เทคนิคที่ควรรู้เพื่อเริ่มต้น ธุรกิจขายเสื้อยืด

ธุรกิจที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ก็ยังคงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจหากไม่นับเรื่องอาหาร เครื่องดื่มแล้ว ธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้าก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้ในยุคนี้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีนัก

แต่คนทั่วไปก็ยังนิยมในการหาซื้อผ้าโดยเฉพาะหากมีดีไซน์น่าสนใจหรือเป็นแฟชั่นตามกระแสเสื้อยืดก็มักจะขายได้ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้เราก็ควรมีความรู้พื้นฐานทั้งการเลือกเสื้อเปล่าและการพิมพ์ที่แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

www.ThaiSMEsCenter.com นำข้อมูลส่วนนี้มาให้ทุกท่านได้พิจารณากับบางเรื่องที่เราอาจทราบเราก็เจาะลึกให้ทราบมากขึ้นเพื่อให้ทุกท่านได้มีข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจทำธุรกิจที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูงขึ้น

การหาซื้อเสื้อเปล่า สามารถทำได้ 2 แบบด้วยกันคือ

ธุรกิจขายเสื้อยืด

1.ซื้อสำเร็จรูป

ส่วนใหญ่ใช้วิธีการสั่งจากเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ ที่เป็นโรงงานผลิต มีทั้งขายปลีกและส่ง โรงงานจะผลิตออกมาเป็นเสื้อเปล่าหลายสีให้เลือกตามไซส์มาตรฐาน เราเพียงไปเลือกสีเลือกไซส์ และจำนวนที่ต้องการ ราคาต่อ 1 ตัว

หรือไปดูที่โบ้เบ๊ แพทตินัม ประตูน้ำก็ได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ S = 50-60 บาท M = 60-70 L = 70-80 XL = 80-100 บาท หากเป็นไซส์พิเศษที่ใหญ่ขึ้นมาอีกราคาจะแพงขึ้นตามเนื้อผ้าที่ใช้

ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น ไม่ต้องลงทุนซื้อเยอะ คละไซส์คละสีได้ตามต้องการ สร้างความหลากหลายให้กับงาน แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือราคาต่อตัวจะแพงกว่าการเลือกผลิตเองทำให้โอกาสทำกำไรจากการขายมีน้อยกว่าด้วย

2.จ้างผลิต ตัดเย็บเอง

15

โดยการไปซื้อผ้ามาเป็นพับๆ และนำมาจ้างตัดเย็บเอง แหล่งที่นิยมไปเลือกซื้อผ้ายืดกันมาก เช่น วัดสน ซอยสุขสวัสดิ์ 35 เขตราษฎร์บูรณะ นอกจากเป็นแหล่งขายผ้ายืด ยังมีบริการรับตัดตามไซส์และเย็บด้วยเลย

สำหรับการขายจะขายกันเป็นกิโลกรัมแบบยกพับ 1 พับมีประมาณ 20 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 160 – 190 บาท สำหรับ Cotton No.20 ส่วน Cotton NO.32 จะแพงขึ้นมากว่าเล็กน้อย

นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่ที่สีผ้าสีเข้มจะราคาแพงกว่า โดยผ้า 1 พับจะมีความยาวประมาณ 65-90 หลาแล้วแต่ชนิดของผ้า สามารถตัดเสื้อได้ประมาณ 80 – 120 ตัว ขึ้นอยู่ที่ไซส์ที่ตัดด้วย บางคนก็นิยมคละไซส์ โดยราคาค่าตัดผ้าต่อตัวอยู่ที่ 2-5 บาท เวลาตัดจะใช้โต๊ะตัดใหญ่ๆ วางผ้าทับไปทับมาและใช้เครื่องตัดออกมาทีเดียวในแต่ละส่วน ส่วนค่าเย็บราคาอยู่ที่ 12 – 20 บาท

11

นอกจากผ้าแบบหน้าเดียว ยังมีผ้าทออีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้ผลิตเสื้อยืด เรียกว่า ผ้าแบบถุงกลม หรือ Body Size เป็นผ้าที่ทอออกมาเป็นตัวติดกันทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไม่มีรอยต่อของตะเข็บผ้า ไม่ระคายเคืองต่อผู้สวมใส

สามารถตัดเสื้อได้จำนวนมากขึ้นต่อกิโลกรัม มีผ้าเศษเหลือน้อย สะดวก รวดเร็ว เพราะลดขั้นตอนการเย็บไปหนึ่งขั้นตอน แต่ข้อเสีย คือ ใน 1 พับจะตัดได้ 1 ไซส์เท่านั้น เพราะผ้าจะถูกทอมาให้พอดีกับขนาดของแต่ละไซส์

ข้อดีของการจ้างตัดเย็บเองนี้คือราคาต่อหน่วยถูกกว่าซื้อสำเร็จรูป สามารถออกแบบในรูปแบบที่ต้องการได้ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ แต่ข้อเสียที่สำคัญคือเราต้องผลิตจำนวนมาก และลงทุนสูงกว่า ค่าผ้า ค่าตัดเย็บ หากอยากคละสีก็ต้องลงทุนต่อพับใหม่ เสียเวลาเยอะกว่า เพราะต้องติดต่องานในหลายส่วน

เทคนิคการพิมพ์ลวดลายบนเสื้อ

10

เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและเป็นหัวใจของการทำธุรกิจหลังจากที่ตัดสินใจหาเสื้อยืดเปล่ามาได้แล้ว ก็ต้องหาจุดขายให้กับธุรกิจนั้นคือการพิมพ์ลวดลายบนเสื้อ ซึ่งงานพิมพ์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ การพิมพ์โดยใช้บล็อกสกรีน และการพิมพ์โดยใช้เครื่อง

1.การพิมพ์โดยใช้บล็อกสกรีน หรือเรียกว่า Silk Screen

13

เป็นวิธีที่นิยมทำกันมาก โดยเฉพาะเหล่าบรรดานักศึกษา หรือพ่อค้าแม่ค้าที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ซิลค์สกรีน คือ วิธีการปาดหมึกพิมพ์ ผ่านตะแกรงไหมที่ถูกนำมาขึงเป็นบล็อค โดยหมึกจะซึมผ่านรูของตะแกรงไหมที่ออกแบบมาเป็นรูปต่างๆ ลงไปบนเนื้อผ้า

วิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายหลักด้วยกัน 2 ส่วน คือ ค่าบล็อกและค่าสกรีน การทำบล็อกขึ้นมาสำหรับเสื้อ 1 ลาย จะนับตามจำนวนสีที่ใช้ เช่น เสื้อลายนี้ประกอบด้วยสี 3 สี ก็ต้องทำบล็อกขึ้นมา 3 สี ราคาขึ้นอยู่กับขนาดความใหญ่ของลาย เริ่มต้นที่ A4 = 200 บาท A3 = 350 บาท

แหล่งทำบล็อกราคาถูกจะอยู่ย่านสนามกีฬาแห่งชาติ ย่านมาบุญครอง ในส่วนของค่าสกรีน ซึ่งคิดตามสีและตำแหน่งของลายด้วยเช่นกัน เช่น หากลายมี 3 สี ต้องสกรีน 3 ครั้ง ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามเนื้องานไปด้วย โดยเริ่มต้นสีแรกที่ 10 – 20 บาท สีต่อไป 5 – 10 บาท หากมีการสกรีนจำนวนมาก บางร้านอาจไม่คิดค่าบล็อก

สำหรับสีที่ถูกนำมาใช้ในงานสกรีนมีหลายประเภทด้วยกัน แต่ที่นิยมใช้กันมากมี 3 ชนิด ได้แก่ สีจม สียาง และสีลอย สีจมเหมาะสำหรับใช้กับผ้าสีอ่อนๆ เท่านั้น เนื่องจากสีจะซึมลงไปในเนื้อผ้า เรียกว่าจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน

หากเป็นเสื้อสีเข้มจึงอาจทำให้สีเพี้ยนหรือมองเห็นลายไม่ชัดเจน สามารถระบายความร้อนได้ดี ส่วนสียางซึ่งนิยมใช้กันมาก เพราะสามารถพิมพ์ได้ทั้งผ้าสีอ่อนและสีเข้ม มีความยืดหยุ่นสูงและให้สีสดมีความเงางามในตัว ระบายความร้อนได้ไม่เท่าสีจม และสุดท้ายสีลอย ลักษณะคล้ายสียาง

แต่สีที่ได้จะออกมาด้าน สามารถพิมพ์ได้ทั้งผ้าสีอ่อนและสีเข้ม แต่ไม่เหมาะพิมพ์กับเสื้อกีฬาหรือเสื้อที่มีความมันของเส้นด้าย หาซื้อได้แถวสนามกีฬาแห่งชาติเช่นกัน

ข้อดีของการพิมพ์แบบนี้คือได้สินค้าที่มีความคงทนราคาไม่แพง ถึงแม้ต้องลงทุนในหลายส่วน ลงทุนทำบล็อกครั้งเดียว ก็สามารถทำซ้ำได้เรื่อยๆ รวมถึงในบล็อกๆ เดียว ยังสามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบด้วย จึงเหมาะกับงานที่คิดจะทำในระยะยาว แต่ข้อเสียที่สำคัญคือต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายส่วนและไม่สามารถพิมพ์งานที่ละเอียดมากๆจากหลายโทนสีได้

2.การพิมพ์โดยใช้เครื่อง แบ่งออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบดีทีจีและระบบฮีททรานเฟอร์

14

DTG (Direct to Garment) หรือการพิมพ์แบบดิจิตอล เหมาะสำหรับรูปภาพที่ต้องการสีสัน ความละเอียดสูง วิธีนี้จะเป็นการพิมพ์สีลงไปบนตัวเสื้อเลย ผ้าที่ใช้ คือ ผ้า Cotton 100 เท่านั้น โดยราคาจะคิดตามขนาดของภาพตั้งแต่ 4 x 4 นิ้ว 1 ตัว = 90 บาท A4 = 140 บาท จนถึง A3 = 160 บาท

Heat Transfer หรืองานรีดร้อน ลักษณะคล้ายงานสกรีนดิจิตอล แต่ต่างกันตรงที่ขั้นตอนการสกรีนเสื้อและเนื้อผ้าที่ใช้ โดยเป็นการพิมพ์งานลงบนกระดาษ จากนั้นจึงนำไปรีดด้วยความร้อนเพื่อพิมพ์ลายลงไปบนเนื้อผ้าอีกที เนื้อผ้าที่ใช้จะมีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ ไม่สามารถทำลงบนเนื้อผ้า Cotton เปล่าๆ ได้ และเหมาะพิมพ์ลงบนผ้าสีอ่อนมากกว่า

การพิมพ์แบบนี้มีข้อดีคือสามารถพิมพ์ได้ละเอียด หลายเฉดสี ไม่ต้องทำจำนวนเยอะ ตัวเดียวก็สามารถผลิตได้แล้ว เหมาะสำหรับการรับจ้างผลิตเสื้อตามวาระโอกาสต่างๆ อาทิ เสื้อวันเกิด เสื้อคู่รัก รวมถึงการทดลองตลาดในช่วงแรกๆ แต่แน่นอนว่าข้อเสียคือราคาต่อหน่วยสูงและสีที่พิมพ์จะไม่ทนทานเท่าการพิมพ์แบบซิลล์สกรีน

ทั้งนี้ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่คิดจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อยืดว่าจะเลือกวิธีการแบบไหนที่เหมาะสม ในที่นี้เรายังไม่ได้พูดถึงงเรื่องการตลาดเพราะเชื่อว่าหากคิดจะเริ่มต้นธุรกิจผู้ลงทุนเองก็ต้องมองหาตลาดที่จำหน่ายไว้แล้วรวมถึงช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบต่างๆที่ปัจจุบันเทคโนโลยีสื่อสารสามารถช่วยเรื่องนี้ได้มากทีเดียว

และเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนการทำธุรกิจเสื้อยืดลองทำแบบทดสอบดูความพร้อมของตัวเองว่ามีมากน้อยแค่ไหนจะได้ตัดสินใจในการทำธุรกิจง่ายขึ้น ดูรายละเอียดที่ goo.gl/a1gqZ8

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด