เลี้ยงถั่งเช่า รายได้ครึ่งแสน

บอกว่าเลี้ยงถั่งเช่า รายได้ครึ่งแสน แต่บางคนที่เขาทำแบบจริงจังรายได้ไม่ใช่แค่ครึ่งแสนแต่ขึ้นถึงหลักล้าน ซึ่งกระแสของ “ถั่งเช่า” นั้นยังแรงต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันแต่ด้วยความที่ราคาของ “ถั่งเช่า” ไม่ธรรมดาหากเป็นถั่งเช่าแท้ราคาสูงถึงกิโกกรัมละ 1 ล้านบาท ส่วนที่เราเห็นว่ามีการเพาะการเลี้ยงจะเป็น “ถั่งเช่าสีทอง” ที่ราคาไม่แพงเท่าถั่งเช่าแท้

แต่ก็ราคาสูงกิโลกรัมละหลายหมื่นบาททีเดียว www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการเลี้ยงถั่งเช่าจึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ที่น่าสนใจแต่ผู้ที่จะคิดเพาะเลี้ยงต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีก่อน

เข้าใจคำว่า “ถั่งเช่า” ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

7

ภาพจาก bit.ly/32E6I2V

เห็ดถั่งเช่าเป็นเห็ดที่เกิดขึ้นจากการที่เชื้อราเจริญบนซากหนอนแมลง ในธรรมชาติของเชื้อเห็ดถั่งเช่านั้น มีอยู่หลายสายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งถั่งเช่าจากทิเบตที่ถือว่าเป็นถั่งเช่าแท้ๆที่มีชื่อเสียงด้านสรรพคุณ ก็ยังมีคุณภาพและแบ่งเกรดต่างๆกัน

ส่วนเห็ดถั่งเช่าสีทอง เกิดจากการเพาะเลี้ยงและคัดเลือกสายพันธุ์ในห้องปฏิบัติการ โดย เห็ดถั่งเช่าสีทอง เป็นเห็ดตระกูลเดียวกับเห็ดถั่งเช่าทิเบต แต่ต่างเหล่าพันธุ์ (Species) ซึ่งเป็นคนละชนิดกับเห็ดถั่งเช่าแท้ เพราะถั่งเช่าแท้ยังไม่สามารถเพาะให้มีคุณสมบัติแบบธรรมชาติได้ ราคาจำหน่ายถั่งเช่าแท้ จึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละหนึ่งล้านบาทขึ้นไป

6

ภาพจาก bit.ly/2QkXfLH

สรรพคุณของเห็ดถั่งเช่า ไม่ว่าจะเป็นถั่งเช่าทิเบตแท้ หรือถั่งเช่าสีทอง ที่มีอยู่มากมาย เช่น ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เพิ่มภูมิต้านทานโรคทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ชะลอความแก่ชราและความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคลอเรสเตอรอล และรักษาสมดุลของคลอเรสเตอรอลในหลอดเลือด

ช่วยในด้านอารมณ์ ระงับประสาท ทำให้จิตใจสงบผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มความจำ ป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ และจากงานวิจัยพบว่าถั่งเช่าช่วยให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีอาการดีขึ้นมากถึง 51% หลังจากบริโภคถั่งเช่า 1 เดือน นอกจากนี้สรรพคุณที่เป็นที่สนใจกันมากก็คือบำรุงและเสริมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งได้มีรายงานวิจัยจากต่างประเทศในสัตว์ทดลองและมนุษย์มาแล้ว จึงทำให้มีผู้สนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มที่เป็นผู้รักสุขภาพ

4 ปัจจัยที่ควรรู้ก่อนคิด “เลี้ยงถั่งเช่า”

5

ภาพจาก bit.ly/2KhdTaS

ด้วยความที่เป็นสินค้าราคาแพงและมีสรรพคุณทางยาและการรักษาสุขภาพ แม้จะดูว่ามีราคาขายที่สูงมากดูแล้วน่าลงทุนแต่ก็ใช่ว่าใครๆ คิดทำก็ทำได้เลยสิ่งที่ควรรู้คือ

1. เห็ดชนิดนี้ต้องการสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตค่อนข้างจำเพาะ ลักษณะโรงเรือนหรือตู้เพาะเห็ดต้องปรับอุณหภูมิเฉลี่ยขั้นต่ำ 25 องศาเซลเซียส จึงจำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศ

2. สถานที่ซึ่งใช้เพาะเห็ดและอุปกรณ์ที่ใช้ต้องได้มาตรฐานและถูกสุขลักษณะ สามารถควบคุมกระบวนการเพาะได้เกือบ 100%

3. สำคัญที่สุดคือตลาดรับซื้อที่จะนำไปแปรรูปทำเป็นอาหารเสริม ซึ่งผู้เพาะควรคำนึงถึงว่าผลผลิตที่เพาะออกมาได้นั้นใช่ว่าจะจำหน่ายกันได้ง่ายๆ เพราะจะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มา กระบวนการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพของเห็ดด้านสารองค์ประกอบที่มีสรรพคุณทางยา ที่กว่าจะผ่านกระบวนการเหล่านี้ได้ ต้องใช้เวลามากพอสมควร

4. เนื่องจากเห็ดชนิดนี้ไม่ใช่สำหรับเป็นอาหารทั่วๆไป เพราะส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เป็นอาหารเสริมสุขภาพ แม้ว่าราคาจำหน่ายของเห็ดชนิดนี้จะมีราคาแพงแต่ก็ใช่ว่าจะมีตลาดรองรับซื้อทั้งหมด เพราะผู้ซื้อก็ย่อมจะต้องเลือกสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ แหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานที่มีการควบคุมคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผลิตออกมาเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องการบริโภค จำเป็นต้องได้รับมาตรฐาน อย. ของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา

วิธี “เลี้ยงถั่งเช่า” เบื้องต้นสำหรับคนที่สนใจ

 

4

ภาพจาก bit.ly/2KipvdO

ปัจจุบันมีสถาบันอบรมที่เปิดสอนให้คนสนใจมาเรียนวิธี “เลี้ยงถั่งเช่า” ซึ่งผู้สนใจก็ต้องมีเงินทุนเบื้องต้นสำหรับการลงทุน รวมถึงต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ดีเพื่อไม่ให้การเลี้ยงถั่งเช่าเป็นการลงทุนที่ศูนย์เปล่า โดยเบื้องต้นวิธีการเลี้ยงถั่งเช่ามีดังนี้

1. เลือกซื้อพันธ์เห็ดถั่งเช่ามาจากต้นที่ดอกสมบูรณ์ นำดอกมาตัดเป็นชิ้นบางๆ แล้ววางลงในเชื้อวุ้น PDA ที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อมาแล้วด้วยหม้อนึ่งแรงดัน ที่อุณหภูมิ 121 องศา ที่แรงดัน 15 บาร์ประมาณ 1 ชั่วโมง

2. นำเชื้อวุ้น PDA ไปบ่มไว้ในที่มืด ที่อุณหภูมิ 18-22 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-14 วัน

3. ตัดแบ่งเชื้อวุ้น PDA เป็นชิ้นเล็กๆ ขนาด 1 ตารางเซนติเมตร ใส่ในอาหารเหลวที่ตั้งไว้ให้เย็น ประมาณ 2 ชิ้น ทั้งนี้อาหารเหลวจะต้องผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อมาแล้วด้วยหม้อนึ่งแรงดันที่อุณหภูมิ 121 องศา ที่แรงดัน 15 บาร์ ประมาณ 1 ชม.

4. ทำการเขย่าเชื้อเหลวเพื่อให้มีการแตกตัวสร้างสปอร์ออกมา โดยใช้เครื่องเขย่าเชื้อความเร็วที่ 120 รอบ/นาที เป็นเวลา 10-14 วัน ก่อนนำไปใช้หยอดเชื้อในอาหารแข็ง

 

3

ภาพจาก news.mthai.com

5. นำเชื้อเหลวที่ได้หยอดลงในอาหารแช่แข็งที่เย็นแล้ว ที่ผ่านการนึ่งด้วยหม้อนึ่งแรงดันอุณหภูมิ 121 องศา ที่แรงดัน 15 บาร์ ประมาณ 1 ชม.

6. นำขวดอาหารแข็งที่ผ่านการหยอดเชื้อแล้วไปบ่มในที่มืดที่อุณหภูมิ 18-22 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7-14 วัน

7. เมื่อเชื้อเห็ดเดินเต็มรอบข้าวให้นำขวดที่เชื้อเดินเต็มที่แล้วให้แสง เพื่อกระตุ้นให้เกิดดอกที่อุณหภูมิ 15-18 องศาเซลเซียส ความเข้มแสงประมาณ 300-500 ลักซ์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์

8. หลังจากขั้นตอนนี้จะได้ขวดเห็ดถั่งเช่าที่กำลังเริ่มออกดอกและสามารถนำไปเพาะเลี้ยงต่อและจะเริ่มมีเส้นเห็ดโตขึ้น สามารถเก็บผลผลิตได้ใน 45-60 วัน

เพาะเลี้ยงสำเร็จสร้างรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท

2

ภาพจาก bit.ly/34PgRLQ

ด้วยวิธีการเลี้ยงที่ค่อนข้างต้องเรียนรู้และมีความเข้าใจสูง รวมถึงต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ดีพอ เกษตรกรบางคนจึงเลี้ยงประสบความสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ซึ่งเกษตรกรบางรายที่ประสบความสำเร็จอาจเคยลองผิดลองถูกจนเสียเงินทุนไปหลายแสนบาท

ซึ่งระยะเวลาในการเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองใช้เวลาประมาณ 3 เดือน หากเพาะเลี้ยงแบบพาณิชย์ควรเพาะเลี้ยงให้ได้จำนวน 900-1,000 ขวด เพื่อหมุนเวียนกันไป ซึ่งผลผลิตแต่ละครั้งจะได้ประมาณ 6-7 กิโลกรัม นำไปอบแห้งโดยถั่งเช่าสด 6 กิโลกรัมอบแห้งแล้วจะเหลือ 1 กิโลกรัม นำไปแปรรูปเป็นแคปซูลจำหน่าย

ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายดอกเห็ดอบแห้งและแบบผงเฉลี่ยเดือนละ 200,000 บาท เพราะหลังจากเก็บดอกไปแล้วก็จะเหลือฐานของดอก เสามารถนำฐานนี้ไปอบแห้งแล้วบดให้ละเอียดขายให้กับฟาร์มไก่ในกิโลกรัมละ 1 หมื่นบาทได้อีกด้วย

แต่อย่างที่ทราบว่า “เลี้ยงถั่งเช่า” ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ ต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ และรู้หลักการในการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน แนะนำว่าใครสนใจควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ละเอียดยิ่งขึ้น เพราะยังมีเทคนิคอีกมากมายในระหว่างการเพาะเลี้ยงที่จำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อให้การลงทุนนั้นสร้างมูลค่าได้แบบไม่สูญเปล่า


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2Jf8ph8

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2HoWuyG

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด