เห็นแล้วต้องทึ่ง! 12 ถ้ำที่สวยที่สุดในโลกที่ควรค่าแก่การไปเยือน

แหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาตินั้นก็มีมากมายหลายแหล่งที่ควรค่าแก่การไปเยือนซึ่งการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาตินั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราได้ซึบซับความเป็นธรรมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เรามีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติอีกด้วย

และถ้ำก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางแหล่งธรรมชาติที่มีความลึกลับอยู่ในตัวเสมือนว่าหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบเลยทีเดียว ดังนั้นในบทความนี้ก็จะขอแนะนำ 12 แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นถ้ำซึ่งสวยที่สุดในโลกมาฝากกันค่ะ

1.ถ้ำ Mammoth รัฐเคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกา

แหล่งท่องเที่ยว

ภาพจาก bit.ly/2oZKJ98

เรียกได้ว่าเป็นถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยถ้ำแมมมอธนี้ตั้งอยู่ภายใต้หุบเขากรีนริเวอร์ ในรัฐเคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกา ด้วยความยาวกว่า 400 ไมล์ หรือราวๆ 643.7 กิโลเมตร โดยถ้าที่เต็มไปด้วยแท่งหินปูนที่ซับซ้อนนี้ถูกค้นพบโดยมนุษย์โบราณมาตั้งแต่ราวๆ เมื่อ 4,000 ปีที่แล้วและมันก็เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ดีของปลาน้ำลึกบางชนิด , ซาลามานเดอร์ถ้ำ รวมไปถึงกุ้งบางชนิดอีกด้วย

2.ถ้ำ Blue Grotto คาปรี ประเทศอิตาลี่

11

ภาพจาก bit.ly/2BD2JZF

นี่คือถ้ำที่ที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลและมีความยาวกว่า 200 ฟุต กว้างกว่า 82 ฟุต ซึ่งความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของถ้ำนี้คือแสงจากด้านนอกที่ลอดผ่านรูๆ มาสะท้อนกับน้ำในน้ำจนทำให้น้ำในถ้ำนั้นกลายเป็นสีฟ้าสดใส และที่เด็ดกว่านั้นก็คือครั้งหนึ่งถ้ำนี่เคยกลายเป็นที่ว่ายน้ำส่วนตัวของจักรพรรดิ “ติแบริอุส” แห่งโรมันอีกด้วย

3.ถ้ำอีฟซาลอม นครเยรูซาเร็ม ประเทศอิสราเอล

10

ภาพจาก bit.ly/2BEe9MD

ถ้ำอีฟซาลอม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาจูเดียน ใกล้กับเมืองเบซ ชาเมซ ใกล้นครเยรูซาเร็ม โดยถ้ำ Avshalom นั้นเรียกได้ว่าเป็นหลักจารึกทางประวัติศาสตร์แห่งเมดิเตอเรเนี่ยนตะวันออกเลยทีเดียวด้วยสภาพของหินงอกหินย้อยที่พบอย่างหนาแน่นในถ้ำซึ่งบางแท่งนั้นมีความยาวถึง 13 ฟุตและหินงอกหินย้อยบางแท่งก็มีอายุถึงเก่าแก่ถึง 300,000 ปี แต่อายุของถ้ำนั้นคาดว่าจะมีความเก่าแก่ถึง 25 ล้านปีเลยทีเดียว และด้วยความมหัศจรรย์นี้เอง ก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเยือนถึงกว่าปีละ 200,000 – 400,000 คน

4.ถ้ำ Crystal and Fantasy ฮามิลตัน , ดินแดนเบอร์มิวด้า

9

ภาพจาก bit.ly/2JjEHa2

อันที่จริงถ้ำนี้ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 100 กว่าปีก่อนนี้เอง แหล่งท่องเที่ยวนี้เป็นถ้ำทั้ง 2 คือ ถ้ำ Crystal และถ้ำ Fantasy ที่อยู่ในบริเวณใกล้กัน โดยในถ้ำทั้งสองนั้นจะมีทั้งคริสตัลและกลุ่มหินงอกหินย้อยอยู่มากมายเต็มถ้ำไปหมด ซึ่งมันเกิดจากการที่น้ำหยดลงหินอยู่เรื่อยมาเป็นเวลากว่าล้านปี! และภายในถ้ำยังมีลำธารใสอันเกิดจากน้ำที่ไหลลงมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกอีกด้วย

5.ถ้ำคริสตัล ไนก้า , ประเทศเม็กซิโก

8

ภาพจาก bit.ly/31B3flm

ความมหัศจรรย์ของถ้ำนี้ก็คือการเป็นถ้ำคริสตัลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งดูเหมือนหลุดมาจากในหนังซูเปอร์แมนไม่มีผิด ซึ่งคริสตัลแต่ละแท่งก็มีขนาดใหญ่อยู่ไม่เบา บางแท่งมีขนาดถึงตั้ง 39 ฟุตและหนาถึง 13 ฟุต! โดยถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยสองพี่น้องคู่หนึ่งที่พบโดยบังเอิญในปี 2000 แตปัจจุบันก็ยังไม่มีใครไปเยือนเท่าไหร่นักเนื่องด้วยอุปสรรคทางการเดินทางและความร้อนเนื่องจากการตั้งใกล้กับภูเขาไฟ

6.ถ้ำ Fingal’s Staffa, ประเทศสก็อตแลนด์

7

ภาพจาก bit.ly/31KHK1s

นี่คือถ้ำทะเลที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ Staffa ในประเทศสก็อตแลนด์ มีขนาดใหญ่ยักษ์สูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 6 เมตร ภายในถ้ำมีความยาว 45 เมตร ซึ่งความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งคือภายในถ้ำเต็มไปด้วยเสาหินบะซอลต์ ที่เกิดจากการไหลของลาวาพาลิโอซีน และชื่อของถ้ำนี้ก็ได้รับมาจากบทกวีที่ถูกแต่งขึ้นในศตวรรษที่ 18 และถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในหลายๆ บทกวี

7.ถ้ำหนอนเรืองแสง Waitomo หมู่บ้าน Waitomo นิวซีแลนด์

6

ภาพจาก bit.ly/31If7So

ถ้ำหนอนเรืองแสง อยู่ในเขตไวโตโม (Waitomo) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ โดยถ้ำหนอนเรืองแสงนั้นมีอายุเก่าแก่มานานกว่า 30 ล้านปีแล้ว ซึ่งมันก็มีจุดเด่นอยู่หลายอย่าง เช่น การมีโถงขนาดยักษ์ที่เรียกว่า Cathedral อยู่ภายในถ้ำ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือถ้ำแห่งนี้คือที่อยู่ของหนอนเรืองแสงนับล้านตัวที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Arachnocampa Luminosa ซึ่งนอกจากจะเรืองแสงได้เองแล้วยังปล่อยเมือกเหีนยวๆ ที่เรืองแสงออกมาปะปนกับเหล่าหินงอกหินย้อย ดูสวยงาม แปลกตาไปอีกแบบด้วย

8.ถ้ำเซินด่อง อุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง ประเทศเวียดนาม

5

ภาพจาก bit.ly/32HS7EJ

ถ้ำเซินด่อง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศใต้ประมาณ 450 กิโลเมตร ในประเทศเวียดนาม มีความยาวมากกว่า 3 ไมล์และมีความสูงจากผนังถ้ำจนถึงพื้นถ้ำกว่า 650 ฟุต นั่นจึงทำให้มันกลายเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยชาวบ้านท้องถิ่นตั้งแต่ปี 1991 แต่เพิ่งมาเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติในปี 2009 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ในถ้ำยังมีความอุดมสมบูรณ์มากถึงขั้นแม่น้ำขนาดใหญ่และป่าดงดิบอยู่ในถ้ำเลยทีเดียว

9.ถ้ำ Škocjan Divača ประเทศสโลวีเนีย

4

ภาพจาก bit.ly/2NemKLw

ถ้ำแห่งนี้ถูกจารึกโดย Unesco ว่าเป็นแหล่งมรดกโลกเลยทีเดียว อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็น “หุบเขาใต้ดิน” ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้มันยังขึ้นชื่อว่าเป็นถ้าที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย เนื่องจากมันเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ราวกับหลุดมาจากในหนัง SCi-Fi และนอกจากจะได้เดินชมถ้ำแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงระบบนิเวศน์ในถ้ำและสัตว์ในถ้ำ รวมไปถึงมีร้านขายของที่ระลึกอีกด้วย

10.ถ้ำหินอ่อนการ์เรรา ประเทศชีลี

3

ภาพจาก bit.ly/363Co4D

การเดินทางมาชมหินอ่อนการ์เรราแห่งนี้นั้นอาจจะยากอยู่เล็กน้อยเพราะสามารถ
เข้าถึงได้ด้วยการนั่งเรือแค่เพียงทางเดียวเท่านั้น ถ้ำนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางทะเลสาบ General Carrera ในภูมิภาคปาตาโกเนีย ที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ อยู่ระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินาและชิลี ความสวยงามของถ้ำนี้อยู่ตรงที่สีฟ้าครามของพื้นน้ำนั้นสะท้อนออกมา กระทบกับผนังหินอ่อนภายในถ้ำจนทำให้ทั้งถ้ำนั้นดูเหมือนถูกฉาบด้วยสีฟ้าสวยงาม

11.ถ้ำขลุ่ยอ้อ กุ้ยหลิน มลฑลกวางสี ประเทศจีน

2

ภาพจาก bit.ly/2MGwQpk

หรือเป็นที่รู้จักในนามของ “วังแห่งศิลปะธรรมชาติ” โดยถ้ำหินปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองกุ้ยหลิน ซึ่งไม่ใช่แค่มีแต่ความสวยงามแต่ยังเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญจากการที่มีภาพเขียนที่ถูกเขียนไว้บนผนังถ้ำตั้งแต่สมัยรางวงศ์ถัง โดยปัจจุบันนี้มีการประดับประดาไฟภายในถ้ำให้ดูอลังการเหมือนหลุดไปอยู่ในเทพนิยาย และชื่อของถ้ำขลุ่ยอ้อนั้นก็มีที่มาจากการที่หน้าถ้ำนั้นมีต้นอ้อที่สามารถนำเอาไปทำเป็นขลุ่ยได้นั่นเอง

12.ถ้ำน้ำแข็ง Skaftafell อุทยานแห่งชาติ วาตนาเยอคูตล์ ประเทศไอซ์แลนด์

1

ภาพจาก bit.ly/31J2CX0

ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้จะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่มีที่ใดเหมือนเลยก็ว่าได้ โดยความพิเศษอย่างหนึ่งของถ้ำนี้ก็คือมันมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามฤดูกาล โดยในช่วงฤดูร้อน น้ำแข็งจะละลายและเกิดเป็นอุโมงค์ถ้ำแบบใหม่ และในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิประมาณ -25 ถึง -30 องศาก็จะกลับมาเป็นถ้ำน้ำแข็งอีกครั้ง ดังนั้นแล้วหากจะไปเยือนสถานที่แห่งนี้ก็ควรจะไปในช่วงฤดูหนาว เพื่อที่จะได้ไม่พลาดความสวยงามภายในถ้ำและอีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อความปลอดภัยเนื่องด้วยในฤดูร้อนธารน้ำแข็งอาจมีการเสื่อมตัวและอาจเป็นอันตรายแก่ผู้มาเยือนได้นั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือแหล่งท่องเที่ยวในถ้ำที่น่าสนใจไปเยือนอยู่ไม่น้อย ซึ่งมันอาจจะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และได้พักผ่อนจากการทำงานอย่างเหนื่อยล้ามานานก็เป็นได้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2E885O9

แหล่งที่มา