เปลี่ยน 5 ทำเลยอดแย่ เป็น ทำเลยอดเยี่ยม!

การมองหา ทำเล ค้าขายเป็นโจทย์ใหญ่ที่คนทำธุรกิจมักให้ความสำคัญเป็นดับแรกๆ แต่เราต้องไม่ลืมว่าทำเลที่ดีก็มีวันหมดอายุได้เช่นกัน

มีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากพื้นที่เด่นสะดุดตาสักวันหนึ่งอาจกลายเป็นจุดอับสายตาที่นานๆผู้คนจะผ่านมาสักทีก็เป็นได้

www.ThaiSMEsCenter.com ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับการทำธุรกิจทุกรูปแบบเพียงแต่ว่าบางทีเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องให้ผ่านไปสิ่งที่ดีคือการแก้ไขว่าต้องทำอย่างไรให้แก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุดแม้ไม่อาจกลับมาเด่นสะดุดตาเหมือนเก่าแต่เพื่อให้ธุรกิจนั้นยังดำเนินต่อไปได้

เราจึงต้องหาวิธีเปลี่ยนทำเลยอดแย่ให้กลับมาเด่นและสะดุดตาผู้คนทั่วไปมากที่สุดเพื่อผลประโยชน์ในเรื่องกำไรทางธุรกิจเป็นหลัก

ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่ทำให้ทำเลดีๆเกิดการเปลี่ยนแปลง

ทำเลยอดแย่

ภาพจาก https://goo.gl/FKL2e0

1.พฤติกรรมของคนในพื้นที่เปลี่ยนไป

เพราะเมื่อเมืองมีการเติบโตมากขึ้น มีการขยายถนนออกสู่ชานเมือง คนที่เคยอยู่ในพื้นที่เมืองและเบื่อหน่ายในความจำเจ สภาพการจราจร จึงขยับขยายไปสู่แหล่งชานเมืองที่ให้ความสะดวกสบายในเรื่องที่พักอาศัยได้มากกว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่เคยดีจึงมีการเปลี่ยนแปลงได้มาก

2.การเปลี่ยนแปลงของผังเมืองและกฎหมายการสร้างอาคารต่างๆ

กฎหมายการวางผังเมืองเองอาจมีการกำหนดการใช้ประโยชน์ของที่ดินมากขึ้น จึงทำให้ข้อบังคับในการสร้างตึกและอาคารต่างๆมีความเข้มงวดมากขึ้น พื้นที่ย่านธุรกิจที่คาดว่าจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ อาจจะได้รับผลกระทบส่วนนี้ทำให้ต้องมองหาทำเลใหม่ๆ ส่งผลให้การวางเป้าหมายของธุรกิจที่เปิดก่อนหน้านี้ต้องเปลี่ยนแปลงไป

3.สภาพพื้นที่และสิ่งปลูกสร้างที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา

นี่คือเรื่องที่ใครก็ควบคุมไม่ได้ ทำเลที่เคยรุ่งเรืองด้วยตึกสวยงามสักวันหนึ่งอาจกลายเป็นย่านที่แออัด ถนนที่เคยกว้างขวางก็แคบลงไปไม่เหมาะสมกับการทำธุรกิจ รวมถึงการมีแหล่งธุรกิจเกิดใหม่สิ่งปลูกสร้างยุคใหม่ที่สวยงาม เข้ากับยุคสมัย การเดินทางสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อทำเลทางธุรกิจทั้งสิ้น

aa16

ภาพจาก http://goo.gl/S0eAoU

เคล็ดลับการสังเกตทำเลรูปแบบต่างๆ

หลักการสำคัญของการเลือกทำเลคือ กลุ่มลูกค้าต้องสังเกตเห็นธุรกิจของเราได้ง่ายรวมถึงเข้ามาถึงได้ง่ายด้วย อาจจะฝึกมองทำเลโดยการสังเกตจากชีวิตประจำวันที่ต้องเดินผ่านตึก ผ่านถนน ผ่านย่านร้านค้า

และนำเอาจุดดีที่มีของแต่ละทำเลมาวางเป็นข้อๆ จะพบว่าโดยส่วนใหญ่ทำเลที่ดีจะมีสิ่งต่างๆเหมือนกันเช่นอยู่ตามหัวมุมของตึก อยู่บริเวณจุดพักต่างๆ บริเวณที่มีการขึ้นลงของคนจำนวนมาก เป็นต้น

ทั้งนี้ใช่ว่าการหาทำเลที่ดีนี้จะเป็นไปได้ง่ายๆเพราะคำว่าทำเลดีๆมีให้เห็นไม่มากนัก ดังนั้นจึงต้องหาทางแก้ไขว่าควรทำอย่างไรถ้าเจอกับทำเลไม่ดีเราจึงยกตัวอย่าง 5 ทำเลยอดแย่และแนวทางแก้ไขมาให้พิจารณากันครับ

aa17

ภาพจาก http://goo.gl/9O98CV

1.อาคารพาณิชย์ที่เป็นห้องตรงกลาง

บางคนเรียกห้องแบบนี้ว่าไส้แซนวิช นั้นหมายถึงจุดที่ดีกว่าคือบริเวณหัวและท้ายซึ่งได้เปรียบในเรื่องมุมมองที่เห็นชัดเจนกว่าและสามารถใช้ประโยชน์จากการทาสีหรือติดป้ายเพิ่มทำให้มองเห็นระยะไกล แต่กลับกันกับห้องที่อยู่ตรงกลางจะถูกบดบังและมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้กลายเป็นมุมอับ

การแก้ไขเบื้องต้นคือการทำป้ายในแนวขวาง ป้ายยื่น หรือว่าป้ายธง โดยอาจจะออกแบบให้สูงเด่นกว่าห้องอื่นแต่ทั้งนี้ก็ต้องดูที่ความเหมาะสมด้วยเช่นกัน

2.สะพานลอยคนข้ามบดบังหน้าร้าน

ตามหลักฮวงจุ้ยหรือศาสตร์การค้าของจีนแล้วอะไรก็ตามที่มาตัดผ่านและอยู่สูงกว่าร้านนั้นไม่ดีทั้งสิ้น สะพานลอยที่ว่านี้ที่ได้ประโยชน์มากกว่าคือร้านที่อยู่ด้านข้างๆ คนสามารถเดิมข้ามมาและเห็นได้ง่ายแต่ร้านที่อยู่ตรงกับสะพานลอยถือว่าเป็นมุมอับสายตาที่ไม่ดีต่อธุรกิจอย่างมาก

การแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องค่อนข้างยากแต่ถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีเงินทุนมากพออาจเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการขออนุญาติสร้างทางเชื่อมเข้าไปได้เลย ที่ทำแบบนี้ส่วนมากจะเป็นห้างสรรพสินค้าแทบจะทุกที่

aa18

ภาพจาก http://goo.gl/Hfk107

3.สะพาน หรือ อุโมงค์ข้ามแยกผ่านหน้าร้าน

คล้ายกับสะพานลอยคนข้ามบดบังหน้าร้านแต่ดูว่าอันนี้จะได้ผลกระทบที่แรงกว่าเพราะคนส่วนใหญ่จะวิ่งข้ามผ่านร้านเราไปทันที รถยนต์หรือลูกค้าที่เป็นขาจรก็น้อยลงรวมถึงพื้นที่แบบนี้การจอดรถหน้าร้านแทบเป็นไปไม่ได้

มีหลายร้านที่ประสบกับปัญหานี้และที่สำคัญแก้ไขยากมากๆ แนะนำว่าขยับออกมาจากจุดนั้นจะดีที่สุดส่วนร้านที่บอกว่าไม่สามารถหาจุดอื่นที่ดีกว่านี้ได้ก็คงต้องเพิ่มเรื่องการตลาดและพัฒนาร้านให้โดดเด่นเข้ากับยุคสมัยให้มากที่สุดเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้น

4.ทางสามแพร่งสามแยก

จะเรียกว่าเป็นทำเลที่ไม่มีใครอยากได้แน่นอนทั้งในตำราฮวงจุ้ย และไสยศาสตร์ต่างก็พูดเหมือนกันว่าไม่ใช่ตำแหน่งที่ดี ในทางทฤษฏีทางสามแพร่งเป็นจุดที่รถต้องสัญจรอย่างระมัดระวัง ส่วนใหญ่เป็นจุดห้ามจอด ยิ่งในตอนกลางคืนอันตรายมากนอกจากจะต้องเจอปัญหาแสงไฟรถที่ส่องเข้ามาจากทางตรงยังอาจเจอปัญหาเรื่องอุบัติเหตุที่รถจะพุ่งเข้าร้านอย่างไม่ตั้งใจได้อีกด้วย

แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะแย่ไปหมดอย่างน้อยจุดนี้ก็ยังพอจะมีหนทางสร้างรายได้บ้างในมุมที่ดีคือเป็นจุดที่รถทางตรงวิ่งมาและมองเห็นร้านชัดเจนดังนั้นอาจจะหารายได้เสริมด้วยการรับติดป้ายโฆษณาก็ดูเหมือนว่าจะน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

aa19

ภาพจาก http://goo.gl/fikE2F

5.ตำแหน่งเชิงสะพานต่างๆ

ทำเลที่อยู่ใกล้สะพานเกินไปถือเป็นทำเลด้อยเช่นกันเพราะทางเข้ามักไม่สะดวก และกฎหมายเองก็ไม่อนุญาตให้มีการเชื่อมทางเข้าออกภายใน 50 เมตรจากเชิงสะพาน เนื่องจากอันตรายต่อรถที่วิ่งขึ้นลงสะพาน

ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ควรเปิดร้านให้อยู่ห่างจากจุดที่เป็นตำแหน่งของสะพานเกินกว่า 50 เมตร หรือถ้ามีการลงทุนเปิดร้านไปแล้วสะพานเพิ่งจะสร้างตามมาภายหลังทางแก้ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการทำป้ายริมถนนเพื่อบอกทางล่วงหน้าให้ลูกค้าได้ทราบว่าระยะห่างเท่าไหร่กว่าจะถึงร้านและมีป้ายบอกทางต่อเนื่องไปถึงจุดที่เป็นทางเชื่อมเข้าร้านหลังจากที่ลงสะพานเรียบร้อยแล้ว

ความจริงยังมีทำเลยอดแย่อีกไม่น้อยที่เราควรหลีกเลี่ยงหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาทางแก้ไข แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการประเมินล่วงหน้าหรือถ้าจะให้ดีสำรวจพื้นที่จากกรมผังเมือง เพื่อให้ทราบทิศทางการพัฒนาของเมืองที่ชัดเจน การเสียเวลาในเบื้องต้นเพิ่มมากขึ้นแต่อาจเป็นผลดีที่ไม่ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ในอนาคต

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด