เปิดรายได้ “พนักงานขาย” ขายอะไรรวยที่สุด

ขึ้นชื่อว่า “งานขาย” หลายคนบอกว่าไม่อยากทำ เพราะอาชีพนี้คือด่านหน้าที่ต้องเจอกับลูกค้าหลายประเภท คุณสมบัติของนักขายที่ดีคือต้องใจเย็น และแม้จะเป็นอาชีพที่หลายคนมองข้ามแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่ทำอาชีพนี้จริงจัง

เขาก็มีรายได้ที่ดี บางคนซื้อบ้าน ซื้อรถ มีเงินเหลือกินเหลือเก็บก็เพราะเป็น “พนักงานขาย” และเพื่อให้มองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น www.ThaiSMEsCenter.com จะพาไปดูรายได้ของพนักงานขายสินค้าแต่ละประเภทว่ามีรายได้แค่ไหน

1.เซลล์ขายรถยนต์

เปิดรายได้

ภาพจาก freepik.com

พนักงานขายรถยนต์เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่โดดเด่นในด้าน “งานขาย” หลายคนบอกว่า “เซลล์ขายรถ” รายได้ดี แต่คนอีกไม่น้อยก็มองว่านี่คืออาชีพที่ยาก สำหรับคนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ยิ่งยากที่จะมีรายได้สูงๆ ในความเป็นจริง เซลล์ขายรถในแต่ละบริษัทมีกฏเกณฑ์ในด้านรายได้ต่างกันแต่ส่วนใหญ่ฐานเงินเดือนไม่สูงตั้งแต่ 9,000 -12,000 บาท แต่ที่หลายคนสนใจอาชีพนี้เพราะ “คอมมิชชั่น” ยกตัวอย่างเช่น พนักงานขายรถยนต์ได้ 1 คัน ราคา 1,000,000 บาท สิ่งที่พนักงานขายจะได้รับคือ

  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายรถยนต์คันนี้ (ซึ่งแต่ละบริษัทจะให้ค่าคอมตามเปอร์เซนต์แตกต่างกันออกไป)
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทไฟแนนซ์
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • ค่าคอมมิชชั่นจากร้านประดับยนต์
  • ค่าตีเทิร์นคันเก่า (ได้จากเต๊นท์รถ)

สำหรับ “เซลล์ขายรถ” มือเก่าเก๋าประสบการณ์มีลูกค้าต่อเนื่อง แต่ละเดือนอาจมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 -30,000 บาท หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและกฏเกณฑ์การจ่ายเงินของแต่ละบริษัท

2.เซลล์ขายบ้านและที่ดิน

6

ภาพจาก freepik.com

อาชีพพนักงานขายบ้าน เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงมาก เพราะอาชีพพนักงานขายบ้าน หรือนายหน้าขายบ้านและที่ดินสามารถทำเงินได้ 2 ช่องทาง คือ ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ซื้อและค่าคอมมิชชั่นจากผู้ขาย เช่น

  • เงินเดือนประจำจากบริษัท
  • ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทโดยตรง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แต่ละบริษัทจะได้ค่าตอบแทนแตกต่างกัน
  • ค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำช่างรับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง หรือรีโนเวทใหม่

ถ้าเป็นพนักงานขายประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.3 – 2% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 3% และอสังหาริมทรัพย์มือสอง พนักงานประจำจะได้ค่าคอมมิชชั่นที่ 0.2 – 1.5% ถ้าเป็นพนักงานขายอิสระจะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 2% สิ่งสำคัญของการเป็นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์คือการสร้างคอนเนคชั่นกลุ่มลูกค้าซื้อ-ขาย-เช่า เพราะลุกค้ากลุ่มที่เคยซื้อกับเราจะช่วยแนะนำให้เราได้รู้จักกับลูกค้าคนอื่นๆ ได้ โดยในการให้บริการเราต้องช่วยเหลือลูกค้าทุกเรื่องอย่างเต็มที่เช่นกัน

3.พนักงานขายจิวเวอรี่

5

ภาพจาก freepik.com

จิวเวอรี่ เครื่องประดับ เพชร พลอย อัญมณี สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องมี ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นกลุ่มที่มีฐานะพอสมควรหรือชื่นชอบในเครื่องประดับเหล่านี้จริงๆ พนักงานขายจิวเวอรี่ (Diamond Advisor) จึงถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีรายได้ดี ค่าคอมมิชชั่นสูง

ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีเงินรายได้อื่นๆ ที่มอบให้พนักงานแตกต่างกันออกไป บางบริษัทให้ค่าตอบแทนสูงมากมีทั้งค่าเป้า ค่าคอมมิชชั่น ค่าตำแหน่ง และเงินเดือนมอบให้กับพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน พนักงานขายจิวเวอรี่หลายคนมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000-70,000 บาทต่อเดือน (ในกรณีที่ทำงานมานานและมีประสบการณ์มากพอ)

สิ่งสำคัญในอาชีพพนักงานขายจิวเวอรี่ คือต้องแต่งกายดูเรียบร้อย น่าเชื่อถือ และต้องเป็นคนช่างสังเกต รอบคอบ เช็คทุกอย่างแบบละเอียดถี่ถ้วน และควรมีทักษะในการเจรจาต่อรองกับลูกค้า และมีมนุษยสัมพันธ์ที่สามารถพูดจาโน้มน้าวใจได้เก่งเพื่อให้สามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องประดับเป็นอย่างดีจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ตัวแทนขายประกัน

4

ภาพจาก freepik.com

ถ้าพูดถึงงานขาย “ตัวแทนขายประกัน” น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึง ถามว่า “อาชีพตัวแทนขายประกัน” เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีแค่ไหน เราก็ต้องมาย้อนถามตัวเองด้วยเช่นกันว่า “เราทุ่มเทให้กับงานนี้มากน้อยแค่ไหน” พนักงานขายประกันหลายคนสามารถมีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ในขณะที่อีกหลายคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไปสำหรับการทำอาชีพนี้ สิ่งที่พนักงานขายประกันจะได้รับ แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ “ไม่มีเงินเดือน”

แต่สิ่งที่ได้คือ “คอมมิชชั่นจากกรมธรรม์” โดยเฉพาะลูกค้าที่เปิดกรมธรรม์ใหม่ ตัวแทนจะได้เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย 10-40% จากเบี้ยประกันปีแรก และทุกๆ การส่งเบี้ยประกันของลูกค้าในปีต่อๆไปส่วนหนึ่งก็จะหักเป็นรายได้ของพนักงานขายประกัน ยังไม่รวม “รางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ” ที่แต่ละบริษัทจะมีการ “ตั้งเป้า” ให้ตัวแทนทำยอดขายได้กี่รายต่อเดือน มีมูลค่ารวมกรมธรรม์เท่าไหร่ เพื่อจะได้รับรางวัล เช่นการท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นต้น เบ็ดเสร็จรายได้ของตัวแทนในแต่ละเดือนคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 15,000 -30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหาลูกค้าเป็นสำคัญ

ข้อดีของอาชีพตัวแทนขายประกันคือ อาชีพที่อิสระไม่มีขอบเขตในการทำงาน ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับความสามารถ รวมถึงมีโอกาสไต่ไปสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการสร้างเครือข่ายสาขา (สำนักงานตัวแทน) โดยเสมือนหนึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไซน์ของบริษัท อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตัวแทนขายประกันจำเป็นต้องมีคือทักษะในการเจรจาต่อรอง การพูดจาที่โน้มน้าว และพูดให้ลูกค้าเข้าใจในตัวกรรมธรรน์ต่างๆ ได้ รวมถึงการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี เพื่อเป็นฐานให้ลูกค้าบอกต่อซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกทำประกันชีวิตกับคนที่ตัวเองไว้ใจเท่านั้น

5.พนักงานขายสินค้าแบรนด์เนม

3

ภาพจาก Financial Times

สินค้าแบรนด์เนมจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเครื่องประดับ คือ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่พนักงานขายจะต้องมีมาตรฐานการบริการที่ดีมาก โดยแต่ละแบรนด์จะมีคาแรคเตอร์ของพนักงานแตกต่างกันไป การสร้างคาแรคเตอร์ให้พนักงานจะสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์นั้นได้อย่างชัดเจน ในการให้บริการพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนมจะต้องเข้าไปดูแลตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้านมา ลูกค้าเลือกสินค้า ลองชุด และปรับไซส์ ซึ่งต้องพิถีพิถันมากๆ

เมื่อพนักงานขายถือเป็นหน้าตาของแบรนด์ฉะนั้นทั้งเงินเดือน และค่าคอมมิชชั่นจึงดีมากๆ ในบางพื้นที่พนักงานขายอาจมีรายได้ต่อเดือนเกือบ 100,000 บาทเลยทีเดียว แต่สำหรับนักขายมือใหม่ที่ต้องอาศัยสะสมประสบการณ์ ช่วงแรกอาจมีรายได้ประมาณ 15,000 -20,000 บาท แต่ถ้ามุ่งมั่นและพยายามต่อไปก็มีโอกาสที่จะสร้างรายได้สูงขึ้น

6.พนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์

2

ภาพจาก freepik.com

จากข้อมูลในอินเทอร์เนตเกี่ยวกับตำแหน่งงานพนักงานขายสื่อออนไลน์ที่บริษัทต่างๆ เปิดรับสมัครพบว่า ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 20,000-40,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์+ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งดูเหมือนว่าในยุคการตลาดดิจิทัลแบบนี้ อาชีพพนักงานขายสื่อโฆษณาออนไลน์ดูจะน่าสนใจ

โดยหน้าที่สำคัญของอาชีพนี้ คือการ เสนอขายสื่อโฆษณาครบวงจร Facebook Ads/Google Ads/Line@/E-mail Marketing ทางโทรศัพท์ (TeleSales) , การหาฐานลูกค้าใหม่เพื่อเสนอขายสื่อโฆษณาออนไลน์ , การจัดทำเอกสารและใบเสนอราคาที่ใช้ในการติดต่อลูกค้า ,การให้คำปรึกษาและแนะนำเรื่องการลงโฆษณากับลูกค้า รวมถึงสามารถปิดการขายตามเป้าหมายที่ได้รับ

คุณสมบัติผู้สมัคร ส่วนใหญ่มักรับคนรุ่นใหม่ไฟแรงอายุระหว่าง22-35 ปี ชอบการเรียนรู้และสนใจด้านเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ Internet, Website, Social Media หรือความรู้ด้านสื่อโฆษณาออนไลน์ สามารถวิเคราะห์และประเมินลูกค้าได้ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ รวมถึงต้องมีทักษะการขายการเจรจาต่อรองและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมด้วย

7.พนักงานขายเครื่องสำอาง

8

ภาพจาก freepik.com

อาชีพพนักงานขายเครื่องสำอางอาจจะเหมาะสำหรับผู้หญิง เนื่องด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดีกว่าการเอาผู้ชายมาขายเครื่องสำอาง ซึ่งรายได้ของพนักงานขายเครื่องสำอางของแต่แบรนด์อาจแตกต่างกันไป สวัสดิการของแต่แบรนด์ก็อาจแตกต่างกันไปด้วย โดยเฉลี่ยอาชีพนี้มีฐานเงินเดือนประมาณ 14,000 -18,000 บาท ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถ รวมถึงบางแห่งอาจตั้งฐานเงินเดือนต่ำกว่านี้แต่ไปบวกที่ค่าคอมมิชชั่นในสินค้าแต่ละชนิด ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดอาจจะมีรายได้ให้กับพนักงานต่างกัน

คุณสมบัติของพนักงานขายเครื่องสำอางจะเน้นวัยรุ่นใสๆ หรือคนที่อายุไม่เกิน 30 ไม่เน้นวุฒิการศึกษาทำได้ตั้งแต่ จบ ม.3 ม.6 รวมถึงจบการศึกษาในระดับปวช., ปวส. หรือ ปริญญาตรี สำคัญต้องมีความสูง ไม่น้อยกว่า 160 ซม. , มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และรักงานบริการ ,มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และตรงต่อเวลา ซึ่งบางบริษัทอาจจะเพิ่มข้อกำหนดพิเศษเช่น สามารถเดินทาง โยกย้าย ระหว่างสาขาได้บางครั้ง หรือสามารถใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้

การจะเป็นนักขายที่ดีนอกจากใจเย็น ต้องมีทักษะในการเจรจาต่อรอง รู้จักคนมาก และควรรู้จังหวะในการเข้าหาลูกค้า มีเทคนิคและทฤษฏีมากมายในการสอนให้เราเป็นนักขายที่ดี

แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือ เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีตำราไหนจะดีที่สุดเท่ากับการได้ทดลองทำเอง ในยุคที่คนส่วนใหญ่มีรายได้ไม่พอรายจ่าย ลองสำรวจตัวเองดูสักนิดว่าถ้าเราต้องมาเป็นพนักงานขาย เราจะทำได้ไหม ถ้าคิดว่าใจรักและพอทำได้ นี่คืออาชีพที่สร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัดเหมือนกัน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/2DXGejh , https://bit.ly/38mxjpe , https://bit.ly/2DY0QHV , https://bit.ly/2P0s6vR

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2Sdz1Gg

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด