เหลือเชื่อ! ปลดหนี้กว่า 10 ล้านด้วยการขายแฟรนไชส์ผัดไท

เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้เราไม่กล้าลงทุนคือกลัวเจ๊ง กลัวขาดทุน กลัวทุกสิ่งทุกอย่างว่าจะไม่เป็นไปอย่างที่ใจคิด ข้อแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จกับคนธรรมดาคือการตัดสินใจ

เศรษฐีส่วนใหญ่คิดแล้วทำแต่คนธรรมดาคิดแล้วปล่อยให้ผ่านไป ซึ่งใครจะรู้ว่าสิ่งที่เราคิดอาจมีมูลค่ามหาศาลแม้การเริ่มต้นจะเป็นเรื่องยากแต่ถ้าเราไม่ก้าวเราก็เดินหน้าไม่ได้

01256333565656

www.ThaiSMEsCenter.com มีบุคคลตัวอย่างน่าสนใจคือคุณสุภาดา ตะวันดาที่เจ้าของแฟรนไชส์ ผัดไทชาววังตะวันดา ที่กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผู้หญิงธรรมดาๆที่ผ่านการเป็นหนี้นับ 10 ล้าน สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสเมื่อหันมาจับระบบแฟรนไชส์ในการทำธุรกิจ

ผัดไทชาววังตะวันดา

ปัจจุบันหนี้สินกว่า 10 ล้านหายไป ทดแทนด้วยยอดขาย กำไรและสาขาของแฟรนไชส์ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศเรื่องราวน่าสนใจครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสอนใจให้เราทุกคนที่อยากประสบความสำเร็จได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราควรทำนั้นจะต้องเริ่มต้นอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดในชีวิต

เริ่มต้นจากติดลบนับ 10 ล้านสู่การสร้างธุรกิจครั้งใหม่

l3

คุณสุภาดา ตะวันดา ประมาณ 20 ปีก่อนหน้านี้เคยมีธุรกิจส่วนตัวเป็นบริษัทของตัวเอง และมีอีกหลายธุรกิจที่ลงทุน แต่อันเนื่องมาจากภาวะความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจในยุคฟองสบู่แตก

ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นต้องพังทลายประกอบกับใช้เงินบางส่วนหมดไปกับการเล่นหุ้น ยิ่งทำให้เคราะห์ซ้ำกรรมซัด จากทรัพย์สินที่มีจำนวนมากกลายมาเป็นหนี้สินนับ 10 ล้านบาทในทันที

l4

คุณสุภาดาได้พูดถึง การตั้งหลักเพื่อกลับมาอีกครั้ง ว่าต้องเริ่มจากการตั้งสติ ห้ามหมกมุ่นกับปัญหา กลุ้มได้แต่อย่าจมกับปัญหา สิ่งสำคัญคือหาทางออก ตอนนั้นสิ่งเดียวที่คุณสุภาดามองไว้คือธุรกิจเกี่ยวกับอาหารที่ไม่ว่าจะเศรษฐกิจจะแย่ขนาดไหน กำลังซื้อของคนจะเหลือน้อยแค่ไหน แต่สุดท้ายทุกคนก็ยังต้องกินอาหาร

ด้วยความที่ก่อนหน้านี้หนึ่งในธุรกิจของคุณสุภาดาก็เคยมีร้านอาหาร แต่ในเมื่อการลงทุนใหม่นี้จะเป็นการเริ่มต้นจากติดลบนับ 10 ล้านดังนั้นเมนูจึงต้องมีเอกลักษณ์และก็มาตกผลึกที่ผัดไทซึ่งเป็นเมนูขายดีและทำง่ายกินง่ายที่สำคัญเป็นอาหารระดับท็อปเทนติดอันดับโลกที่ชาวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี

รู้จักระบบแฟรนไชส์พาชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

l5

แม้จะเคยทำธุรกิจต่างๆมามากแต่คุณสุภาดายอมรับว่าไม่รู้จักกับระบบแฟรนไชส์จนเมื่อเกิดวิกฤติขึ้นมามีหลายคนพูดถึงคำนี้คุณสุภาดาเริ่มหาข้อมูลว่าแฟรนไชส์คืออะไร นำไปสู่การอบรมกับสมาคมแฟรนไชส์ไทย และจากจุดนี้ที่พลิกชีวิตติดไฟให้ธุรกิจผัดไทชาววังตะวันดาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

คุณสุภาดาเริ่มต้นธุรกิจผัดไทชาววังตะวันดาด้วยการสร้างร้านต้นแบบของตัวเองขึ้นมาที่วังบูรพานอกจากผัดไทที่เป็นเมนูหลักก็ยังมีหอยทอดและขนมผักกาด หลังจากเรียนรู้การเปิดร้านของตัวเองได้ประมาณ 2 เดือนรู้ขั้นตอนต่างๆ ดีพอขั้นต่อมาคือการลองเปิดสาขาของตัวเองเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง

l6

เพื่อเรียนรู้วิธีการบริหารว่าจะทำอย่างไรให้สาขาที่ 2 อยู่รอดได้เหมือนสาขาแรก เทคนิคสำคัญที่นำมาใช้คือต้องคิดเสมอว่าสาขาที่ลองเปิดใหม่นี้คือแฟรนไชส์ซี ที่คุณสุภาดาต้องช่วยให้สาขานั้นอยู่รอดและมีกำไร

ซึ่งก็หมายถึงการคิดคำนวณต้นทุนรายได้ที่ผู้ลงทุนควรจะได้รับ การบริหารร้านที่ประสิทธิภาพ ปัญหาที่จะเกิดและวิธีแก้ไข การลองผิดลองถูกกับสาขาที่ 2 ของตัวเองก็คือการกรุยทางเตรียมความพร้อมสู่การเริ่มเปิดขายในระบบแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการต่อไป

l7

ในปี 2556 ผัดไทชาววังตะวันดาเริ่มขายแฟรนไชส์เป็นสาขาแรกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมโดยเพิ่มเติมเมนูเข้าไปให้หลากหลายเช่นมาม่าผัดไท วุ้นเส้นผัดไท ผัดไทเส้นคริสตัล เป็นต้น

และก็ถือว่าแฟรนไชส์ซีได้รับการส่งเสริมจากแฟรนไชส์ซออย่างดีจนผู้ลงทุนสามารถมีกำไรและเปิดสาขาเพิ่มในระยะเวลากว่า 6 เดือนหลังจากนั้นผัดไทชาววังตะวันดามีสาขาแฟรนไชส์แล้ว 5 สาขา

จุดเด่นของแฟรนไชส์ผัดไทชาววังตะวันดาและการลงทุน

l8

ปัจจุบันแฟรนไชส์ ผัดไทชาววังตะวันดา มีมากกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ จุดเด่นที่ทำให้แตกต่างคือการผัดกับน้ำซอสที่ผลิตเอง ไม่มีส่วนผสมของผงชูรสและน้ำปลา การผัดใช้แต่น้ำซอสไม่ใช้น้ำมัน เส้นไม่เยิ้ม หรือแม้แต่หอยทอดและขนมผักกาดก็ทำจากแป้งที่เป็นสูตรเฉพาะของแฟรนไชส์ผัดไทชาววังตะวันดาเท่านั้น

สำหรับคนที่ต้องการลงทุนกับแฟรนไชส์ ผัดไทชาววังตะวันดา ราคาเริ่มต้นของแฟรนไชส์อยู่ที่ 39,000 บาท โดยแฟรนไชส์ซอจะช่วยพิจารณาทำเลว่าหากอยู่ในพื้นที่นั้นๆควรเปิดร้านที่ไหน

l9

รวมถึงการสอนเทคนิคการบริหารจัดการ และการแนะแนวคู่มือการเปิดร้านที่คุณสุภาดาบอกว่า “กว่าที่เราจะมาประสบความสำเร็จเราผ่านกระบวนการมาหลายอย่างทดลองมาหลายอย่างสิ่งสำคัญคือเราต้องสวมหัวใจเป็นทั้งแฟรนไชส์ซอและแฟรนไชส์ซี จะได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องทำและสาขาแฟรนไชส์ต้องการ”

ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เราจะเห็นผู้ลงทุนบางรายมีการเปิดสาขาแฟรนไชส์คนเดียวถึง 7 แห่งเพราะอีกสิ่งที่คุณสุภาดาสอนผู้ลงทุนทุกคนคือเทคนิคการใช้เงินทำงาน หากร้านแรกเปิดแล้วดีมีกำไรก็จะแนะนำว่าควรลงทุนต่ออย่างไรให้ตัวเองมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยเหตุนี้แฟรนไชส์ผัดไทชาววังตะวันดาที่นอกจากจะพลิกชีวิตล้างหนี้กว่า 10 ล้านให้คุณสุภาดาได้ในเวลาแค่ 5-6 ปี แฟรนไชส์นี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากเป็นเศรษฐีคนต่อไปอีกด้วย

บทเรียนน่าสนใจสำหรับคนที่อยากสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ของตัวเอง

l10

พูดถึงระบบแฟรนไชส์หลายคนรู้ว่าดีแต่ปัญหาคือเราไม่รู้ลำดับขั้นว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรหากต้องการที่จะเป็นเจ้าของ
แบรนด์แฟรนไชส์ลองมาดูวิธีการที่คุณสุภาดาแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน

1.หาสินค้าตัวเองให้เจอ

ค้นหาสิ่งที่ตัวเองถนัดค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักและดึงเอกลักษณ์สินค้านั้นออกมาสร้างเป็นแบรนด์ตัวเองให้ได้

2.เข้าใจระบบแฟรนไชส์ให้ลึกซึ้ง

การเข้าถึงแก่นแท้ของระบบแฟรนไชส์จะทำให้เรารู้ว่าเราควรทำอย่างไรเพื่อพัฒนาให้ตัวเราและผู้ลงทุนสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง

3.สะสมประสบการณ์จากร้านต้นแบบ

เมื่อมีสินค้า เข้าใจระบบ ก็ควรสร้างร้านต้นแบบตัวเองดูความต้องการของผู้บริโภคเรียนรู้สะสมประสบการณ์ให้มากขึ้น

l11

4.ทดลองขยายสาขาที่ 2

ก่อนจะเริ่มขายแฟรนไชส์เป็นทางการเราควรมีสาขาที่ 2 ของตัวเองเพื่อเรียนรู้ปัญหาว่าหากร้านต้นแบบเราบริหารได้และหากมีสาขาเพิ่มมาจะมีปัญหาอะไรบ้างที่ต้องเรียนรู้กรุยทางไปสู่การเริ่มต้นเปิดขายแฟรนไชส์

5.หาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนลงทุนแฟรนไชส์

แฟรนไชส์ซีทุกคนคาดหวังว่าจะสำเร็จเช่นเดียวกับแฟรนไชส์ซอดังนั้นเราควรมีกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน การตลาดที่ชัดเจน ทำให้แฟรนไชส์ซีเชื่อมั่นว่าจะสร้างรายได้ที่ดีด้วยธุรกิจนี้

6.ต่อยอดสินค้าและบริการต่อไป

เมื่อแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จเราควรคิดต่อยอดสินค้าให้มากขึ้นเช่นผัดไทชาววังตะวันดาที่ปัจจุบันมีอีก 3-4 แบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณสุภาดา

l12

10 ข้อคิดพลิกชีวิตให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก

  1. ทุกปัญหามีทางออกเสมอ
  2. อย่ากลัวที่จะต้องลงทุน
  3. คิดและตัดสินใจอย่างมีสติรอบคอบ
  4. เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัดที่สุด
  5. อย่ารอความสำเร็จวิ่งเข้ามาหา
  6. บริหารระบบทำงานให้แข็งแรง
  7. มีพลังใจอย่าทุกข์ อย่าท้อ
  8. สร้างพันธมิตรยิ่งมากยิ่งดี
  9. คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
  10. คิดบวกอยู่เสมอ

ll

ทั้งนี้คุณสุภาดายังได้ฝากข้อคิดแนะนำไปถึงทุกคนที่กำลังมองหาโอกาสสร้างความสำเร็จให้ตัวเอง ว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่มัวแต่คิดต้องลงมือทำ อย่ากลัว อย่าคิดแทนลูกค้า อย่ากังวล อย่าวิตก ทำให้ดีที่สุด งานทุกอย่างสำคัญที่ระบบ

เราอาจเหนื่อยในช่วงเริ่มต้นแต่หากธุรกิจมันเดินหน้าด้วยตัวเองได้เราก็จะสบาย ระบบแฟรนไชส์เป็นตัวเลือกของการใช้เงินทำงานที่ดีแต่เราต้องเข้าวิธีการให้ชัดเจน ใครที่สนใจสามารถพูดคุยและปรึกษากับคุณสุภาดาในฐานะแฟรนไชส์รุ่นพี่

รายละเอียดเพิ่มเติม

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2Jnp1Ge

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด