เทคนิคเปิดร้านสารพัดบริการ แบบไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์

การลงทุนเปิดร้าน “ สารพัดบริการ ” ถือเป็นทางเลือกที่หลายคนกำลังสนใจ ถามว่าทำไมหลายคนถึงอยากมีธุรกิจ “ร้านสารพัดบริการ” คำตอบก็สั้นๆง่ายๆ “เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่” ในยุคที่การตลาดออนไลน์กำลังเติบโต

ชีวิตเราก็มีความเร่งรีบ ธุรกิจใดก็ตามที่ช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มักได้ความนิยม คือที่มาของเทรนด์ฮิตอย่าง “ร้านสารพัดบริการ” ที่มีจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com ปัจจุบันเรามีแฟรนไชส์ร้านสารพัดบริการให้เลือก อันจะช่วยประหยัดเวลาในการเริ่มต้นลงทุนมาก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่อยากลงทุนกับแฟรนไชส์แต่อยากสร้างแบรนด์ร้านของตัวเอง

ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับก่อนว่าถ้าใครอยากจะเริ่มทำเอง อาจจะต้องวุ่นวายในการหาอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร ไปจนเครื่องไม้เครื่องมือเล็กๆ น้อยๆ อย่าลืมเรื่องโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้อีกพอสมควรด้วย

เปิดร้านสารพัดบริการต้องขออนุญาติอะไรบ้าง

19

ภาพจาก bit.ly/2T2A08D

การประกอบกิจการรับจ้างหรือบริการไม่เข้าข่ายเป็นพาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ แต่หากว่าประกอบกิจการขายสินค้าไม่ว่าอย่างใดๆ อย่างเดียวหรือหลายอย่าง คิดรวมทั้งสิ้นในวันหนึ่งขายได้เป็นเงินตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป หรือมีสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อขายมีค่ารวมทั้งสิ้นเป็นเงินตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป เข้าข่ายเป็นพาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499

ดังนั้นการเปิดร้านสารพัดบริการที่ไม่ได้มีการขายสินค้าใดๆ เพิ่มถือเป็นงานบริการจึงมีแค่ใบขออนุญาตในการเปิดกิจการ แต่ในบางกรณีที่ผู้ลงทุนบางรายมีความต้องการขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อนำมาลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจ ทางธนาคารมักจะขอเอกสารเพิ่มเติมคือ “ทะเบียนพาณิชย์” วิธีการที่สืบทราบมาก็คือให้เรานำสินค้ามาขายในร้านสารพัดบริการร่วมด้วย เพื่อให้เข้าข่ายที่ต้องเป็น “พาณิชยกิจ” เพื่อที่จะได้จดทะเบียนพาณิชย์ได้

7 สิ่งที่ต้องมีในร้านสารพัดบริการ

18

1. พื้นที่สำหรับงานบริการที่เหมาะสมประมาณ 10-20 ตร.ม.พื้นที่น้อยๆแต่ขอให้มีประสิทธิภาพ ภายในร้านควรตกแต่งให้มีบรรยากาศที่ดูน่าเชื่อถือ การจัดวางอุปกรณ์ต้องเป็นระเบียบสามารถหยิบใช้ได้โดยง่าย

2. พนักงาน อย่างน้อย 2 คนหนึ่งคนสำหรับอยู่ประจำร้าน ส่วนอีกคนไว้คอยส่งเอกสารหรือรับเอกสารตามจุดต่างๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในงานบริการ

3. มีการติดตั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพราะทั้งสองอย่างนี้คือเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ

4. ถ้าเป็นการทำธุรกิจแบบไม่ซื้อแฟรนไชส์ก็ต้องรู้จักการเลือกซื้อโปรแกรมต่างๆที่จำเป็นเช่น โปรแกรมไปรษณีย์ โปรแกรมสำหรับการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และการรับจองตั๋ว ที่พัก ยานพาหนะต่างๆ

5. อุปกรณ์สำคัญต่างๆต้องครบถ้วน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ เครื่องชั่งดิจิตอล เครื่องสแกนบาร์โค๊ด เครื่องถ่ายเอกสาร ซองจดหมายขนาดต่างๆ แท่นหมึกและตราปั๊มของไปรษณีย์ กล่องพัสดุ เทปกาว เชือกรัดพัสดุ เป็นต้น

6. ต้องรู้จักกระบวนการทำงานทุกอย่างเช่น การรับส่งพัสดุ และจดหมายในรูปแบบต่างๆ การส่งธนาณัติออนไลน์และธรรมดา การชำระบิลทุกประเภททั้งแบบในกำหนดและเกินกำหนด การเติมเงินในโทรศัพท์ทุกเครือข่าย การต่อทะเบียน พรบ. ของรถยนต์ประเภทต่างๆ ฯลฯ

7. มีความสามารถในการอธิบายเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงค่าบริการและสามารถตอบคำถามที่สงสัยได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าธุรกิจนี้สามารถพึ่งพาในยามเร่งด่วนได้

รูปแบบงานบริการที่ควรมีในร้าน

17

  1. บริการรับฝากส่งเอกสาร และพัสดุ จดหมาย (ทุกรูปแบบ)
  2. รับชำระบิลได้ทุกประเภท
  3. บริการต่อทะเบียน ประกันภัย พรบ. ได้ทุกรูปแบบ
  4. ถ่ายเอกสาร เคลือบบัตร ปริ้นงาน ฯลฯ
  5. การถ่ายรูปด่วนรอรับได้เลย
  6. บริการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักทั้งในและต่างประเทศ
  7. ฝากเงิน โอนเงินได้ทุกธนาคารทั่วประเทศ
  8. บริการจัดจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ

รายได้จากธุรกิจร้านสารพัดบริการ (เป็นการคำนวณโดยประมาณ)

16

เนื่องจากเป็นงานที่เปิดให้มีช่องทางหลากหลายเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าดังนั้นกำไรที่ได้จึงต้องแยกย่อยกันไปด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเอามาคิดรวมๆกันต่อเดือนแล้วถ้าอยู่ในทำเลดีๆ หักค่าใช้จ่ายจิปาถะบางทีมีกำไรสุทธิกว่า 20,000-30,000 บาทเลยทีเดียว เราลองมาดูกำไรที่ได้ในบริการแต่ละประเภทว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง เริ่มจาก

  1. รายได้จากการฝากส่งของ 20-80 บาท/ชิ้น
  2. รายได้จากการส่งธนาณัติทุกประเภท 25-40 บาทต่อครั้ง
  3. รายได้จากการรับชำระบิล กำไร 5-20 บาทต่อบิล
  4. รายได้จากการจองตั๋วทุกประเภท กำไรขั้นต่ำ 100 บาท
  5. รายได้จากการรับเติมเงินมือถือทุกระบบ 3.25%-15% ของยอดเงินที่เติม
  6. รายได้จากการรับต่อ พรบ.และภาษี รถทุกประเภท กำไรประมาณ 150 บาทต่อคัน
  7. รายได้จากการรับถ่ายรูปด่วน 120-150 บาทต่อครั้ง
  8. ฯลฯ

ไม่อยากวุ่นวาย! เลือกลงทุนใน “ระบบแฟรนไชส์” ง่ายกว่า

ทางเลือกหนึ่งเพื่อประกอบการตัดสินใจหากพิจารณาแล้วว่าเราอยากเปิดร้านสารพัดบริการจริงๆ แต่ไม่มีประสบการณ์ไม่รู้วิธีการ จะมาเริ่มนับหนึ่งตั้งต้นก็คงไม่ทันคู่แข่งรายอื่นๆ แนะนำว่าใครที่อยากประสบความสำเร็จเร็วกว่าเดิมก็เลือกลงทุนในระบบแฟรนไชส์ร้านสารพัดบริการที่มีให้เลือกลงทุนหลายแบรนด์ เช่น

15

ร้านรับฝากส่งพัสดุ ชิปป็อบ เป็นธุรกิจเสริมลงทุน 15,000 บาท เปิดร้านเต็มตัวลงทุน 89,000 บาท

14

ชิปป์สไมล์เซอร์วิส งบในการลงทุนเบื้องต้น 29,999 – 229,000 บาท

13

ควิก เซอร์วิส แบบร้านมาตรฐาน พร้อมเปิดดำเนินกิจการ งบลงทุน 235,000 บาท

12

ร้านน้องฟ้าเซอร์วิส ลงทุนเริ่มต้น 9,999 บาท และยังมีแพคเกจลงทุนที่น่าสนใจให้เลือกลงทุนได้

แม้ภาพรวม “ร้านสารพัดบริการ” จะเป็นที่นิยมของคนจำนวนมาก ลูกค้ามีความต้องการ ตัวชี้วัดความอยู่รอดของธุรกิจนี้คือ “คุณภาพในการบริการ” ลูกค้าจะประทับใจและกลายเป็นลูกค้าประจำหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ ดังนั้นพนักงานก็มีส่วนสำคัญที่ต้องยิ้มแย้มกับลูกค้า ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งหากลูกค้าประทับใจก็มักจะภักดีต่อแบรนด์ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้บริการของเจ้าอื่น ก็ช่วยให้เรามีฐานลูกค้ามากขึ้น ได้กำไรมากขึ้นด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2wS4EdB

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด