เทรนด์มาแรง! ธุรกิจร้านค้าปลีก ปี 2022

นับตั้งแต่การระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ มากมาย ยังเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

แน่นอนว่าธุรกิจที่เปิดให้บริการเฉพาะออฟไลน์หากไม่ปรับรูปแบบบริการทั้งออฟไลน์และออนไลน์ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หลายๆ แบรนด์ต้องเร่งปรับโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืน

หากถามว่าอนาคตเทรนด์ธุรกิจร้านค้าปลีกทั่วโลกจะเป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าปลีกและผู้บริโภคได้รับทราบ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง

1. ร้านค้าปลีกปิดร้านต่อเนื่อง

ธุรกิจร้านค้าปลีก

ภาพจาก freepik.com

ในสหรัฐอเมริกาเห็นได้ชัดเจนว่าร้านค้าปลีกหลายๆ แบรนด์มีการปิดกิจการต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการระบาดโควิด-19 ด้วยซ้ำ และในปี 2022 ร้านค้าปลีกหลีกเลี่ยงการปิดร้านไม่ได้ เมื่อการช้อปปิ้งออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาท ยิ่งการระบาดโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจค้าปลีกปิดกิจการ แม้ว่าประชาชนจะกลับสู่ชีวิตปกติหลังโควิด-19 แต่อัตราการปิดอาจลดลง

2. ก้าวไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์

48

ภาพจาก freepik.com

จุดหักเหที่เห็นได้ชัดในการปิดร้านค้าที่มีหน้าร้านจริง คือ ยอดขายจากออนไลน์เพิ่มขึ้น จากการศึกษาของ Verizon Look Forward รายงานโดย Retail Customer Experience พบว่า 60% ของผู้บริโภคบอกว่าซื้อของจากหน้าร้านจริงในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดลดลงเหลือ 37% และในอนาคต 42% ของผู้บริโภคจะซื้อทั้งออฟไลน์และออนไลน์

3. จัดส่งฟรีและรวดเร็วตอบโจทย์ผู้บริโภค

47

ภาพจาก https://bbc.in/2ZU8gKF

ผู้บริโภคอาจซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น และคาดหวังการจัดส่งที่รวดเร็วกว่าเดิม ผู้ให้บริการออนไลน์อย่าง Amazon กำลังปรับรูปแบบให้บริการจัดส่งที่รวดเร็ว นอกจากนี้ 90% ของผู้บริโภคบอกว่าจะซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยขึ้นหากได้รับตัวเลือกในการจัดส่งฟรี นอกจากนี้ 24% ของผู้บริโภคยอมรับว่าพวกเขาจะใช้จ่ายมากขึ้นหากมีการจัดส่งฟรี

4. ร้านค้าปลีกออกแบบพื้นที่ให้ปลอดภัย

46

ภาพจาก freepik.com

ร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงมีการออกแบบพื้นที่ใหม่เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกปลอดภัยจากโควิด-19 ลูกค้าจำนวนมากยังคงต้องการไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าที่มีหน้าร้านจริง เนื่องจากชอบประสบการณ์ในร้านค้าและชอบที่จะพูดคุยโดยตรงกับเจ้าของร้านก่อนซื้อสินค้า แต่ลูกค้าต้องการความปลอดภัยก่อนที่จะเข้าไปในร้าน

5. การชำระเงินด้วยตนเองในร้าน

45

ภาพจาก freepik.com

ตัวอย่างหนึ่งของการออกแบบร้านค้าใหม่ได้เพิ่มการใช้การชำระเงินด้วยตนเอง (เกี่ยวข้องกับการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส) จากการศึกษาของ Verizon Look Forward พบว่า 23% ของผู้บริโภคบอกว่า พวกเขาใช้บริการการชำระเงินด้วยตนเอง โดยร้านค้าบางแห่งได้ยกเลิกบริการชำระเงินที่เคาน์เตอร์ POS ปรับไปใช้ระบบชำระเงินด้วยมือถือ

6. การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส

44

ภาพจาก freepik.com

การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020-2021 จากการศึกษาของ Verizon Look Forward พบว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคใช้ระบบชำระเงินด้วยบัตรเครดิตแบบไม่ต้องสัมผัส 36%, การชำระเงินผ่านมือถือแบบไม่ต้องสัมผัส 33%) และบริการจัดส่งของร้านของชำกว่า 38% แบบไม่ต้องสัมผัสเป็นครั้งแรกในช่วงการระบาดโควิด

7. ร้านค้าปลีกนำเทคโนโลยี AI มาใช้

43

ภาพจาก freepik.com

การใช้งาน AI ในร้านค้าปลีก ได้แก่ การจัดการสินค้าคงคลัง การเข้าถึงข้อมูลแบบไดนามิก การแชทแบบโต้ตอบ การดูแลด้วยภาพ การค้นพบตามคำแนะนำ การสนับสนุนการสนทนา การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และอื่นๆ บริษัทต่างๆ ใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวให้กับลูกค้ามากขึ้น

8. การไลฟ์สตรีมมิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

42

ภาพจาก freepik.com

ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกหันมานิยมสตรีมมิงแบบสดเพื่อขายสินค้า และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020 และ 2021 ผู้บริโภคที่กักตัวอยู่บ้านหันมาดูการสตรีมมิงสดจากร้านค้า เนื่องจากสามารถมีส่วนร่วมเมื่อช็อปปิ้งออนไลน์ ผู้บริโภคใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดูคนดัง และผู้มีอิทธิพลที่จัดรายการบันเทิงในหัวข้อต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อขายสินค้า

9. การใช้ Social Commerce บน Instagram

41

ภาพจาก https://bit.ly/3a3a9Xd

ผู้ค้าปลีกหันมาใช้ Social Commerce สร้างประสบการณ์ในการช็อปปิ้งแบบส่วนตัวให้ลูกค้า เช่น การชำระเงินบน Instagram ช่วยให้ผู้ค้าปลีกมอบประสบการณ์แบบครบวงจรให้กับลูกค้าได้ ด้วยเหตุนี้แบรนด์ค้าปลีกจึงสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ กำหนดส่วนลดเฉพาะบุคคล รับคำติชม โดยที่ทุกคนไม่ต้องออกจาก Instagram

10. ร้านค้าปลีกยึดโมเดลตลาด Omni channel

40

ภาพจาก https://bit.ly/2ZKy4bW

นับจากนี้ไป Omni-Channel จะกลายเป็นโมเดลที่ทุกแบรนด์ค้าปลีกต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง บนโลกที่ไร้รอยต่อ การซื้อขายสินค้าก็จะถูกทลายเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์เช่นกัน ทุกแบรนด์ต้องเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ที่สำคัญคือการยกระดับการขนส่งโลจิสติสก์เพื่อให้ร้านค้าออฟไลน์มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น และต้องพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิทัล รวมถึงช่องทางการชำระเงินออนไลน์จากธนาคาร เรียกว่าแบรนด์ไหนเข้าใจผู้บริโภคมากกว่า เลือกเครื่องมือได้ถูกต้อง และเข้าถึงได้ไวกว่า ย่อมสร้าง ‘Seamless Shopping Experience’ ให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง

นั่นคือ 10 เทรนด์มาแรงสำหรับธุรกิจร้านปลีกในปี 2022 ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง รู้ก่อนปรับตัวก่อน ย่อมได้เปรียบ และอยู่รอดอย่างยั่งยืน เพราะโลกธุรกิจไม่เหมือนอีกต่อไป


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ข้อมูลจาก https://bit.ly/3uvMuYT

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3l4XKIE

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช