เทคนิคขับ Grab ให้ได้ 4 หมื่นต่อเดือน

หลายปีที่ผ่านมาคนไทยรู้จักกับ Grab ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสิงคโปร์ ที่ให้บริการเรียกรถ, แท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์, ส่งพัสดุ และ สั่งอาหาร ผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ

ซึ่งให้บริการในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทย Grab ดูเหมือนจะได้การตอบรับเป็นอย่างดีและมีการเรียกใช้บริการการเดินทาง การส่งอาหาร และการส่งของรวมกว่า 320 ล้านครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นตอบโจทย์สำหรับคนยุคใหม่

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า Grab ที่สะดวกสบายเช่นนี้ได้กลายเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ของผู้ที่สนใจ ซึ่งก็มีคนที่เข้าร่วมทั้งทำได้และทำไม่ได้ ซึ่งจุดแตกต่างคงอยู่ที่ “เทคนิค” ในการหารายได้จาก Grab ที่แต่คนอาจยังไม่เข้าใจเรื่องนี้

จากข้อมูลของแกร็บสตาร์ ชาเลนจ์ ที่เป็นการแข่งขันหาผู้ชนะในการสร้างรายได้จาก Grab แชมป์ของรายการนี้ได้ให้ความรู้ด้านเทคนิคที่น่าสนใจดังนี้

เทคนิคขับ

ภาพจาก bit.ly/2NZXGt6

1. ช่วงเช้าคือเวลาที่ดีที่สุด

เวลาเช้าเป็นเวลาที่ทุกคนจะออกจากบ้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะไปเรียนหรือไปทำงาน ดังนั้นจะมีลูกค้าเยอะมาก และพาร์ทเนอร์หลายคนก็พลาดงานในช่วงเวลานี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพียงแค่ตื่นเช้าขึ้นอีกนิด ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมาก

6

ภาพจาก bit.ly/2Ood01M

2. ศึกษาเส้นทาง

เส้นทางในกรุงเทพค่อนข้างซับซ้อน การศึกษาเส้นทางจะทำให้เรารู้ทางเลี่ยง ทางลัดต่างๆ รู้ว่าซอยไหนทะลุไปไหน เชื่อมต่อกับถนนอะไร จะช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางไปหาลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อจบงานได้เร็วก็มีเวลารับงานได้เพิ่มขึ้น แต่การศึกษาเส้นทางอาจต้องอาศัยการณ์สังเกต และประสบการณ์ของแต่ละคนร่วมด้วย

3. โทรคอนเฟิร์มงานกับลูกค้า

เมื่อรับงานแล้วการโทรคอนเฟิร์มงานกับลูกค้าจะช่วยลดปัญหาลูกค้าเรียกรถผิดประเภท ลูกค้าปักหมุดผิด หรือการหาลูกค้าไม่เจอ เช่น ลูกค้าปักหมุดที่ห้างขนาดใหญ่ ก็สามารถสอบถามลูกค้าได้ก่อนว่าลูกค้าอยู่ฝั่งไหน ประตูไหน มีอะไรเป็นจุดสังเกต

5

ภาพจาก bit.ly/2XpcyEm

4. หากลุ่ม / เพื่อนที่ขับแกร็บไบค์ด้วยกัน

การทำงานร่วมกับ Grab การมีกลุ่มเพื่อนเป็นสิ่งที่มีประโยชฯมากในการทำงาน เพราะเพื่อนๆในกลุ่มจะคอยส่งข่าวสารถึงกันว่า แถวไหนงานเยอะ แถวไหนรถติด ฝนตก แถมยังสามารถแลกเปลี่ยนเทคนิคการขับกันในกลุ่มได้อีกด้วย

5. รู้ว่าเวลาไหน ลูกค้าอยู่ตรงไหน

ธรรมชาติของลูกค้าจะมีพื้นที่การเรียกงานประจำๆ อยู่ตามช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้าลูกค้าจะอยู่สถานที่หนึ่ง แต่กลางวันลูกค้าคนเดิมอาจจะอยู่อีกที่หนึ่ง การรู้ทันว่าช่วงเวลาไหนลูกค้าควรจะอยู่ที่ไหนจะช่วยประหยัดเวลา และน้ำมันในการวิ่งหางานได้มากขึ้น

เหล่านี้คือเทคนิคในการหาลูกค้าแต่เมื่อได้ลูกค้ามาแล้วก็มีเทคนิคสำหรับบริการลูกค้าให้ประทับใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คนขับ Grab ควรให้ความสนใจเพราะหากเราสร้างความประทับใจลูกค้าได้ก็จะได้รับการประเมินคุณภาพที่ดีมีผลต่อการรับงานและอัตราค่าจ้างในระดับที่สูงขึ้น เทคนิคเหล่านี้ได้แก่

4

ภาพจาก bit.ly/32YFeFp

1.ความเป็นมิตรกับลูกค้า

การชวนคุยเป็นเรื่องที่คนขับ Grab ควรทำ ซึ่งก็ต้องดูตามความเหมาะสมลูกค้าบางคนอาจไม่ชอบการสนทนาแต่อย่างน้อยเราก็ควรมีการกล่าวทักทาย ทักถามเล็กน้อย หากลูกค้าสะดวกจะคุยด้วยเราจึงสนทนาในเรื่องที่ควรสนทนาเพื่อสร้างความเป็นกันเองให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายไม่ใช่นั่งเงียบตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง การคุยกับลูกค้าอย่างเป็นมิตรอาจทำให้ได้เพื่อนเพิ่มหรืออาจได้คอนเนคชั่นในการติดต่องานเพิ่ม บางทีอาจได้ทิปเพิ่มจากลูกค้าด้วย

2.ขับรถให้นุ่มนวลที่สุด

คนขับ Grab ทุกคนต้องพึงระวังเรื่องการขับรถอย่างนุ่มนวลและปลอดภัยไว้เสมอ สำคัญคือใจเย็นอย่าอารมณ์ร้อนไปกับสภาพการจราจรหรือคนขับรถอื่นๆที่อาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อย่ารีบทำเวลาจนขับรถให้ลูกค้ารู้สึกกลัว ให้เน้นความปลอดภัยไว้ก่อน ยิ่งขับรถดี สุภาพ ลูกค้ามักจะชอบกว่าการขับเร็ว ปาดซ้าย ปาดขวา แม้บางทีลูกค้าจะรีบแต่เราก็ควรขับแบบมีมารยาทไม่ใช่แซงแบบไร้เหตุผล

3

ภาพจาก s.nikkei.com/37kQvmM

3.บริการพิเศษ

เนื่องจาก Grab เป็นหนึ่งในงานบริการที่เน้นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้านอกจากอัธยาศัยดี ขับรถดี ก็ควรมีบริการพิเศษในรถด้วยเช่น มีน้ำดื่มให้กับลูกค้า หรือมีลูกอมไว้คอยบริการ บางคันอาจมีพาวเวอร์แบงค์ติดรถไว้คอยบริการลูกค้าด้วย และหากลูกค้ามีของเยอะ เราก็อาจช่วยลูกค้าถือของ หรือการเปิดเพลงช้าๆ เบาๆ ให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย การมีหนังสือคลายเครียดให้ลูกค้าอ่านในบางครั้ง วิธีเหล่านี้เป็นเทคนิคพื้นฐานแต่เชื่อเถอะว่าลูกค้าจะรู้สึกดีและประทับใจกับการขับ Grab ของเราได้มากขึ้น

ผลของการบริการที่ดีอาจทำให้เราได้รับคะแนนประเมินที่ดี ไม่รวมกับทิปที่เกิดจากความพอใจของลูกค้า หากดวงดีทั้งสัปดาห์ได้ทั้งทิปได้ทั้งประเมินดี รายได้ต่อสัปดาห์อาจทะลุถึงหลักหมื่นได้เลยเช่นกัน

สรุปเรื่องรายได้จากการขับ Grab แบบทำจริงจัง!

2

ภาพจาก bit.ly/2CWVtIw

สารพัดเทคนิคที่กล่าวมาจะนำมาสู่รายได้ที่มากขึ้นของคนขับ Grab ยิ่งถ้าเลือกเวลาถูก เลือกโซนรับงานดี แถมเป็นคนขยันชื่นชอบการวิ่งรถรับผู้โดยสารแบบไม่แคร์รถติด อาจสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท ซึ่งข้อมูลจากผู้ที่ขับ Grab เป็นอาชีพเสริมช่วงหลังเลิกงาน หรือวันหยุด

พบว่า สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500-2,000 บาท สำหรับวันธรรมดาแต่หากเป็นวันหยุดจะสร้างรายได้ประมาณประมาณ 1,500-2,000 บาท/วัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคนและเทคนิคในการหาลูกค้าและบริการลูกค้าของแต่ละคนด้วย ซึ่งคนที่สนใจอยากสมัคร Grab Car ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะวิธีการสมัครแบบจะง่าย เพียงคุณต้องเตรียมเอกสารให้ครบ ประกอบด้วย

  1. บัตรประจำตัวประชาชน
  2. ใบขับขี่รถยนต์
  3. เล่มจดทะเบียนรถยนต์
  4. พ.ร.บ. รถยนต์
  5. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารไทยพาณิชย์

แต่ในกรณีที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ตัวเองในการทำงาน จำเป็นต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้รถยนต์ด้วย รวมถึงผู้สมัครซึ่งมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จำต้องมีการตรวจสุขภาพ เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาเป็นเอกสารยืนยันเพิ่มเติม จากนั้นก็เลือกสมัครหารายได้กับ Grab Car ผ่านช่องทางดังนี้

1

ภาพจาก www.grab.com/th/driver

  1. สมัครขับ Grab Car กรุงเทพฯ ออนไลน์ ที่ www.grab.com/th/driver จากนั้นทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้น
  2. สมัครขับ ณ Grab สำนักงานใหญ่ ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 30 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ในเวลาทำกา รตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
  3. สมัครขับผ่านตัวแทนรับสมัคร (GrabNetwork)
  4. สมัครขับ ณ สถานีให้บริการ NGV ซึ่งสามารถตรวจสอบวันและเวลาของสถานีบริการล่วงหน้าได้

จะเห็นได้ว่า Grab เป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการหารายได้ของคนที่ขยัน ตั้งใจทำจริง อาชีพนี้สร้างรายได้ดีแน่แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้สำเร็จ ในระหว่างการทำงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

รวมถึงลูกค้าหลายคนที่อาจมีอารมณ์และบุคลิกต่างกัน คนขับ Grab ต้องรู้จักการจัดการปัญหาเหล่านี้และต้องมีความอดทนเพราะนี่ถือว่าเป็นหนึ่งในงานบริการที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/2DkAPlZ

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2SKHIbD

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด