แจกฟรี! 20 เมนูอาหารคลีน ทำง่าย ขายดี

อาหารคลีนหรืออาหารเพื่อสุขภาพประเภททานแล้วไม่อ้วนมีปริมาณแคลอรี่ไม่มากสามารถเผาผลาญออกมาได้ในเวลาอันสั้น เป็นประเภทอาหารที่สาวๆ ให้ความสนใจ

แต่ที่น่าสนใจกว่าคือราคาในการขายที่ขั้นต่ำประมาณ 40-50 บาทอันเนื่องมาจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ว่ากันตามจริงหากเราซื้อวัตถุดิบมาจำนวนมากๆ ก็จะได้ราคาต้นทุนที่ถูกลงและสามารถขายในราคาที่สูงได้ เท่ากับเราจะมีกำไรมากขึ้น

อย่างไรก็ดีก่อนคิดจะทำขายก็ควรฝึกฝนฝีมือในการทำให้ช่ำชองพร้อมกันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ได้จัดมาให้20เมนูอาหารคลีนที่หน้าตาดี กินแล้วไม่อ้วน ใครที่สนใจสามารถเอาไปฝึกทำสร้างรายได้เสริมของตัวเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

1.ไข่เจียวพระอาทิตย์

เมนูอาหารคลีน

ภาพจาก goo.gl/oEnAKS , goo.gl/Gqe4jg

เมนูเพื่อคนรักสุขภาพที่ไม่ใช้น้ำมันพืชในการทอดไข่และมีส่วนประกอบของผักและข้าวกล้อง สำหรับสายคลีนแล้วถือเป็นเมนูที่นอกจากอิ่มท้องแล้วยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายด้วย

ส่วนผสม

  1. ไข่ไก่
  2. ชะอมหั่นหยาบ
  3. ข้าวกล้องหอมมะลิ
  4. เห็ดเป๋าฮื้อ
  5. น้ำปลา
  6. น้ำมันมะกอก

วิธีทำ

  1. นำชะอม ข้าวกล้องสุก ไข่ไก่ เห็ดเป่าฮื้อ ผสมเข้าด้วยกันปรุงรสด้วยน้ำปลา พักไว้
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยเปิดไฟปานกลาง เทส่วนผสมในข้อ 1 เกลี่ยให้ส่วนผสมกระจายทั่วกระทะ
  3. พอไข่ด้านล่างเริ่มสุก จึงพลิกกลับด้าน และทอดไข่อีกด้านให้สุกเหลืองเสมอกัน จากนั้นตักเสิร์ฟได้ทันที

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 20 บาท ขาย 30 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


2.ดอลลี่อบไส้ผลไม้

s2

ภาพจาก goo.gl/khWN6p

เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบอย่างปลาดอลลี่ แอปเปิ้ล  สับปะรดมาเป็นส่วนประกอบ ใช้ไอเดียสร้างสรรค์กลายเป็นเมนูสุขภาพที่นอกจากทำกินเองได้ง่ายๆ ยังทำขายมีรายได้ดีอีกด้วย

ส่วนผสม

  1. 1.ปลาดอลลี่
  2. สับปะรดห่ามๆหั่นชิ้นบางๆ
  3. แอปเปิ้ลแดงหั่นชิ้นบางๆ
  4. ด้ายสำหรับพันปลา
  5. ผักลวกตามชอบ

วิธีทำ

  1. นำสับปะรดกับแอปเปิ้ลทอดในกระทะจนแห้ง หรืออบในอุณหภูมิ 160 องศานาน 5 นาที
  2. นำผลไม้ที่แห้งแล้วไปวางบนชิ้นปลาดอลลี่แล้วค่อยๆม้วน ใช้ด้ายเย็บผ้าผูกให้ไม่หลุดแยกออก
  3. นำชิ้นปลาที่ม้วนแล้วใส่ถ้วยเล็กๆ นำเข้าอบ อุณหภูมิ 190 องศานาน 12-15 นาที หรือจนเนื้อปลาสุก
  4. ตัดด้านออก และหั่นเป็นชิ้น เพื่อสะดวกในการรับประทานแบบพอดีคำ

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 25 บาท ขาย 40 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


3.ไข่เจียวฟักทอง

s3

ภาพจาก goo.gl/4TZW9V

เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารให้มากขึ้นเมื่อไข่เจียวมาผสมกับฟักทองที่ทำให้ได้รับวิตามินมากขึ้น ซึ่งสีเหลืองจากไข่เจียวธรรมดาก็ถูกทำให้เหลืองยิ่งขึ้นจากฟักทอง ใครเห็นเป็นต้องอยากลองทานดูสักครั้ง

ส่วนผสม

  1. ฟักทองต้มหั่นชิ้น
  2. ไข่ไก่
  3. เกลือ
  4. พริกไทยดำ
  5. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

  1. นำฟักทองต้ม ไข่ไก่ ตีผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำ
  2. ใส่น้ำมันพอเคลือบกระทะ เปิดไฟกลางเทส่วนผสมลงไปรอไข่ด้านล่างเซทตัว
  3. ที่ต้องระวังคือการกลับด้านจะทำให้ไข่แตกตัวได้ แนะนำให้ใช้กระทะขนาดเล็กและหาจานมาครอบก่อนพลิกอีกด้านจะช่วยให้ไข่เจียวฟักทองของเราคงรูปอยู่ได้
  4. ทอดจนสุกเหลืองพร้อมเสิร์ฟได้ทันที

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 15 บาท ขาย 25 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


4.ไก่อบผลไม้

s4

ภาพจาก goo.gl/UD7AP3

วัตถุดิบอย่างอกไก่เป็นส่วนประกอบสำคัญในเมนูสุขภาพมากมาย เพราะเป็นส่วนที่ปราศจากไขมันทำให้ทานได้แบบไม่อ้วน เมนูนี้เอาอกไก่มารวมกับผลไม้กลายเป็นไก่อบผลไม้ที่รสชาติโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ส่วนผสม

  1. อกไก่
  2. มะเขือเทศสับทั้งเม็ด
  3. สับปะรดห่ามๆ
  4. ออริกาโน่
  5. พริกไทยดำป่น
  6. โรสแมรี่สด
  7. เกลือป่น

วิธีทำ

  1. นำอกไก่ ผสมกับมะเขือเทศสับ สับปะรดห่ามๆ ออริกาโน่ โรสแมรี่ เติมรสด้วยพริกไทยดำ และเกลือป่น นำมานวดผสมคลุกเคล้าให้วัตถุดิบซึมเข้าเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที
  2. ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง เมนูนี้ไม่ใช้น้ำมันเพราะมีน้ำจากซอสมะเขือเทศและสับปะรดเพียงพออยู่แล้ว
  3. ทอดอกไก่ที่หมักได้ที่จนมะเขือและสับปะรดเทศสุกนุ่ม เป็นสีน้ำตาลนิดๆ จากนั้นปิดฝากระทะอบให้ระอุหอม เนื้อไก่แห้ง ประมาณ 1-2 นาทีด้วยไฟอ่อน
  4. เมื่ออบจนได้ที่ ตักขึ้นมาใส่จานหรือกล่องพร้อมเสิร์ฟต่อไป

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 35 บาท ขาย 50 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


5.ไข่ทรงเครื่อง

d1

ภาพจาก goo.gl/images/baX5vx

นอกจากจะเป็นเมนูสุขภาพของคนรักสุขภาพยังอาจเป็นเมนูสำหรับน้องๆ หนูได้เป็นอย่างดี สีสันหน้าตาของไข่ทรงเครื่องถือว่าสอบผ่าน ทำขายเป็นอาชีพเสริมในตอนเช้าๆ ได้อย่างดีอีกด้วย

ส่วนผสม

  1. ไข่ไก่
  2. นมสดหรือนมถั่วเหลือง
  3. อกไก่หั่นเป็นชิ้น
  4. เห็ดเข็มทอง
  5. มะเขือเทศ
  6. แตงกวาญี่ปุ่น
  7. เกลือ
  8. พริกไทย
  9. น้ำมันมะกอก

วิธีทำ

  1. นำน้ำมันมะกอกทาที่พิมพ์ทรงเหลี่ยม (พิมพ์ทำขนมปัง) เรียงไก่ลงไป ตามด้วยเห็ดเข็มทอง
  2. นำไข่และนมผสมให้เข้ากัน ปรุงรสนิดหน่อยด้วยเกลือพริกไทย จากนั้นราดไปบนพิมพ์ที่เรียงไก่และเห็ดเอาไว้
  3. นำแตงกวาและมะเขือเทศฝานบางๆมาเรียง ด้านหน้า
  4. นำเข้าอบ 200 องศา 30-35 นาที หรือจนกว่าจะสุกเหลืองตามชอบ
  5. แนะนำว่าหากไม่มีเตาอบอาจใช้กระทะแบบไม่ต้องใช้น้ำมันในการทอดไข่เจียวทรงเครื่องแทนก็ได้

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 25 บาท ขาย 35 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


6.แซนด์วิช อกไก่นุ่ม

s6

ภาพจาก goo.gl/MsfGWy

กินง่ายทานง่ายในตอนเช้าก็คือแซนด์วิชและถ้าจะหาเมนูสุขภาพขอแนะนำแซนด์วิชอกไก่นุ่ม ที่ใช้ส่วนประกอบบจากขนมปังโฮลวีท ราดน้ำสลัดเพิ่มรสชาติ วางขายเป็นชิ้น หรือใส่เป็นกล่องจัดแพคเกจดีๆ รับรองมีคนสนใจจำนวนมาก

ส่วนผสม

  1. ขนมปังโฮลวีช
  2. มะเขือเทศ
  3. ผักกาดหอม หรือผักสลัดตามชอบ
  4. น้ำสลัด 
  5. อกไก่นุ่มปรุงสำเร็จ

วิธีทำ

  1. ล้างผักให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แนะนำว่าผักต่างๆ ที่ซื้อมาแล้วควรจะนำไปแช่ เบกกิ้งโซดา โดยนำมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วแช่ผักไว้ 10-15 นาที เพื่อล้างสารพิษ
  2. นำไก่เข้าไมโครเวฟและ เอาออกมาหันแร่เป็นชิ้นบางๆ หรือจะหั่นเป็นชิ้นๆ ก็แล้วแต่ชอบ
  3. วางผักที่หั่นไว้ และไก่อกนุ่มปรุงสำเร็จ ลงบนขนมปังโฮลวีท ราดน้ำสลัดเพิ่มรสชาติ ประกบขนมปังอีกแผ่นทับลงไป

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 25 บาท ขาย 35 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


7.สลัดผักอกไก่นุ่ม

s7

ภาพจาก goo.gl/eDhyTv

เมนูสุขภาพก็ต้องนึกถึงผัก ดังนั้นเมนูสลัดต้องมีและนี่คือการผสมผสานระหว่างผักสลัดกับอกไก่นุ่มที่ทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนทั้งวิตามินและโปรตีน เป็นเมนูที่ทำขายได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มรายได้ให้กับเราได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสม

  1. ผักต่างๆ เช่น แครอท ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ และผลไม้ตามใจชอบ
  2. อกไก่นุ่มปรุงสำเร็จ
  3. ไข่ต้ม
  4. น้ำสลัด

วิธีการทำ

  1. ล้างผักให้สะอาด ผักชนิดไหนที่สามารถทานสดได้ก็ไม่ต้องลวกหรือต้ม
  2. นำไก่เข้าไมโครเวฟ แล้วเอาออกมาหั่น จะฉีกเป็นฝอยๆ จากนั้นก็หั่นไข่ต้มฝานบางๆ
  3. จัดวางผักที่ล้างแล้วลงบนภาชนะที่เตรียมไว้ได้เลย วางไข่ต้ม อกไก่นุ่มลงไป แล้วโรยหน้าด้วยน้ำสลัด พร้อมเสิร์ฟ

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 30 บาท ขาย 40 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


8.บานาน่าโรล

s8

ภาพจาก goo.gl/7nMJKM

จุดเด่นที่น่าสนใจคือเป็นเมนูแบบพอดีคำใช้วัตถุดิบหลักคือกล้วยหอมและขนมปังโฮลวีท เป็นเมนูคลีนที่อิ่มอร่อยกินได้เพลินๆ และวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากด้วย

ส่วนผสม

  1. ขนมปังโฮลวีท
  2. เนยถั่ว
  3. กล้วยหอม

วิธีทำ

  1. ตัดขอบขนมปังออก รีดขนมปังให้บางโดยใช้ที่นวดแป้งหรือสากก็ได้
  2. ทาเนยถั่วลงบนขนมปังให้ถั่ว และนำกล้วยหอมมาวางบนขนมปังที่ทาเนย ม้วนขนมปังให้พันรอบกล้วย
  3. หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำพร้อมรับประทาน

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 15 บาท ขาย 25 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


9.ไก่นึ่งบล็อกโคลี่

8

ภาพจาก bit.ly/2EWR3D3

เมนูยอดฮิตที่เราเห็นในตลาดกับสีผักเขียวๆของบล็อกโคลี่จัดวางคู่กับไก่ที่นึ่งสุก เป็นเมนูที่ให้สารอาหารได้อย่างดีและเป็นเมนูสุขภาพที่คนส่วนใหญ่นึกถึง

ส่วนผสม

  1. อกไก่
  2. บล็อกโคลี่
  3. ถั่วลันเตา
  4. น้ำมันมะกอก
  5. ซอสถั่วเหลือง
  6. ผงกระเทียม
  7. งาขาวคั่ว

วิธีทำ

  1. นำอกไก่นึ่งให้สุก นำออกมาพักไว้แล้วนำบล็อกโคลี่กับถั่วลันเตาไปนึ่งให้สุกเช่นกัน
  2. เมื่อผักนึ่งสุกแล้วนำผักและไก่ออกมาใส่จาน จากนั้นโรยน้ำมันมะกอก ซอสถั่วเหลือง ผงกระเทียม งาขาวคั่ว ลงบนผักและไก่ ได้เมนูแสนอร่อยที่ใช้เวลาไม่นาน

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 35 บาท ขาย 50 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


10.บวชฟักทอง

s9

ภาพจาก goo.gl/QiNyKW

มาลองของหวานสายคลีนกันบ้าง บวชฟักทองจานนี้ไม่มีส่วนประกอบของกะทิแต่ใช้นมสดไขมันต่ำผสมน้ำผึ้งเพิ่มความหวานเป็นอีกรสชาติที่ได้ลองทำแล้วจะติดใจ

ส่วนผสม

  1. ฟักทองนึ่ง
  2. นมไขมันต่ำ
  3. น้ำผึ้ง

วิธีทำ

  1. นำนมไขมันต่ำและน้ำผึ้งผสมลงในถ้วย จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟ
  2. นำนมสดที่ได้จากการอบเรียบร้อยราดลงบนฟักทองนึ่ง จะกลายเป็นเมนูคลีนแสนง่ายที่มีแคลอรี่ 80 กิโลแคลอรี่เท่านั้น

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 20 บาท ขาย 30 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


11.ไข่ผัดมะเขือเทศ

s10

ภาพจาก goo.gl/CvYPDZ

สีสันของไข่ผัดมะเขือเทศจะได้ความเหลืองของไข่เจียวตัดกับสีแดงจากมะเขือเทศ เป็นเมนูที่อร่อยโดยเฉพาะรับประทานตอนปรุงเสร็จใหม่ สามารถปรุงรสเพิ่มด้วยพริกไทยป่น ให้มีรสชาติเผ็ดร้อนนิดๆ

ส่วนผสม

  1. ไข่ไก่
  2. น้ำมัน
  3. มะเขือเทศ
  4. เกลือ
  5. ต้มหอมซอย
  6. พริกไทยป่น

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันเล็กน้อยหรือจะเลือกใช้กระทะที่ไม่ต้องใช้น้ำมันทอดก็ได้ จากนั้นตีไข่ไก่ใส่ถ้วยเทลงกระทะใช้ไฟอ่อนในการปรุง
  2. ใส่มะเขือเทศลงไปผัดกับไข่ พยายามอย่าให้มะเขือเทศสุกเกินไปป้องกันมะเขือเทศเละ
  3. ปรุงรสด้วยเกลือ โรยต้นหอมซอยและพริกไทยป่น ตักใส่กล่องหรือเสิร์ฟทานร้อนๆได้ทันที

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 20 บาท ขาย 30 บาท กำไร 10บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


12.กระเพราปลาดอลลี่

s11

ภาพจาก goo.gl/TMosdF

ใครที่อยากเป็นสายคลีนแต่ก็อยากจะทานเผ็ดแนะนำเมนูนี้ที่ใช้ปลาดอลลี่เป็นวัตถุดิบหลักนำมาผัดกระเพราเมนูสุดฮิตของคนไทยหลายยุคสมัย จะทำกินเองหรือทำขายก็น่าสนใจทั้งนั้น

ส่วนผสม

  1. ปลาดอลลี่
  2. พริกและกระทียมสับ
  3. หอมหัวใหญ่
  4. ใบกระเพรา
  5. พริกไทย
  6. ซอสหอยนางรม
  7. ซอสมะเขือเทศ
  8. พริกชี้ฟ้า

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะให้ร้อนน้ำมันเล็กน้อย จากนั้นนำพริกและกระเทียมสับลงไปผัดจนได้กลิ่นหอมตามด้วยหอมหัวใหญ่
  2. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรมและซอสมะเขือเทศ จากนั้นนำปลาดอลลี่ลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. นำพริกชี้ฟ้าและใบกระเพราลงไปผัด ตักใส่จานหรือกล่องพร้อมเสิร์ฟได้

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 35 บาท ขาย 50 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


13.ลาบปลาทูน่า

q4

ภาพจาก goo.gl/7NsKSy

เมนูสุดง่ายแต่รสชาติไม่ธรรมดา ปัจจุบันมีทูน่ากระป๋องที่ให้เราเลือกซื้อจากร้านสะดวกซื้อได้ง่ายๆ แค่นำมาปรุงรสใส่ข้าวคั่ว ใส่พริก เติมผักสด  ใส่ใบโหระพา แค่นี้ก็สุดฟินกับเมนูสายคลีนได้แล้ว

ส่วนผสม

  1. เนื้อปลาทูน่ากระป๋องในน้ำแร่
  2. พริกป่น
  3. น้ำมะนาว
  4. น้ำปลา
  5. ข้าวคั่ว
  6. หอมแดงซอย
  7. ใบโหระพา
  8. ต้นหอมซอย
  9. ผักชีซอย
  10. ผักสดตามชอบ

วิธีทำ

  1. แกะปลาทูน่าในน้ำแร่ แล้วบีบน้ำออกให้แห้ง
  2. นำเนื้อปลาทูน่าที่บีบน้ำแล้วมาปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว หอมแดงซอย ใบโหระพา ต้นหอม ผักชีซอย ปรุงรสเพิ่มเติมตามที่ต้องการ

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 50 บาท (ปลาทูน่าในน้ำแร่กระป๋องละประมาณ 40 บาท) ขาย 60 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


14.ส้มตำข้าวโพด

v10

ภาพจาก goo.gl/YbtfkK

ใครที่ชอบอาหารประเภทส้มตำแต่อยากเป็นสายคลีนเราก็ขอแนะนำส้มตำข้าวโพดที่ใช้ข้าวโพดต้มแทนมะละกอ จากนั้นก็ใส่วัตถุดิบแบบเดียวกับส้มตำแต่ไม่มีปูดองหรือปูปลาร้า แต่ก็รับประกันความแซ่บได้เช่นกัน

ส่วนผสม

  1. ข้าวโพดต้ม
  2. ถั่วฝักยาว
  3. มะเขือเทศ
  4. แครอทฝานเป็นเส้น
  5. พริกขี้หนู
  6. กระเทียมสับ
  7. น้ำปลา
  8. น้ำตาลมะพร้าว
  9. ถั่วลิสงอบ

วิธีทำ

  1. ฝานข้าวโพด หั่นถั่วฝักยาว หั่นมะเขือเทศ และฝานแครอทหั่นเป็นเส้น ๆ เตรียมไว้
  2. ปรุงน้ำยำด้วยพริกขี้หนู กระเทียมสับหยาบ ๆ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว ชิมรสตามชอบ
  3. นำน้ำยำไปคลุกกับเครื่องที่เตรียมไว้ โรยด้วยถั่วลิสงอบ

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 20 บาท ขาย 30 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


15.ผัดผักรวมมิตร

v8

ภาพจาก goo.gl/K3SNHV

เอ่ยชื่อเมนูสายคลีนต้องได้ยินชื่อผัดผักรวมมิตรที่ได้ประโยชน์จากผักชนิดต่างๆ อาจเพิ่มรสชาติให้อร่อยด้วยอกไก่ ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ รับรองอิ่มอร่อยแบบไม่อ้วนแน่นอน

ส่วนผสม

  1. กระเทียมสับ
  2. อกไก่ลอกหนัง หั่นเป็นชิ้น
  3. ผักตามชอบ เช่น ข้าวโพดอ่อน, แครอท, ถั่วแขก
  4. น้ำปลา
  5. ซีอิ๊วขาว
  6. ซอสหอยนางรม
  7. น้ำมันมะกอก

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมลงผัดให้หอม
  2. จากนั้นใส่อกไก่ลงไป ผัดให้สุก และใส่ผักที่เตรียมไว้ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอยหอยนางรม จัดเสิร์ฟใส่จานหรือใส่กล่องขายได้เลย

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 25 บาท ขาย 35 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


16.สลัดเห็ดย่าง

v7

ภาพจาก goo.gl/WrcwFU

ใครที่ชอบทานเห็ดต้องลองเมนูนี้ที่นำเอาเห็ดชนิดต่างๆ มาย่างให้หอมและทำเป็นสลัดที่ได้ทั้งกลิ่นหอม รสชาติดี และที่สำคัญมีคุณค่าทางสารอาหาร อิ่มได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนด้วย

ส่วนผสม

  1. เห็ดออรินจิซอยบาง ๆ
  2. ผักสลัดตามชอบ
  3. น้ำสลัด
  4. น้ำมันงา
  5. ซีอิ๊วญี่ปุ่น

วิธีทำ

  1. นำเห็ดออรินจิลงไปทอดในน้ำมันอาจเลือกใช้กระทะเชฟลอนจะได้ไม่ต้องใช้น้ำมันในการทำให้สุก
  2. นำเห็ดที่สุกแล้วมาจัดใส่จาน วางล้อมด้วยผักสลัด ราดด้วยน้ำสลัด น้ำมันงา และซีอิ๊วญี่ปุ่น เป็นอันเสร็จ

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 40 บาท (เห็ดออรินจิปริมาตร 500 กรัม ราคาถุงละประมาณ 59 บาท) ขาย 50 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


17.เห็ดผัดพริกแห้ง

vv

ภาพจาก goo.gl/cLTHiq

ยังอยู่ที่วัตถุดิบอย่างเห็ดคราวนี้เอามาผสมกับพริกแห้งให้มีรสชาติเผ็ดร้อนมากขึ้น ผสมด้วยอกไก่ให้ดูน่ารับประทาน เป็นเมนูสายคลีนที่ต้องลองทำกันดูสักครั้ง

ส่วนผสม

  1. กระเทียม
  2. พริกแห้ง
  3. น้ำมันมะกอก
  4. อกไก่หั่นเป็นชิ้น
  5. เห็ดสามอย่าง
  6. ต้นหอมหั่นท่อน

วิธีทำ

  1. โขลกกระเทียมกับพริกแห้งเข้าด้วยกัน
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย ใส่ผัดพริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม ใส่อกไก่ลงไป ตามด้วยเห็ดสามอย่าง ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงลดโซเดียม พอสุกโรยด้วยต้นหอมหั่นท่อน ตักใส่จานเสิร์ฟได้

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 35 บาท ขาย 50 บาท กำไร 15 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


18.พล่าทูน่า

v4

ภาพจาก goo.gl/YLBXaT

มีลาบทูน่าก็ต้องมีพล่าทูน่า สำหรับใครที่ชอบความอร่อยแบบสดๆ วัตถุดิบหลักก็ยังเป็นทูน่ากระป๋องที่เอามาทำเป็นพล่าแสนอร่อย กินเองหรือทำขายก็ได้ทั้งนั้น

ส่วนผสม

  1. ทูน่ากระป๋องในน้ำแร่
  2. พริกขี้หนูซอย
  3. ตะไคร้ซอย
  4. หอมแดงซอย
  5. น้ำปลา
  6. น้ำมะนาว
  7. ใบสะระแหน่
  8. ผักส ตามชอบ

วิธีทำ

  1. เปิดปลาทูน่ากระป๋องเอาเนื้อปลาทูน่าบีบน้ำออกให้แห้ง
  2. ปรุงรสด้วยการใส่พริกขี้หนู ตะไคร้ หอมแดง น้ำปลา น้ำมะนาว โรยใบสะระแหน่ แล้วจัดใส่จานทานกับผักสด

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 50 บาท (ปลาทูน่าในน้ำแร่กระป๋องละประมาณ 40 บาท) ขาย 60 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


19.น้ำพริกปลาทู

v3

ภาพจาก goo.gl/ivbvc8

เมนูดั้งเดิมแบบบ้านๆ แต่หลายคนชอบมาก น้ำพริกปลาทูสามารถทานคู่กับผักสดหรือผักลวกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ใครที่คิดจะทำขายสามารถจัดเป็นชุด ขายตามตลาดนัดหรือจะรับออร์เดอร์แบบออนไลน์ก็ได้

ส่วนผสม

  1. ปลาทูสด
  2. พริกขี้หนู
  3. หอมแดง
  4. กระเทียม
  5. น้ำปลา
  6. น้ำมะนาว

วิธีทำ

  1. นำปลาทูสดไปต้มจนสุก จากนั้นแกะเอาเนื้อ และเก็บน้ำต้มปลาไว้
  2. นำพริกขี้หนู หอมแดง และกระเทียมไปคั่วจนหอม จากนั้นนำไปโขลก ตามด้วยเนื้อปลา โขลกจนเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย เติมน้ำต้มปลา ปรุงรสด้วยน้ำปลาลดโซเดียม และน้ำมะนาว

ต้นทุน-กำไร: ต้นทุนประมาณ 30 บาท ขาย 40 บาท กำไร 10 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*


20.แซลมอนทอดน้ำปลา

v2

ภาพจาก goo.gl/sKjYp5

เป็นเมนูที่แค่ได้ยินก็อยากสั่งมากินสักครั้ง ขึ้นชื่อว่าแซลมอนทำอะไรก็อร่อย คราวนี้มาแบบไม่อ้วนกับการทอดน้ำปลาที่ได้ความเค็มนิดๆ กลิ่นหอมของน้ำปลาหน่อยๆ รวมกับรสชาติจากแซลมอน อร่อยสุดฟินแบบคลีนๆขนานแท้

ส่วนผสม

  1. แซลมอนหั่นเป็นแว่นๆ
  2. น้ำปลา
  3. มะม่วงเปรี้ยวสับ
  4. น้ำมะนาว
  5. น้ำตาลทราย
  6. พริกแดงจินดาซอย
  7. หอมแดงซอย
  8. ต้นหอมผักชีซอย

วิธีทำ

  1. หมักแซลมอนด้วยน้ำปลา (ใส่น้ำปลาเล็กน้อยระวังเค็มเกินไป) ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
  2. ตั้งกระทะให้ร้อนสามารถใช้กระทะรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันในการทอด วางแซลมอนลงไปทำให้สุกทั้ง 2 ด้าน แล้วตักขึ้นมาพักไว้
  3. ผสมพริกแดงซอยกับน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล ผสมและคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. ใส่มะม่วงซอย หอมแดงซอย ต้มหอม ผักชีซอย คนให้เข้ากันอีกที
  5. จัดเสิร์ฟโดยการนำแซลมอนมาทานคู่กับน้ำยำที่เราทำขึ้น อร่อยแบบไม่อ้วนแน่นอน

ต้นทุน-กำไร : ต้นทุนประมาณ 60 บาท ขาย 70-80 บาท กำไร 10-20 บาทโดยประมาณ

*การตั้งราคาขายขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน ทำเล ค่าเช่า ซึ่งมีผลต่อกำไรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้*

พร้อมกันนี้ผู้ที่สนใจต้องการสูตรอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เอาไว้เริ่มต้นลงทุนหรือต่อยอดการทำธุรกิจที่มีอยู่เดิมสามารถติดตามได้ใน LINE id: @thaifranchise

v1

และในส่วนข้อมูลข่าวสาร หากต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2RMcJHP

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด