เทรนด์ชานมไข่มุก ปี 2019 น่าลงทุน หรือ กระแส?

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน จะสังเกตได้ว่ามีธุรกิจ “ชานมไข่มุก” เปิดขายอยู่ทั่วไปหมด ตั้งแต่รูปแบบรถเข็น คีออส เคาน์เตอร์ จนถึงเปิดเป็นร้าน พิสูจน์กระแสความแรงของธุรกิจเครื่องดื่มจากไต้หวัน ที่มาโด่งดังในบ้านเราได้เป็นอย่างดี

ก่อนนี้ประมาณ 15 ปี ชานมไข่มุกเคยได้รับความนิยมอย่างสูงมาแล้วรอบหนึ่ง ก่อนที่กระแสจะค่อยๆ แผ่วลงไป จนเมื่อ 2-3 ปีให้หลังมานี้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง

ซึ่งการกลับมาครั้งนี้มาพร้อมกระแสที่แรงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะได้ขยายตลาดกว้างขึ้นนอกเหนือจากวัยรุ่นก้าวไปสู่คนทำงาน และครอบครัว

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ทราบว่า เทรนด์ชานมไข่มุกในปี 2019 จะเป็นอย่างไร มีแนวโน้มที่จะเติบโตหรือไม่อย่างไร หรือเป็นแค่กระแส มีความน่าสนใจลงทุนมากน้อยแค่ไหน

จุดเริ่มต้นชานมไข่มุก

w1

ภาพจาก https://bit.ly/2S2s9WH

ย้อนกลับไปที่จุดกำเนิดของชานมไข่มุก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติไต้หวัน ในช่วงปี 1988 ร้านชุนสุ่ยถัง ได้ประชุมหาไอเดียเครื่องดื่มใหม่ นั่นทำให้คุณหลินชิ่วฮุย ลองเทขนมของเธอลงไปในชา แล้วก็พบว่ามีรสชาติอร่อย

คนอื่นๆ ในที่ประชุมเห็นพ้องต้องกัน ว่าจะต้องลองทำเครื่องดื่มแนวนี้ นั่นทำให้ ชาดำ แป้งมันสำปะหลัง นมข้นหวาน น้ำเชื่อม และน้ำแข็ง มาบรรจบกัน กลายเป็น “ชานมไข่มุก” เครื่องดื่มที่ขายดิบขายดีในเวลาต่อมา

แม้เทรนด์สุขภาพจะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กระแสชานมไข่มุกในไต้หวันสร่างซาไปเหมือนกับในไทย มีการดัดแปลงจากชาไต้หวัน เป็นชาเขียวและชาผลไม้ ขณะที่ส่วนผสมก็พัฒนาจากเม็ดแป้ง เพิ่มเป็นพุดดิ้ง ช็อกโกแลต หรือผลไม้อีกหลากหลายชนิด การขยายวัฒนธรรม “ชานมไข่มุก” สู่เอเชีย

คนไทยติดเครื่องดื่ม

w3

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้เหงื่อยออกและเหนื่อยได้ง่าย ดังนั้น เครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานชื่นใจ ย่อมขายได้ตลอดวัน เพียงแค่เลือกความหวานได้ ก็จะเป็นรสชาติที่ถูกปากทุกคน

เพราะฉะนั้นแฟรนไชส์ประเภทเครื่องดื่มอย่างชานมต่างๆ แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยลงไปบ้าง แต่ก็จะสังเกตได้ว่ายังมีลูกค้าอยู่ต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยผู้อ่านอาจสังเกตจากตัวเองหรือคนรอบข้างก็ได้เช่นกันว่า ยังซื้อชานมไข่บุกบ่อยแค่ไหนในปัจจุบัน

กลุ่มลูกค้ากว้างขวาง

w4

ชานมไข่มุกปัจจุบันเป็นเครื่องดื่มที่มีคนรู้จักมากขึ้น ต่างจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพบางชนิดที่อาจเข้าถึงแค่คนบางกลุ่ม ในปีก่อนๆ นั้น ชานมไข่มุกอาจเริ่มจากเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษามากกว่า แต่ในปัจจุบันมีการรับประทานกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มที่สำคัญหรือกลุ่มวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ และคนทำงาน

สำหรับกลุ่มวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ อาจจะเจาะตลาดด้วยการเปิดธุรกิจชานมในชุมชน เพราะคนกลุ่มนี้มักเริ่มมีเวลามาก ทำให้สามารถซื้อดื่มได้ตลอดวัน หรือหากเป็นคนทำงานหรือพนักงานออฟฟิศหรือย่านธุรกิจ ชานมไข่มุกก็เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ซื้อทานได้ทั้งวัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ดื่มกาแฟ ชาก็มักเป็นตัวเลือกแรกๆ

ธุรกิจชานมไข่มุกมีต้นทุนไม่สูง

w9

การที่มีผู้ประกอบการเยอะ อาจมีข้อดีที่ทำให้มีแหล่งสินค้าให้เลือกมากขึ้นในราคาที่ถูกลง สำหรับธุรกิจชานมไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีต้นทุนในการขายไม่สูงมาก

หากเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มชนิดอื่นอย่าง โดยอาจตกอยู่ที่เพียง 12-15 บาท ต่อแก้วเท่านั้น แถมอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าสามารถขายได้กับลูกค้าทุกช่วงอายุอีกด้วย

ความท้าทายของธุรกิจชานมไข่มุก

w6

  1. จำนวนคู่แข่งในตลาดค่อนข้างมาก ตั้งแต่รายใหญ่ รายเล็ก หน้าเก่า หน้าใหม่ รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่าหมื่นราย
  2. มีเครื่องดื่มอื่นๆ ที่สามารถมาแย่งตลาด หรือทดแทนได้ เช่น กาแฟเย็น น้ำผลไม้ เครื่องดื่มสำเร็จรูปบรรจุกระป๋อง ฯลฯ
  3. ราคาที่สูงกว่าโดยเฉลี่ยของเครื่องดื่มทั่วไป อาจทำให้ลูกค้าเลือกเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ แทน
  4. ในอนาคตอาจมีเจ้าใหม่ผุดขึ้นจนล้นตลาด ทำให้เกิดภาวะสินค้าเกินความต้องการของผู้ซื้อ

ปัจจัยชานมไข่มุกทวงบัลลังก์เครื่องดื่มอีกครั้ง

w7

  1. การกลับมาที่เพิ่มความพิเศษลงไป เช่น ลาวา, เม็ดไข่มุกแบบ Brown Sugar, Topping Cheese, รสชาติแปลกๆ อย่างไข่เค็ม หมอนทอง ฯลฯ
  2. ใช้โซเชียลโปรโมต หลายร้านเปิดใหม่มีลูกค้าไปต่อแถวกันยาวเหยียด การลงภาพเช็คอินร้านในโซเชียลมากมาย จึงไม่แปลกเลยที่จะมีหลายคนอยากไปทดลองชิมชาไข่มุกบ้าง
  3. หาซื้อง่าย จากสองปัจจัยด้านบนเป็นส่วนที่ทำให้ “ชานมไข่มุก” ขายดิบขายดี สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการมากมาย จึงไม่แปลกที่จะมีธุรกิจนี้ผุดขึ้นตามมาในหลากหลายยี่ห้อ และเมื่อยิ่งหาซื้อง่าย คนก็ยิ่งเลือกดื่มเยอะ จึงไม่แปลกเลยที่ชานมไข่มุกจะไปอยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภคที่คุ้นชินและเลือกเป็นเครื่องดื่มลำดับแรกๆ

มูลค่าของตลาดชานมไข่มุก

w8

มีการประเมินว่า ปัจจุบันตลาดชานมไข่มุกทั่วโลก มีมูลค่าอยู่ที่ 62,500 ล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 มูลค่าตลาดจะเติบโตไปอยู่ที่ 103,000 ล้านบาท สำหรับประเทศไทย ตลาดชานมไข่มุก มีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท

ในประเทศไทยเองกระแสชานมไข่มุกกลับมา ทำให้มีผู้นำเข้าแบรนด์จากไต้หวัน หรือเปิดร้านใหม่ของตัวเอง เป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งร้านอาหารบางแห่ง ก็เพิ่มเมนูนี้เข้าไปด้วย
เทรนด์ธุรกิจชานมไข่มุกปี 2019

w10

ในประเทศไทยมีร้านชานมไข่มุกมากมาย ทั้งแฟรนไชส์และสร้างแบรนด์เอง ดังนั้น กระแสการทำแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ในปี 2019 ยังน่าทำอยู่ เห็นจากมีร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแบรน์ไทยและแบรนด์นอก เนื่องจากการกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งของเครื่องดื่มตัวนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ ที่นอกเหนือจากกาแฟ หรือ น้ำผลไม้

อีกทั้งเทรนด์บรรจุภัณฑ์ ถือเป็นจุดขายที่ของชานมไข่มุกในยุคนี้ แก้วปิดด้วยฝาแผ่นพลาสติกโชว์โลโก้ของแต่ละแบรนด์ สวยสะดวกต่อการพกพา โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องการซื้อกลับบ้าน หรือจากถ่ายรูปแชร์ส่งให้เพื่อน และซื้อไปเลี้ยงตามออฟฟิศ

w2

นอกจากนี้ ยังมีเมนูหลากหลายมีให้เลือกตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน จึงทำให้ธุรกิจชานมไข่มุก อาจจะไม่ใช่เป็นธุรกิจตามกระแส แต่สามารถกลายเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทยได้เลย

ดังนั้น การจะอยู่รอดในธุรกิจชานมไข่มุกได้ คงต้องหาจุดเด่นของแบรนด์ตนเอง ที่สร้างความแตกต่าง เช่น ความพิเศษของเม็ดไข่มุก รสชาติของชา รวมถึงการสร้าง Brand Loyalty ที่บางครั้งสามารถผลักดันราคาขายให้ไปถึงแก้วละร้อยบาท


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

แหล่งข้อมูลจาก

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2Hf9jfb

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช