เถ้าแก่ Vs มนุษย์เงินเดือน จะเลือกเป็นอย่างไหนกันดี?

สังคมปัจจุบันการแข่งขันมีสูง งานประจำก็หาได้ยากมากขึ้น หลายคนบ่นถอดใจและมองหาธุรกิจที่เป็นของตัวเองมากขึ้น ยิ่งคนยุคใหม่มีการศึกษาสูงไม่ชอบที่จะเป็นลูกน้องใครแต่คำถามคือว่า หากคิดจะเป็นเจ้าของธุรกิจแท้จริงแล้วดีกว่ามนุษย์เงินเดือนจริงหรือไม่?หลายคนบอกว่าเรื่องนี้ไม่ต้องถามให้มาก เป็นเถ้าแก่เป็นเจ้าของกิจการก็ต้องดีกว่า มนุษย์เงินเดือน อยู่แล้ว

www.ThaiSMEsCenter.com ในฐานะที่อยู่กับแวดวงธุรกิจมานานอยากจะย้ำเตือนให้ทุกท่านไม่ลืมว่าเหรียญยังมีสองด้านเสมอสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจคือ “ความพร้อม”

สิ่งที่ดีกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะสบายกว่า การหาเหตุผลอธิบายเรื่องนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการเปรียบเทียบเพื่อให้คุณรู้ว่า ณ เวลานี้คุณมีความพร้อมแค่ไหนถ้าคิดจะก้าวไปสู่คำว่า “เถ้าแก่” ในอนาคต

1.เรื่องความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำงาน

มนุษย์เงินเดือน

ภาพจาก http://goo.gl/IDVMmn

ในกรณีที่คุณเป็นพนักงานบริษัทคุณก็ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านตามที่บริษัทได้จ้างคุณให้เข้ามาทำงาน ด้วยเหตุนี้เมื่อคุณได้มีโอกาสที่จะใช้เฉพาะความสามารถเฉพาะด้านที่มีจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปแสวงหาความรู้ในการบริหารจัดการด้านอื่นๆ

แต่การเป็น “เจ้าของธุรกิจ” สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ “ความรอบรู้ในเชิงธุรกิจ” เพราะบางครั้งธุรกิจที่เราตั้งเป้าไว้มีคนทำงานแค่ไม่กี่คน โครงสร้างองค์กรยังไม่มีแบบแผน เจ้าของก็ต้องลงมือทำเองแทบทุกย่าง จะว่าไปแล้วสาเหตุใหญ่ที่หลายคนล้มเหลวไม่เป็นท่าก็มาจากเหตุผลข้อแรกที่ว่านี้

ดังนั้นสิ่งที่เราต้องถามตัวเองคือรอบรู้ทุกด้านดีพอแล้วหรือยัง?

2.เรื่องของการลงทุน

r52

ภาพจาก http://goo.gl/aoAXUu

ถ้าทำงานเป็นพนักงานคุณได้เงินจากนายจ้าง รวมถึงสิ่งต่างๆตามกฎเกณฑ์ของบริษัทไม่ว่าจะโบนัส เลื่อนตำแหน่ง ฯ นอกจากนี้คุณสามารถลองผิดลองถูกได้ว่าสิ่งที่กำลังทำจะดีหรือไม่ถ้าไม่ดีอาจจะเสี่ยงกับการโดนเบื้องบนดุว่า แต่ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจเองทุกอย่างคือการลงทุนจากเงินของคุณเอง

ดังนั้นการทำงานต้องอยู่ในลักษณะ Perfect เพราะการผิดพลาดที่เกิดจากธุรกิจย่อมส่งผลถึงตัวคุณคนเดียวเต็มๆ

สิ่งที่ต้องถามตัวเองคือ เราพร้อมจะเผชิญหรือยัง?

3.เรื่องของเวลา

r53

ภาพจาก http://goo.gl/vuENkD

การเป็นมนุษย์เงินเดือนคุณทำงาน 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่ละสัปดาห์คุณทำงาน 5 วัน และทุกครั้งหลังเลิกงานถ้าคุณไม่ใช่ระดับซีอีโอที่งานยุ่งจนล้นมือคุณจะมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนๆได้บ้าง

แต่ถ้าคุณก้าวเป็นเจ้าของธุรกิจ ทุกวินาทีนั้นเพื่องานเท่านั้นยิ่งในตอนเริ่มต้นธุรกิจเวลา 24 ชั่วโมงทุ่มเทให้กับงานล้วนๆ ด้วยปัญหาที่ต้องมีแน่นอนและคุณก็ต้องแก้ไขมันไปให้ได้เมื่อก้าวผ่านช่วงแรกได้ก้าวต่อไปก็อาจทำให้คุณสบายขึ้นจนถึงวันที่ธุรกิจอยู่ตัวซึ่งอาจต้องใช้เวลามากน้อยแตกต่างกัน

สิ่งที่ต้องถามตัวเองคือ คุณกล้าที่จะสละเวลาเพื่อหาอนาคตที่ดีกว่าหรือยัง?

4.ธุรกิจไม่ใช่เกมส์เริ่มได้ก็ต้องไปให้รอด

r55

ภาพจาก  https://goo.gl/uotVIY

เข้าสำนวนไทยที่ว่า “ขึ้นหลังเสือ” ในเมื่อขึ้นไปแล้วคิดจะลงไม่ใช่เรื่องง่าย ทำไมนะหรือครับเหตุผลสำคัญเลยคนที่ก้าวมาเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ลาออกจากงานประจำแทบทั้งสิ้น

บางคนอาจจะมีเทคนิคที่ดีกว่าคือการเหยียบเรือสองแคมไว้ก่อนงานประจำก็รักษาไว้ คู่กับการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง แต่แบบนี้สิ่งสำคัญคือต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสมมิเช่นนั้นอาจจะพังไปพร้อมๆกันทั้ง 2 อย่างได้ สิ่งที่ต้องถามตัวเองคือ คุณมั่นใจในสิ่งที่เลือกแล้วหรือยัง

กับคำถามที่ต้องการคำตอบเหล่านี้เราไม่ได้ชี้วัดว่าระหว่างมนุษย์เงินเดือนนั้นดีกว่าหรือแย่กว่าการเป็นเถ้าแก่ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสมของตัวเองเป็นสำคัญ

r56

ภาพจาก http://goo.gl/PGSG5n

การทำธุรกิจย่อมดีกว่าแน่ถ้าคุณมีความพร้อม มีทักษะ มีเวลาและมั่นใจที่จะกล้าเสี่ยง แต่ถ้าคุณยังกล้าๆ กลัว ๆหรือไม่มั่นใจ ขอแนะนำว่าให้รอโอกาสอีกสักนิด สะสมประสบการณ์อีกสักหน่อย การเป็นนายตัวเองถือเป็นสิ่งดีแต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเช่นกัน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด