านแล้วในกี่นาที เราจะเก่งขึ้น ดีขึ้น เช่น “English ขั้นเทพ! เก่งภาษาอังกฤษได้ใน 1 อาทิตย์” , สอนเทคนิคซ่อมโทรศัพท์อย่างง่าย เปิดร้านได้ภายใน 10 นาที เป็นต้น

ทั้งนี้ไม่ว่าจะตั้งชื่อบทความดีแค่ไหน สุดท้ายสิ่งสำคัญสุดก็คือเนื้อหาที่ผู้อ่านต้องรู้สึกว่าคุ้มค่า และไม่ใช่การตั้งชื่อให้น่าสนใจแต่เนื้อหาข้างในไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ หรือมีความรู้ใหม่ๆ สอดแทรก ซึ่งการตั้งชื่อบทความที่โอเว่อร์เกินจริง และไม่สมเหตุสมผลกับเนื้อหา จะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการเขียนบทความ ที่อาจไม่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3fLXCLk , https://bit.ly/3uN1dgn , https://bit.ly/3z00V9s , https://bit.ly/3g4Uf1e , https://bit.ly/3cgbP13

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3j95pVR

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด