4 เทคนิคเลือก ทำเลขายของ ตลาดนัด ยังไงให้โดน!
ประเภทของ ทำเล ตลาดนัดในการค้าขายนั้นมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทำเล ตลาดนัดระดับล่าง ที่ส่วนใหญ่อยู่ในย่านชุมชน มีราคาค่าเช่าที่ที่ถูก ทำเลขายของ ทำเลตลาดนัดระดับกลาง ที่ค้าขายกันทั้งแบบแบกับดินผสมกับแผงลอย หรือทำเล ตลาดนัดระดับสูงที่เก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน และขายสินค้าที่อัพเกรด
แต่ไม่ว่าจะเลือกขายในทำเลตลาดนัด ทำเลขายของ แบบใดก็ตาม ก็ควรที่จะวางแผน วิเคราะห์ และพิจารณาในทำเลแต่ละแห่งให้ดี วันนี้ ThaiSMEsCenter.com จึงอยากจะแนะนำถึงปัจจัยในการตัดสินใจเลือกทำเลค้าขาย เพื่อให้การค้าขายของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรับทรัพย์จากการขายให้ได้มากที่สุด ซึ่งมีปัจจัยใดที่ต้องพิจารณาบ้างนั้น เราได้แยกไว้ดังนี้
1.ทำเลขายของ ที่ตรงนั้นมีกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่หรือเปล่า
แม้ทำเลตรงนั้นจะเป็นแหล่งที่มีคนเดินกันพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก แต่หากผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมานั้นไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่สนใจหรือต้องการสินค้าของคุณ ทำเลตรงนั้นก็จะไม่ทำประโยชน์ให้คุณเลย
หากคุณขายสินค้าที่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม คุณก็ควรที่จะสังเกตว่าที่ตรงนั้นมีกลุ่มคนประเภทไหนเดินกันเป็นส่วนใหญ่ เช่น กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มคนสูงอายุ หรือกลุ่มคนที่มีฐานะ รวมถึงวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของพวกเขาด้วย
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขายอาหารเช้าจำพวกแซนวิช ขนมปัง หรือข้าวเหนียวหมูปิ้ง คุณก็ควรเลือกทำเลที่เป็นตลาดนัดเช้า ซึ่งมีกลุ่มคนวัยทำงาน หรือวัยเรียนเดินผ่าน เนื่องจากในตอนเช้าพวกเขาเหล่านั้นมักจะต้องทำเวลาในการไปทำงานหรือไปเรียน จึงไม่มีเวลาในการรับประทานอาหารเช้ามากนัก ดังนั้นอาหารเช้าที่รับประทานง่ายๆ สามารถเดินไปด้วยทานไปด้วยจึงตอบโจทย์อย่างแน่นอน
หรือหากคุณต้องการขายสินค้ามือสอง คุณก็ควรเลือกทำเลที่เป็นแหล่งรวมสินค้ามือสองโดยเฉพาะ เพราะที่แห่งนั้นจะมีกลุ่มคนที่สนใจสินค้ามือสองแวะเวียนมาเลือกสินค้าอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว
2.สภาพแวดล้อมใกล้เคียงเป็นอย่างไร
หากทำเลที่คุณมองไว้เป็นแหล่งที่ติดกับชมชุน สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษา และมีการคมนาคมสะดวกแล้วล่ะก็ ที่ตรงนั้นย่อมเอื้อให้สินค้าของคุณถูกพบเห็นได้มากยิ่งขึ้น เช่น หากคุณขายเสื้อผ้า อาหาร หรือของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่ได้เจาะจงเฉพาะกลุ่มมากนัก สินค้าของคุณก็จะได้รับความสนใจจากผู้คนที่เลิกงาน หรือเลิกเรียนในตอนเย็น ซึ่งแวะมาเดินดูสินค้าก่อนกลับบ้านกันเป็นจำนวนมาก
บางคนนั้นอาจไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อสินค้าโดยตรง แต่บางครั้งเดินดูแล้วพบหรือสะดุดตากับสินค้าที่โดนใจก็อาจตัดสินใจซื้อในทันที
3.มีคู่แข่งหรือไม่
แน่นอนว่าการขายสินค้าประเภทเดียวกันหรือเหมือนกันกับเจ้าอื่นๆ ย่อมทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อที่มาก บางครั้งร้านของคุณอาจจะถูกมองข้ามไปเลยด้วยซ้ำ หากสินค้าของคุณไม่โดนใจลูกค้า หรือมีราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ
ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกขายในทำเลที่วางแผนเอาไว้ คุณควรที่จะเดินสำรวจในตลาดแห่งนั้นเสียก่อน (หากทำเลแห่งนั้นเป็นตลาดนัดที่ขายสินค้าทั่วไป ไม่ได้เป็นแหล่งรวมสินค้าเฉพาะกลุ่ม) ว่ามีผู้ค้าที่ขายสินค้าที่เหมือนกันหรือประเภทเดียวกันกับคุณกี่ราย เพื่อนำมาวิเคราะห์และตัดสินใจ
แต่ถ้าหากคุณตั้งใจจะขายสินค้าชนิดนั้น และไม่อยากเปลี่ยนไปขายอย่างอื่น รวมถึงมั่นใจว่าสินค้าของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งในด้านราคาและคุณภาพแล้วล่ะก็ คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปกลัวคู่แข่งแม้แต่น้อย
4.ราคาค่าเช่าเหมาะสมแค่ไหน
ถึงแม้ทำเลตรงนั้นจะเป็นทำเลทองที่สามารถทำให้คุณรับทรัพย์จากการค้าขายได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมีค่าเช่าที่มหาโหดก็ไม่ควรเลือกทำเลตรงนั้นเช่นกัน เนื่องจากว่าเมื่อต้องนำเงินที่ได้จากการขายมาหักต้นทุนต่างๆ ที่รวมถึงค่าเช่าที่แล้ว คุณอาจจะได้ไม่คุ้มเสียก็เป็นได้ ดังนั้น คุณควรคำนวณรายรับและจ่ายให้ดีๆ วิเคราะห์ว่ามันคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ทำเลตรงนั้นสามารถทำยอดขายที่แน่นอนในแต่ละวันหรือเปล่า
นอกจากนี้ คุณควรที่จะพิจารณาถึงสิ่งที่เอื้อต่อความสะดวกในการค้าขายของคุณในทำเลแห่งนั้น ว่าเหมาะสมกับค่าเช่าที่ที่เสียไปด้วยหรือไม่ เช่น ทำเลตรงนั้นมีหลังคาไว้กันแดดกันฝนหรือเปล่า หรือหากคุณต้องใช้แสงไฟ ที่ตรงนั้นมีบริการหลอดไฟให้คุณกี่ดวง และให้คุณใช้ได้ฟรีหรือไม่ เป็นต้น
การเลือกทำเล เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าขาย ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่า ทำเลที่ลงตัวย่อมสร้างโอกาสและผลประโยชน์ให้พ่อค้าแม่ขายได้ในจำนวนมหาศาล ดังนั้นการพิจารณาทำเลจึงควรที่จะทำอย่างรอบคอบ และวิเคราะห์ให้ถีถ้วนนะคะ
ขอแนะนำเว็บไซต์ที่รวม ทำเลขายของทั่วไทย สามารถค้นหาทำเลที่น่าสนใจ เพื่อขายสินค้า โดยค้นหาได้อย่างง่ายดาย จากราคาค่าเช่าที่, ทำเล, เขต, โซน และรายละเอียดต่างๆ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชอบค้าขาย, ชอบขายสินค้า จะช่วยร่นระยะเวลาในการค้นหาทำเลใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก https://bit.ly/3kQs3zT
